บทที่ 1
"นันท์..กำลังพูดอะไรอยู่..รู้ตัวไหมคะ? ถ้าจะมาอำกัน..นิไม่ขำด้วยนะ"
"อำ? แล้วผม..หรือนิที่ยังไม่รู้ตัว?"เสียงคนหมดใจถูกส่งมาจากคุณหมอหนุ่มผู้กำลังเจริญรุ่งเรืองกับหน้าที่การงาน ถ้อยคำปราศจากน้ำใจพาใจดวงน้อยของคนเป็นภรรยาปวดหนึบ..น้ำใสคลอหน่วย ก่อนจะกลั้นใจถามเขา
"ทำไมคะ? นิทำอะไรผิด"
"คุณลองดูสภาพคุณตอนนี้สิ" คุณหมอหนุ่มพูดพร้อมหรี่ตามองอดีตรักแรก
เขากับภรรยาคบกันตั้งแต่เรียนมัธยม เป็นเพื่อนห้องเดียวกัน
ในอดีตนิรมนช่างสดใสนัก..เธอเป็นผู้หญิงตัวเล็กผิวขาวจัด หน้าหมวย..มีรอยยิ้มกว้าง..ร่าเริง..เป็นที่รักของเพื่อนๆ
แต่บัดนี้เหลือเพียงภาพของหญิงวัยกลางคน ใบหน้าเล็กเริ่มมีริ้วรอยจากการทำงาน..เนื้อตัวก็ผอมแห้ง ช่างต่างจากความเปล่งปลั่งในอดีตราวกับคนละคน
นิรมนสบตาเขาก่อนจะไล่สำรวจตัวเอง ริมฝีเล็กบิดยิ้มสมเพช
"ฮึก..เพราะนิแก่ขึ้น..คุณเลยจะหย่าอย่างงั้นเหรอคะ?"
"มันไม่ใช่แค่อายุที่มากขึ้น แต่เพราะคุณนะ..ไม่ดูแลตัวเอง"
"..."
"ขอโทษน่ะ ดูสภาพคุณตอนนี้..ขนาดผมเป็นหมอเข้าเวรดึกดื่นยังไม่โทรมเท่าคุณเลยนิ"
"...."
"ที่สำคัญ..คุณไม่เคยคิดจะพัฒนาตัวเอง เราแต่งงานกันมาสิบปีแล้วนะนิ ดูผมซิอีกไม่นานก็จะได้เลื่อนตำแหน่ง แต่ตัวคุณยังดักดานอยู่แต่ในบ้าน"
"นันท์..คุณ..คิดกับนิแบบนี้จริงเหรอ?" เสียงแหบแห้งราวใจจะขาด ไม่ได้ทำให้ผู้ชายตรงหน้ารู้สึกผิด
"ก็ผมพูดความจริง..คุณคิดดูนะ เมียไอ้พงษ์ก็เป็นแม่บ้านฟูลไทม์ ยังดิ้นรนขายเสื้อผ้าออนไลน์ แต่คุณล่ะ? วันๆ ก็เอาแต่แบขอเงินผม กินอยู่ก็ใช้แต่เงินกงสีที่บ้านผม"
"...."
"คุณไม่คิดละอายแก่ใจบ้างเหรอ?" ถ้อยคำด้อยค่า..แกมดูถูก ส่งผลให้นิรมนพูดไม่ออก
"ที่สำคัญคุณมีลูกให้ผมไม่ได้!!"
"...."
"ก็เหมือนที่แม่ผมเคยบอก..คุณไม่ได้ต่างจากแม่ไก่ที่ออกลูกไม่ได้"
ซ่า!!!
เสียงน้ำเปล่าสาดใส่..เรียกสติคุณหมอหนุ่มได้ชะงัก มือใหญ่ของศัลยแพทย์ลูบหน้า นึกตกใจกับพฤติกรรมของภรรยาที่ใกล้จะเป็นอดีตภรรยาไม่น้อย
ริ้วรอยความเจ็บปวดพาดผ่านดวงตาที่เขาเคยรัก..สร้างความเจ็บหน่วงในใจ จึงคิดได้ว่าตนอาจพูดแรงไป
"พูดจบหรือยังคะ?"
"...."
“ฮึก..นิจะได้พูดบ้าง คุณกล้าพูดมาได้ยังไงคะ คุณนันท์..คุณกล้าด่านิไม่คิดพัฒนาตัวเอง?”
“….”
“แล้วหมาที่ไหนคะ ที่บอกกับนิว่าให้ออกจากงาน เดี๋ยวไอ้หมาตัวนั้นจะเลี้ยงนิเอง" เสียงอ่อนหวานมาตลอดเปลี่ยนมากระแทกกระทั้น
"ไม่ดูแลตัวเอง?"
"...."
"แน่ละซิ..ก็นิไม่ได้ดูแลแค่คุณ แต่นิต้องดูแลป๊า..ม๊า..อาม่าของคุณ ต้องดูแลร้านขายยาที่เป็นกงสีที่บรรดาลูกๆ แบบคุณไม่มาดูแล”
“….”
“เงินเดือนสักบาทนิก็ไม่เคยได้ ม๊าของคุณบอกนิว่ายังไงคุณยังจำได้ไหม?”
“….”
“ฮึก…ลื้อแต่งเข้าบ้านอั้ว ก็ถือว่าเป็นลูกหลานในตระกูล กินอยู่ที่นี่ยังจะต้องใช้เงินอะไรอีก?”
“….”
“ถ้านิไม่ขอเงินคุณแล้วจะให้นิเอาเงินที่ไหนใช้คะ?” หล่อนทวงถามเสียงกร้าว จริงอยู่หล่อนยังพอมีสมบัติที่ครอบครัวเดิมเหลือทิ้งไว้ให้ แต่ชีวิตคนเราไม่แน่นอน ถ้ามัวแต่เอาเงินเก็บมาใช้..ไม่หาเข้าสักวันก็คงหมด
อีกอย่างเขาเป็นคนให้หล่อนออกจากงาน เขาก็ควรจะต้องรับผิดชอบหล่อนด้วยสิ!
“หึ นี่ยังไม่รวมที่อาม่าของคุณนอนติดเตียง คุณลืมไปแล้วเหรอคะ ใครที่เป็นคนดูแล? ก็เมียหน้าโง่ที่วันๆ ไม่ยอมพัฒนาตัวเองนี่ไง” ความจริงที่เขาเองก็รับรู้ ไม่ใช่เพราะความงกของแม่เขา ไม่ยอมจ้างผู้ดูแล อ้างแต่ว่าลูกสะใภ้ก็มีตั้งสองคน..ตัวแกเองก็ยังอยู่ จะเสียเงินเป็นหมื่นจ้างคนนอกทำไม
แต่พอถึงเวลาจริงๆ ช่วงกลางวันที่คนแก่นอน หล่อนต้องมานั่งเฝ้าหน้าร้าน ส่วนนังพี่สะใภ้ตัวดีก็อ้างแต่รับส่งลูก..ออกจากบ้านแต่เช้า
พอส่งลูกเสร็จแทนที่จะรีบกลับบ้าน แต่เลือกจะเดินเตร็ดเตร่ในห้างไม่ไกลจากโรงเรียนเพื่อรอรับลูกกลับแทน ครั้นหล่อนท้วงนังแม่สามีตัวดีก็เอาแต่เข้าข้างสะใภ้คนโต
'ลื้อไม่มีลูก ลื้อไม่มีสิทธิ์ไปว่าอาหนิง...หลานอั้วต้องมาที่หนึ่งเสมอ!!'
