บท
ตั้งค่า

ตอนที่10 ยื่นข้อเสนอ

ตงซานทำแค่เพียงสั่ง หมูสามรสกับสาลี่เชื่อมน้ำตาลมาอีกสองที่ ไม่ลืมที่จะสั่งข้าวสวยมาอีกเป็นอย่างสุดท้าย คนสนิทรู้งานมากพอที่จะยืนรออยู่ด้านนอก อย่างไรแล้วการทานอาหารของตงซาน ก็มักจะชอบความเป็นส่วนตัว

ไม่เคยมีใครเห็นเจ้านายชอบร่วมโต๊ะทานอาหารกับใครบ่อยเท่าไหร่นัก รอยยิ้มเล็กๆ น้อยๆ แบบนั้นอีก เห็นทีว่าผู้หญิงคนนี้ คงมีน้ำหนักในใจเจ้านายเขาอยู่มากเลยทีเดียว

"อาหารน่าทานจังเลยนะคะ ฉันน่ะ ไม่ค่อยได้กินอาหารดีๆ ขนาดนี้บ่อยเท่าไหร่นัก"

เขาคีบเนื้อหมูสามรสใส่ชามให้เธอหนึ่งชิ้น เลือกที่จะคีบปลาต้มผักกาดดองขึ้นมาให้หลิวชิงเหออีกหนึ่งอย่าง สังเกตเห็นว่าหลิวชิงเหอ มักจะชอบกินผักกาดมากกว่าเนื้อปลา นั่นเป็นเรื่องที่ต้องทำให้เขาประหลาดใจอีกแล้ว ทั้งที่คนทั่วไปมักจะเลือกกินเนื้อก่อนที่จะกินผักแบบนั้น

"คุณไม่ชอบกินปลาอย่างนั้นหรือ"

"ชอบนะคะ แต่ฉันชอบผักกาดดองนี่มากกว่า"

เอ่ยไปพลางกินผักกาดดองในชามจนหมด และคีบเนื้อหมูสามรสที่ตงซานคีบมาใส่ชามเอาไว้ให้ก่อนหน้านี้ เอาเข้าจริงๆ ตัวร้ายคนนี้ กลับแสดงนิสัยสุภาพบุรุษ อย่างที่ปฏิบัติกับนางเอกในเนื้อเรื่องไม่มีผิด

"คุณเองก็ทานบ้างเถอะค่ะ คุณน่าจะชอบเนื้อปลานี่นะคะ"

หลิวชิงเหอใช้ตะเกียบคู่ใหม่คีบเนื้อปลาใส่ในชามให้ชายหนุ่มอย่างเอาใจ เธอรู้ดีว่าเขาชอบกินปลาต้มผักกาดดอง ทว่า เขาไม่ได้ชื่นชอบผักกาดดองเท่าไหร่นัก อาจแค่กินได้แค่ตามมารยาทเท่านั้น แต่เอาเข้าจริงๆ เขาชื่นชอบแค่น้ำซุปและเนื้อปลาเท่านั้น ในเมื่อหลังจากนี้ ชีวิตของเธอต้องพึ่งพาเขา การเอาอกเอาใจในสิ่งที่สมควรทำ มันก็ดีแล้วไม่ใช่หรือ

ตงซานมองหญิงสาวที่คีบเนื้อปลาให้เขาอย่างตั้งใจ เขาสังเกตได้ว่าทุกครั้งที่คีบมา จะเป็นเนื้อปลาอย่างเดียว แทบไม่มีผักกาดดองติดมาสักชิ้นเดียว แต่เอาเถอะความจริงแล้วเขาก็ไม่ได้ชื่นชอบผักกาดดองมากถึงขนาดนั้น คนที่ชอบผักกาดดอง และมักบ่นที่เขาเขี่ยมันออกไว้ข้างชามบ่อยครั้ง คือน้องสาว ที่ไม่มีวันหันกลับมาบนโลกใบนี้อีกแล้ว

ใบหน้าของเขาสลดลงเล็กน้อย ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องตงอวี้จิง เขามักจะรู้สึกเหมือนคนที่ไร้เรี่ยวแรงแทบทุกครั้ง แต่อย่างไรความสดใสของสาวน้อยตรงหน้า ก็ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาบ้าง เห็นตัวเล็กแบบนั้นกินเก่งทีเดียว เขาสั่งปลานึ่งมาอีกหนึ่งจาน พร้อมกับปลาตุ๋นผักกาดดอง ที่ตั้งใจบอกพนักงานว่าเน้นเอาแค่ผักกาดดองเยอะๆ

หลิวชิงเหอไม่ได้ยินหรอกว่าเขาพูดอะไรกับพนักงานก่อนหน้านี้ หน้าที่ของเธอในตอนนี้ คือจัดการกวาดอาหารลงท้องไปให้ได้มากที่สุด ไม่ใช่ว่าจะได้มากินอาหารดีๆ แบบนี้บ่อยครั้งนัก

โดยปกติแล้วบ้านหลิวมักจะทำอาหารง่ายๆ กินกัน นานๆ ครั้ง หรือว่าโอกาสสำคัญถึงได้กินเนื้อเยอะๆ อย่างเช่นตอนที่โจวหลานคู่หมั้นของพี่สาวเธอ มาร่วมทานอาหารที่บ้านด้วย

ต้อนรับเอาเสียอย่างดิบดี คนบ้านหลิวคงดีใจมากสินะ ที่หลิวเหลียนมีคนรักที่มีอนาคตที่ดีมากขนาดนั้น แต่ถึงให้ดีอย่างไรก็เชื่อเถอะว่า ไม่เท่าผู้ชายที่นั่งร่วมโต๊ะอาหารกับเธออยู่ในตอนนี้อย่างแน่นอน ในความคิดของหลิวชิงเหอแล้ว โจวหลานก็เป็นแค่พระเอกที่โง่เง่าคนหนึ่งเท่านั้น ดูถูกอาชีพค้าขายของตัวร้าย และพอใจกับอาชีพนายทหารของตนอย่างมั่นใจว่าตนเหนือกว่าอีกฝ่ายในทุกด้าน คนที่มีจิตใจมืดบอดอย่างนี้ จะไม่เรียกว่าโง่งมได้อย่างไรกัน

"คุณสั่งอาหารมาอีกหรือคะ หรือว่าฉันแย่งคุณจนคุณกินไม่อิ่ม"

ใบหน้าเหลอหลาของหลิวชิงเหอ กับแก้มป่องๆ ที่แสนน่าเอ็นดูนั่น ทำให้เขายิ้มออกมาอย่างเอ็นดู ไม่คิดว่าวันหนึ่ง เขาจะมานั่งคลั่งไคล้เด็กได้มากถึงขนาดนี้ แม้จะรู้สึกงงๆ กับตัวเองสักหน่อย แต่ก็พอจะรู้ตัวได้ว่า เขาน่ะชอบหลิวชิงเหอเข้าจริงๆ แล้ว

"ไม่นี่ครับ ผมเห็นว่าคุณน่าจะชอบก็เลยสั่งอาหารมาเพิ่มอีกสักหน่อย รีบกินกันเถอะ อีกหน่อยเราจะต้องไปดูอพาร์ทเม้นท์กันต่อนะ และเรามีเรื่องงานที่ต้องคุยกันต่อหลังจากนี้"

เธอหยักหน้าทั้งยังมีอาหารอยู่ในปากอย่างรับคำ แม้รู้ว่านั่นออกจะเสียมารยาทไปสักหน่อย แต่เมื่อเช้าเธอเอง ไม่ได้มีอะไรตกถึงท้องเลยสักนิด หลังจากที่กลับบ้านไปแล้ว ก็มีเรื่องที่ต้องรับมืออีก การอยู่รวมเป็นครอบครัวใหญ่แบบนั้น การที่จะทำอะไรมันไม่สะดวกเลยจริงๆ

ป้าสะใภ้ใหญ่จอมจับผิด อาหญิงเล็กจอมบงการ ย่าหลิวที่ขี้งก ไหนจะพี่สาวที่ทำตัวเป็นผู้ถูกกระทำและน่าสงสาร ช่างเป็นการกระทำที่เสแสร้งสิ้นดี

ถ้าหากคิดจะมีชีวิตที่ดีขึ้น อย่างง่ายที่สุด คือพาตัวเองออกมาจากจุดนั้น หลิวชิงเหอไม่ใช่ร่างเดิมเป็นแค่เด็ก อายุสิบห้าที่ไม่มีทักษะในการเอาตัวรอด ในยุคที่การค้าขายเสรี วงการธุรกิจเริ่มบูมขึ้น มันจะมีอะไรดีไปกว่า รีบตักน้ำในตอนที่น้ำขึ้นอีก

หลังจากที่จัดการกับอาหารเช้าจนแน่นท้องไปหมด หลิวชิงเหอจะต้องไปดูอพาร์ทเม้นท์กับเขา หลังจากนั้นคงต้องพูดคุยกันเรื่องผลประโยชน์ และรายละเอียดต่างๆ อย่างยิบย่อย

เดือนละสามพันหยวน นั่นไม่ใช่จำนวนที่น้อยเลยสักนิด อย่างพ่อกับแม่ทำงานได้แค่เดือนละหนึ่งร้อยถึงหนึ่งร้อยห้าสิบหยวนเท่านั้น แรงงานผู้หญิงอยู่ที่หนึ่งร้อยหยวน แรงงานผู้ชายได้มากกว่าถึงห้าสิบหยวน แม้ว่านั่นจะเป็นจำนวนเงินที่ถือว่าใช้ได้เลยในยุคนี้ ทว่าพ่อกับแม่ก็ต้องแบ่งเงินคนละครึ่งหนึ่งเข้ากองกลาง

การเลี้ยงลูกสองคนที่อายุใกล้เคียงกัน ซ้ำค่าเล่าเรียนในแต่ละปีก็ใช่ว่าจะถูกๆ เพราะเหตุผลนี้ พ่อกับแม่จึงเลือกที่จะส่งลูกสาวเรียนได้แค่คนเดียวเท่านั้น ในระดับมัธยมปลายถึงมหาวิทยาลัย

ใช่เธออาจกลายเป็นคนที่ถูกเลือก ตามเนื้อเรื่องในนิยาย แต่ทว่าสุดท้าย ไม่รู้เพราะอะไรหลิวชิงเหอในเรื่องถึงเรียนจบได้แค่มัธยมปลาย และออกมาเป็นสาวโรงงานเงียบๆ ไปเท่านั้น

ไม่คิดว่าอพาร์ทเมาท์ที่เขาหมายถึงจะเป็นที่นี่ ถ้าเทียบกับโลกก่อน นี่มันห้องชุดของคอนโดดีๆ เลย มีเตียงนอนอย่างดี เครื่องให้ความอบอุ่น หรือแม้กระทั่งโทรทัศน์ ก็ยังมีด้วย พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีห้องน้ำส่วนตัวในห้อง

ทั้งที่ก่อนหน้านี้ หลิวชิงเหอทำใจเอาไว้แล้วว่า หากเธอเช่าอพาร์ทเม้นท์อยู่ข้างนอก มันหลีกเลี่ยงที่จะใช้ห้องน้ำรวมไม่ได้ แต่ถ้าให้เธอเลือกระหว่างอยู่บ้านหลิวต่อไป กับย้ายออกมาอยู่คนเดียว เธอเลือกอย่างหลัง

แผ่นหลังของตงซานเดินนำทางหญิงสาวไปทั่วห้อง ที่จริงแล้วห้องนี้ เคยเป็นห้องที่เขาพักผ่อนบ่อยครั้ง นี่ถึงกับเสียสละห้องที่ชอบที่สุดให้เธอเลยนะ หวังว่าอีกฝ่ายคงไม่ปฏิเสธข้อเสนอของเขาหรอกนะ คนที่มีฝีมือและฉลาดทันคนแบบนี้ ไม่ใช่ว่าจะหาเจอได้ง่ายๆ ที่สำคัญ เขารู้สึกถูกชะตากับเธอคนนี้ด้วยแล้ว คงไม่มีทางที่จะปล่อยให้เธอหลุดมือไป

"อืมห้องมันจะไม่ดีเกินไปหรือคะ ที่จริงฉันอยู่ห้องที่เล็กกว่านี้ก็ได้"

หลิวชิงเหอสังเกตว่าตึกนี้มีห้องอื่นๆ อีก ทว่าเหมือนกับห้องนี้จะเป็นห้องที่ดีที่สุด ถึงจะบอกเขาไปแบบนั้น แต่เอาจริงๆ ใครจะไม่อยากอยู่ห้องดีๆ กันล่ะ

"ห้องนี้ ผมว่าเหมาะสมแล้ว ต่อไปเขามาพูดกับเรื่องงาน กันเถอะ สรุปแล้วคุณตกลงหรือเปล่า"

"ข้อเสนอดีขนาดนี้ ฉันเองคงไม่โง่พอที่จะปฏิเสธหรอกค่ะ"

"ถ้าอย่างนั้นก็ดีครับ หลังจากที่คุณย้ายมาอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์เรียบร้อยแล้ว เราจะคุยกันเรื่องเข้าเรียนอีกครั้ง ส่วนงานออกแบบ แค่ส่งมาให้ผมเดือนละแบบก็ได้"

ส่งแบบที่เธอออกแบบให้เขาแค่เดือนละรูปแบบนั้น ไม่ได้หมายความว่าเขาจะจ่ายให้เธอมากเกินไปหรอกหรือ แม้จะชอบเงิน แต่หลิวชิงเหอเอง ไม่ชื่นชอบการเอาเปรียบใครเหมือนกัน

"แบบนั้นจะไม่เรียกว่าเอาเปรียบคุณเกินไปหรือคะ แล้วอีกอย่างนะไหนจะค่าใช้จ่ายในการเรียนอีก ฉันว่าคุณคงจ่ายให้ฉันมากเกินไปแล้วล่ะค่ะ เอาอย่างนี้ ภายในหนึ่งเดือน คุณจะได้รับงานจากฉันสามชิ้นเป็นอย่างต่ำ นั่นเป็นจำนวนที่น้อยมากอยู่ดี แต่ฉันคิดว่ามันคงจะเต็มที่ได้เท่านี้แล้ว"

หลิวชิงเหอก้มหน้าลง อย่างรู้สึกไม่ดีมากนัก ทว่าข้อเสนอใหม่ของเธอ มันก็ยังดีกว่าข้อเสนอก่อนหน้านี้ของเขานั่นแหละ อย่างน้อย นี่ก็ไม่ใช่การเอาเปรียบมากกันจนเกินไปนัก

ตงซานเผลอยิ้มอย่างสดใสอีกครั้ง หลังจากที่ตกลงรายละเอียดยิบย่อยได้ ก็ให้คนไปส่งหลิวชิงเหอที่บ้าน ตอนนี้เขารู้สึกว่าร่างกายต้องการพักผ่อนอย่างเต็มที่แล้ว ถึงแม้ว่าใจจริงจะต้องการไปส่งเธอด้วยตัวเองก็เถอะ

ทันทีที่ลงจากรถ เธอสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างเต็มที่ อย่างไรแล้วสิ่งที่น่าเป็นกังวล คือบรรยากาศอันแสนน่าอึดอัดในบ้านหลิว

หลิวเหลียนที่คิดว่าน้องสาวยังนอนหลับไม่ตื่น สะดุ้งเล็กน้อย เมื่อเห็นว่าหลิวชิงเหอกลับมาจากข้างนอก ตอนนี้เป็นช่วงเที่ยงวัน แน่นอนว่าย่าหลิวก็นอนพักผ่อนในห้องทิศตะวันออก

"เธอออกจากบ้านไปตั้งแต่ตอนไหน"

"ก็เมื่อเช้า พี่ทำท่าทางแปลกๆ นะคะ มีอะไรหรือเปล่า"

"มะไม่หรอก"

ทั้งที่เมื่อเช้าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแท้ๆ แต่หลิวเหลียนกลับตอบเธอว่าไม่มีอะไรอย่างนั้นหรือ เสแสร้งกันได้ดีจริงๆ เพราะแบบนี้สินะถึงได้หลอกใช้ตัวร้ายได้อย่างไม่เหลือชิ้นดี

"ดีแล้วค่ะ ฉันเองก็รู้สึกง่วงนอนมากเลย"

หลิวชิงเหอเปิดประตูห้องทางทิศตะวันตกของเธอเข้าไป จริงๆ เธอก็อยากจะพักผ่อนสักงีบ แต่ตอนนี้ สิ่งสำคัญที่สุดคือการทำกิ๊บให้ครบจำนวนก่อน หลังจากนี้จะได้ย้ายเข้าไปอพาร์ทเม้นท์ของคุณตงซาน ได้อย่างไม่ต้องกังวลใจอะไร

ช่วงเย็นหลังจากนี้ เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นอย่างที่แม่นางเอกต้องการอย่างแน่นอน เอาเถอะ ถือว่าเดินลงหม้อน้ำร้อน ตามที่นางเอกของเรื่องอุตส่าห์ ใช้สมองอันฉลาดหลักแหลมคิดสักหน่อย

ออกจะรู้สึกตลกหลิวเหลียนไม่ได้ คิดว่าการที่ตนเองดูโดดเด่นในบ้านหลิวแล้วช่วยอะไรได้กันหรือไง อย่างมากก็เป็นหลานสาวที่บ้านหลิวเลี้ยงเอาไว้ทำงานบ้านอยู่ดีนั่นแหละ

หลิวชิงเหอก้มหน้าเย็บลายกิ๊บต่างๆ เอาไว้ หลังจากที่ได้ครบจำนวนถึงเย็บติดกับตัวกิ๊บ เป็นอย่างสุดท้าย เธอแทบไม่รู้เลยว่าเครื่องประดับของเธอในตอนนี้ กลายเป็นของหายาก และเป็นที่นิยมกันอย่างรวดเร็ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel