บทที่ 3 ข้ากลับมาแล้ว
บทที่ 3 ข้ากลับมาแล้ว
จวนชินอ๋อง
ตำหนักหยุนซี
ภายในห้องโถงใหญ่ของตำหนักสตรีหน้าใบเล็กเรียวดวงตาแหลมรูปคิ้วคล้ายคันศรธนูดื่มด่ำน้ำชาอย่างรื่นรมย์ใจมีสาวใช้มากมายคอยดูแลปรนนิบัติพัดวี
“ไป๋ลี่ซูน้ำชาที่เจ้ายกมาให้ข้าวันนี้ช่างหอมหวานนัก นี่มันกี่วันแล้วที่พระชายาเอกยังไม่กลับถึงจวน ช่างน่าเป็นห่วงเสียจริง” นางวางจอกน้ำชาลงพลางพูดเหมือนเห็นอกเห็นใจแต่ทว่าใบหน้ากลับยิ้มกริ้มออกมาไร้ความห่วงใยอย่างปากเอ่ย
“วันนี้เข้าวันที่สามแล้วเพคะ ไม่แน่ป่านนี้อาจจะถูกหิมะฝังร่างอยู่ภายใต้หิมะก็เป็นได้เพคะ”
“จิ! ไป๋ลี่ซูหุบปากของเจ้าเสียให้สนิทผู้อื่นจะมาได้ยินเอาได้ อย่าได้หาเรื่องเข้าตัวข้าจะไปหาท่านพี่” หานเฟยเยี่ยตำหนิสาวใช้คนสนิทก่อนจะลุกพรวดไปหาจางอี้ซือ นางมั่นใจอย่างไรเขาก็มิได้สนใจการหายไปของพระชายาเอกแน่นอนหากจะห่วงคงจะมีเพียงบุตรทั้งสอง นางเป็นสตรีที่เกิดมาพร้อมการเอาอกเอาใจหากต้องการได้อะไรก็ต้องได้ ทว่าบุรุษที่นางมีใจกลับถูกฮ่องเต้ประทานงานมงคลให้แก่ตระกูลเมิ่ง ในเมื่อนางหลงรักใจปรารถนาในตัวของชินอ๋องจางอี้ซือที่ยังหนุ่มแน่นร่างกายกำยำมีหรือที่นางจะยอม จึงให้บิดาใช้อำนาจข่มขู่ให้ชินอ๋องรับนางเข้ามาเป็นพระชายารองและเมื่อนางเข้ามาอยู่ในจวนก็ได้รู้ชินอ๋องมิได้รักพระชายาเอกแม้แต่น้อย ยิ่งทำให้นางดีใจและหาทางกำจัดทั้งสามแม่ลูกให้พ้นลูกหูลูกตา
สาวใช้ตำหนักหยุนซีเดินตามหลังพระชายารองมาที่ตำหนักของชินอ๋องทว่ายังเดินไม่ถึงไหนพระชายารองหยุดเท้าชะงักใบหน้าที่ชื่นบานพลันเปลี่ยนสีเมื่อมองไปยังหน้าจวนเห็นทหารรวมทั้งสาวใช้ในจวนมากมายโค้งคำนับสตรีที่หานเฟยเยี่ยคิดว่าชาตินี้จะไม่พบเสียแล้ว
ฝั่งด้านเมิ่งซูเหยาเมื่อมาถึงจวนขอบคุณท่านผู้เฒ่าอีกครั้งก่อนจะพาบุตรทั้งสองเดินเข้าจวน ทันทีที่บ่าวรับใช้หรือแม้แต่สาวใช้ที่เห็นต่างพากันโค้งคำนับลง และมีบ่าวอีกคนที่รีบวิ่งไปแจ้งการกลับมาของนางให้ชินอ๋องได้รับรู้
‘ถึงแล้วสินะจวนชินอ๋องชายที่ไร้ความรักที่มีต่อเมิ่งซูเหยา ในเมื่อกลับมาครั้งนี้หลังรู้ตัวคนที่ทำร้ายได้แล้ว ฉันจะขอหย่าทันทีทำราวกับว่าเมิ่งซูเหยาไร้ศักดิ์ไม่มีที่ไปทั้ง ๆ ที่นางก็เป็นบุตรสาวของใต้เท้ามียศศักดิ์แท้ ๆ ฉันจะไม่ยอมทนอยู่ที่นี่ให้ทุกข์ทรมานใจแน่นอน’ เมิ่งซูเหยาคิดในใจเชิดหน้าย่างกรายเข้ามาในจวนอย่างสง่าไร้ความกลัวสิ่งใดเพราะนางคือพระชายาเอกนายหญิงของจวนแห่งนี้ เมื่อเดินเข้ามาสายตานางเหลือบไปเห็นสตรีนางหนึ่งที่แต่งกายเสื้อผ้าอาภรณ์หรูหรายิ่งกว่านางที่เป็นพระชายาเอกเสียด้วยซ้ำ เพียงเห็นชั่วครู่ความทรงจำของนางก็แวบเข้ามาทำให้รู้ว่านี่คือพระชายารองหานเฟยเยี่ยคนที่คอยส่งสายตาหรือแม้แต่เอ่ยปากมีแต่คำพูดจาถากถางทำร้ายจิตใจพระชายาเอกครั้งแล้วครั้งเล่า
‘นี่สินะพระชายารองหรือว่าเมียน้อย ฮึ! ลองเข้าไปทักทายดูหน่อยแล้วกันดูจากสีหน้าที่แตกตื่นคงคิดไม่ถึงสินะว่าฉันจะพาเด็ก ๆ กลับมาอย่างปลอดภัย’
“เจ้าช่วยพาเสี่ยวเออร์กับจิ้นเอ๋อกลับตำหนักไปให้แม่นมจัดการพาแช่น้ำอุ่นเปลี่ยนเสื้อผ้าอาภรณ์ชุดใหม่เถิดบุตรของข้าต้องการพักผ่อนหลังจากเดินทางด้วยความยากลำบาก” เมิ่งซูเหยาสั่งสาวใช้ที่อยู่ต่อหน้าเพื่อพาเด็กทั้งสองไปที่ตำหนักส่วนนางเลือกจะเดินมาหาหานเฟยเยี่ยที่ยืนจ้องอยู่
ครั้นนางเดินเข้ามาใกล้หานเฟยเยี่ยยังคงเชิดหน้าไม่ยอมก้มโค้งคำนับพระชายาเอกและไม่เคารพเหมือนที่ผ่านมาเมิ่งซูเหยาจึงเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเข้มขรึมทำให้ผู้ที่ได้ยินถึงกับชะงักมึนงง
“ไม่พบพานเพียงไม่กี่วันข้าไม่คิดเลยว่าพระชายารองจะไร้มารยาถึงเพียงนี้ ข้าพระชายาเอกกลับมาถึงจวนอีกทั้งมายืนต่อหน้าเจ้า เจ้ายังไม่ทำความเคารพข้านี่หรือบุตรสาวของใต้เท้าผู้สูงส่งกิริยามารยาทช่างบกพร่องยิ่งนัก คงมีดีแต่เรื่องปรนนิบัติบนเตียงสินะ” ใบหน้าของหานเฟยเยี่ยแดงก่ำด้วยความโกรธเกรี้ยวกำมือแน่นเอ่ยตอบโต้เมิ่งซูเหยาทันที
“ข้าจะคำนับผู้ที่ข้าอยากคำนับเท่านั้นตั้งแต่ที่ข้าเข้ามาอยู่ในจวนนี้มีสักครั้งหรือที่ข้าเคยคำนับท่าน ท่านมันก็เป็นเพียงพระชายาที่ได้เพียงในนามเท่านั้นแต่ไม่มีทางได้ใจของท่านพี่หรอก”
“หานเฟยเยี่ยเจ้าคิดว่าข้าอยากได้ใจของจางอี้ซือหรือ? ข้าหาได้สนใจสิ่งที่ข้าสนใจคือผู้ใดที่ทำให้ข้ากับบุตรทั้งสองต้องพบเจอเรื่องทุกข์ยากระหว่างทาง เรื่องนี้ข้าจะไม่มีทางยอมในเมื่ออีกฝ่ายเป็นฝ่ายที่เริ่มลงมือ ข้าจะจัดการจับคนผู้นั้นมารับโทษไม่สนว่ามันผู้นั้นจะเป็นผู้ใด” เมิ่งซูเหยาเดินเข้ามากระซิบข้างหูของหานเฟยเยี่ยก่อนจะเดินสาวเท้าไปจากนางที่กำลังยืนสั่นเทาด้วยความโมโห
‘นางกลับมาได้ยังไงกัน ไหนสารถีบอกว่านางตกเหวลึกมิใช่หรืออีกอย่างช่วงนั้นเกิดพายุหิมะอีกด้วย ฮึ! คิดว่าข้าจะกลัวอย่างนั้นหรือ? นางเป็นเพียงบุตรสาวใต้เท้าที่มีตำแหน่งด้อยกว่าท่านพ่อของข้า ยังไงข้าจะหาทางกำจัดนางอีกครั้งและครั้งนี้ข้าจะไม่พลาดอีกเป็นแน่ อย่างไรเรื่องที่นางเอ่ยมาเมื่อครู่นางแค่ข่มขู่ข้าเท่านั้นข้ามิเคยเห็นนางจะเก่งกล้าตอบโต้ข้าเลยสักครา แม้นางจะเอ่ยเรื่องนี้กับท่านพี่ ท่านพี่คงไม่เชื่อคำพูดของนางเป็นแน่เพราะท่านพี่มิได้รักนางคนที่ท่านพี่รักคือข้าต่างหาก’ หานเฟยเยี่ยครุ่นคิดในใจก่อนจะเดินต่อไปที่ตำหนักของชินอ๋องทว่ากำลังจะก้าวเท้านางเห็นว่ายามนี้ชินอ๋องกำลังเดินตรงมาทางนี้ นางคลี่ยิ้มเต็มดวงหน้าให้แก่เขา ทว่าเขากลับมิได้สนใจเดินเมินนางไปหาเมิ่งซูเหยา
