บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย

บทที่ 2

ทะลุมิติเข้ามาในนิยาย

จ้าวซีซีอดคิดไปไม่ได้ว่าที่ผ่านมาชีวิตของเธอก็เป็นแบบ

ในนิยายเหมือนกัน เพราะเธอมักจะถูกเอาไปเปรียบเทียบกับญาติผู้พี่เสมอ อีกทั้งปู่กับย่าก็มักจะรักญาติผู้พี่มากกว่า แม้แต่พ่อกับแม่ของเธอเองก็ชื่นชมญาติผู้พี่ และยังบอกให้เธอเอาเยี่ยงอย่างจน

น่าปวดหัว

หญิงสาวถูกเปรียบเทียบกับญาติสาวมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้ชีวิต หรือเรื่องการเรียน

ถึงแม้ว่าที่ผ่านมาเรื่องเรียนจะสู้อีกฝ่ายไม่ได้ ทว่าตอนนี้เรื่องการใช้ชีวิตหรือการทำงานญาติผู้พี่คนนั้นเทียบเธอไม่ได้อย่างแน่นอน

เนื่องจากเธอดิ้นรนด้วยตนเองจนสามารถเป็นแม่ค้าออนไลน์ที่มีเงินมากมาย หากจะเทียบกันแล้ว เงินเดือนของจ้าวเหลียนอีรวมกันสามเดือน ยังไม่เท่ากำไรที่เธอขายของได้ภายในระยะเวลาสองสัปดาห์ด้วยซ้ำ ทุกอย่างล้วนเป็นความพยายามและความตั้งใจของเธอเอง

“จะว่าไปนางเอกเรื่องนี้ไม่ต่างจากตัวฉันเลย แค่ฉันไม่โง่

จนยอมทุกอย่างเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้ฉันต้องสงสารตัวเองก่อนไหม ซื้อมาแล้วแถมไม่จบเรื่อง แล้วจะอ่านต่อไหวไหมเนี่ย”

หญิงสาวถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ แต่ก็ยอมที่จะอ่านต่อ

เผื่อว่านางเอกของเรื่องจะหายโง่ และเรียกร้องเอาสิ่งที่เป็นของตัวเองกลับคืนมา

จ้าวซีซีนั่งอยู่บนโซฟา มือข้างหนึ่งถือหนังสือไว้หลวม ๆ ขณะที่สายตาไล่อ่านตัวอักษรต่อไป จนเรื่องราวดำเนินไปจนถึง

บทสุดท้ายของเล่มหนึ่ง

ตอนนี้หญิงสาวเริ่มตาล้า ทำให้ความเหนื่อยล้าเริ่มก่อตัวขึ้นทีละน้อย

ขณะเดียวกันเปลือกตาของเธอก็หนักขึ้น แสงไฟสีอุ่นที่เคยทำให้รู้สึกสบายตา เวลานี้กลับชวนให้เคลิ้มหลับ หญิงสาวพยายามกะพริบตาไล่ความง่วงให้ออกไป แต่ความอ่อนล้ากลับกลืนกินสติ

ไปอย่างช้า ๆ จนในที่สุดมือที่ประคองหนังสือไว้ก็อ่อนแรงลง

หนังสือเล่มนั้นหล่นลงมาปิดใบหน้าของเธอโดยไม่รู้ตัว

ลมหายใจของจ้าวซีซีเข้าออกสม่ำเสมอและแผ่วเบาตามจังหวะแห่งการหลับใหล

แสงอาทิตย์ส่องทะลุม่านหน้าต่างเข้ามา ทำให้จ้าวซีซีต้องลืมตาขึ้นอย่างเสียไม่ได้ เมื่อถูกแสงแดดกระทบใบหน้า หญิงสาวบิดขี้เกียจเล็กน้อย ก่อนจะรู้สึกถึงความผิดแปลกบางอย่าง

“ทำไมแสงอาทิตย์ที่ส่องเข้ามามามันแปลก ๆ นะ ปกติแล้วหน้าต่างบ้านเราไม่ได้หันไปทางทิศตะวันออกนี่นา แล้วแสงนี่สาดเข้ามาได้ยังไงกัน”

เธอพูดพึมพำกับตัวเองอย่างแผ่วเบา

เมื่อลืมตาขึ้นภาพตรงหน้าก็ทำเอาถึงกับนิ่งอึ้งไปชั่วขณะ เพราะตอนนี้เธอตื่นขึ้นมาในบ้านหลังหนึ่งที่มีสภาพเก่าโทรม ข้าวของในบ้านก็ดูซอมซ่อเหลือเกิน

“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน” หญิงสาวอุทานออกมาด้วยความตกใจสุดขีด พร้อมกับก้มดูตัวเองอย่างเร่งด่วน แล้วสถาพที่เห็น นอกจากบ้านที่ดูซอมซ่อแล้ว แม้กระทั่งเสื้อผ้าที่กำลังสวมอยู่ก็ไม่ใช่ของเธอด้วย

หญิงสาวพยายามนึกถึงเรื่องราวทั้งหมดว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แต่ความทรงจำก็เหมือนกับขาดห้วงไป ก่อนจะรู้สึกปวดหัวอย่างรุนแรง จนภาพความทรงจำทุกอย่างค่อย ๆ ชัดเจนขึ้น

ทีละน้อย

ในขณะเดียวกัน เสียงฝีเท้าของใครบางคนก็เดินมาทางนี้

ทำให้จ้าวซีซีตัดสินใจล้มตัวนอน แล้วแสร้งหลับไปอีกครั้ง

ทว่าทันใดนั้นเอง ประตูกลับถูกเปิดอย่างแรง ก่อนที่ใครบางคนจะเดินเข้ามาใกล้

หมับ!

หนังศีรษะของจ้าวซีซีถูกกระชากขึ้นมา จนรู้สึกเจ็บแปลบน้ำตาแทบเล็ดจากนั้นร่างเธอก็ถูกดึงให้ลุกขึ้นจากเตียงโดยไม่ทัน

ตั้งตัว

“ลุกได้แล้ว ยัยขี้เซา งานการไม่ทำหรือไง”

แม้ว่าเสียงที่ดังขึ้นนั้นจะดูคุ้นเคย แต่การที่มีคนกล้าจิกหัวเธอได้แบบนี้ย่อมต้องไม่ใช่ใครอื่นนอกจากจ้าวหมิงหมิง ลูกพี่ลูกน้องจอมกวนที่ชอบกลั่นแกล้งเธอเป็นประจำ

แต่มีหรือที่จ้าวซีซีจะยอมถูกกระทำฝ่ายเดียว เธอเป็นคน

ไม่ยอมคนอยู่แล้ว ด้วยสัญชาตญาณทำให้มือข้างหนึ่งผลักร่างของอีกฝ่ายออกไปเต็มแรง

พลั่ก!

จ้าวหมิงหมิงกระเด็นไปชนโต๊ะข้างห้อง เสียงของตกกระทบพื้นดังลั่น

“โอ๊ย! นังตัวแสบ นี่แกกล้าผลักฉันเหรอ”

“ไม่กล้าก็บ้าแล้ว! แล้วเธอล่ะเป็นบ้าอะไร อยู่ดี ๆ ก็มาจิกหัวฉัน ” จ้าวซีซีโวยวายขึ้นมาบ้าง โดยที่มือยังขยี้ผมที่ยังรู้สึกเจ็บอยู่

พอได้ยินอย่างนั้น จ้าวหมิงหมิงจึงยันตัวขึ้นจากพื้น พร้อมกับลูบแขนที่กระแทกขอบโต๊ะเพื่อคลายความเจ็บให้ทุเลาลง ก่อนที่ดวงตาจะวาวโรจน์ขึ้นเล็กน้อยด้วยความไม่พอใจ

“ฉันก็มาปลุกเฉย ๆ แต่หล่อนกล้าผลักฉันจนกระเด็นเนี่ยนะ วันนี้เป็นบ้าอะไร”

“ก็เธอทำรุนแรงกับฉันก่อน”

“แรงอะไรกัน แค่สะกิดเบา ๆ เท่านั้นแหละ” จ้าวหมิงหมิงปฏิเสธหน้าตาเฉย ราวกับว่าเรื่องที่ทำนั้นเป็นเรื่องปกติ ทำให้จ้าซีซีตอบกลับด้วยความไม่พอใจ

“สะกิดบ้าอะไรของเธอกัน นี่มันจิกหัวกันชัด ๆ ถ้าอย่างนั้นฉันก็สะกิดเธอเหมือนกัน”

หญิงสาวกอดอกและลอยหน้าลอยตาตอบ เพราะจะดูปฏิกิริยาอีกฝ่าย ก่อนจะยิ้มที่มุมปากเล็กน้อย

พอได้ยินอย่างนั้น จ้าวหมิงหมิงจึงกัดฟันแน่น พยายามข่มอารมณ์ไว้ ก่อนจะพูดสิ่งที่เธอต้องการ

“วันนี้ฉันมีธุระให้หล่อนไปทำ รีบลุกขึ้นมาแต่งตัวซะ”

“ไม่!” จ้าวซีซีสวนกลับทันที แล้วล้มตัวลงนอนต่อ พร้อมกับดึงผ้าห่มขึ้นคลุมหัว เนื่องจากตอนนี้สิ่งที่เธอต้องการที่สุดคือการนอน

แต่กลับโดนจ้าวหมิงหมิงกระชากผ้าห่มออกอีกครั้ง พร้อมเท้าสะเอวชี้หน้าจ้าวซีซีด้วยความไม่พอใจ

“นี่หล่อนคิดจะทำให้ฉันโกรธแต่เช้าหรือไง ฉันไม่มีเวลามาทะเลาะด้วยหรอกนะ รีบไปล้างหน้าแต่งตัวซะ ฉันจะให้เธอช่วยถือของ”

สุดท้ายจ้าวหมิงหมิงก็ลดเสียงลงและไม่พูดจิกกัดแล้ว

จ้าวซีซีเลิกคิ้วเล็กน้อย สายตาของเธอมองอีกฝ่ายอย่างแปลกใจ และคิดว่าที่ลดเสียงลงเพราะต้องการใช้เธอนั่นเอง

“นี่กำลังจะบอกว่า ฉันต้องเป็นคนรับใช้ของเธองั้นเหรอ”

“ก็ไม่เชิง...” จ้าวหมิงหมิงพูดตอบกลับ พร้อมกับพยายามทำหน้าตาปฎิเสธ หวังว่าจ้าวซีซีจะยอมทำตามที่บอก

“ไม่ไป!”

“ถ้าแกไม่ไป ข้าจะไปฟ้องป้า” จ้าวหมิงหมิงขู่ เพราะรู้ดีว่าจ้าวซีซีนั้นกลัวป้ามากที่สุด

พอได้ยินอย่างนั้นหญิงสาวจึงได้ถอนหายใจออกมาอย่างเสียไม่ได้

“ไปฟ้องก็ไปฟ้องเลย คิดว่าตัวเองถูกเสมอหรือยังไง ป้าของเธอก็...เอ่อ...แม่ของฉัน แม่จะเห็นคนอื่นดีกว่าลูกได้ยังไงกัน”

คงมีแค่แม่หลอก ๆ ของร่างนี้ละมั้ง แต่จะโทษอะไรก็คงไม่ได้ ในเมื่อร่างนี้ไม่ใช่ลูกของเธอ

“อะไรกันเนี่ย! เธอบ้าไปแล้วหรือไง วันนี้ทำไมถึงพูดจาเหมือนไม่กลัวอะไรเลย” จ้าวหมิงหมิงถามอย่างไม่เข้าใจ พร้อมกับขมวดคิ้วมุ่น ก่อนจะมองจ้าวซีซีด้วยความตกตะลึง

ในความทรงจำของจ้าวหมิงหมิง จ้าวซีซีเคยเป็นหญิงสาวที่อ่อนแอและไม่เคยกล้าต่อกรกับใครเลย แม้กระทั่งเธอเอง ไม่ว่าถูกแกล้งกี่ครั้งก็ได้แต่กัดฟันทน อีกทั้งไม่เคยโต้กลับแม้แต่น้อย

แล้วนี่เกิดอไรขั้นทำไมพี่สาวตรงหน้ากลับเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

จ้าวซีซีไม่เพียงแต่ไม่ยอม แต่ยังกล้าผลักเธอจนล้มกระแทกโต๊ะจนเจ็บไปหมด

อีกทั้งสายตาของอีกฝ่ายก็ไม่หลบเลี่ยงอีกต่อไป และกล้าที่จะสบตาเธอ แถมดวงตาคู่นั้นยังเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและท้าทาย แววตาที่เคยอ่อนโยนเวลานี้แปรเปลี่ยนเป็นแข็งกร้าว ราวกับไม่ใช่คนเดิมที่เธอเคยรู้จัก

‘มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่’

จ้าวหมิงหมิงขบฟันแน่น ความรู้สึกไม่คุ้นเคยแล่นพล่านอยู่ในใจ เธอคิดเสมอว่าสามารถควบคุมจ้าวซีซีได้ แต่ตอนนี้กลับรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่กับคนแปลกหน้า

เหมือนกับว่าลูกพี่ลูกน้องที่เคยอ่อนอ่อนแอคนเดิมหายไปแล้ว เหลือไว้เพียงจ้าวซีซีคนใหม่ที่ไม่ยอมอ่อนข้อให้ใครอีกต่อไป

เหตุผลที่จ้าวหมิงหมิงไม่ชอบจ้าวซีซี ไม่ใช่เพียงแค่ความหมั่นไส้ หรือความสนุกจากการกลั่นแกล้งอีกฝ่าย แต่มันเป็นความอิจฉาที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ในใจ

ตั้งแต่แรกพบเหวินหยวน ชายหนุ่มที่ดูสง่างามและเพียบพร้อมก็ทำให้เธอตกหลุมรักเขาทันที รอยยิ้มอบอุ่น คำพูดอ่อนโยน และท่าทีที่เป็นมิตรของชายหนุ่ม ทำให้หัวใจของเธอหวั่นไหว

หญิงสาวใฝ่ฝันว่า ถ้าหากได้อยู่เคียงข้างหรือแต่งงานกับเขา เธอคงจะมีความสุขไม่น้อย

ทว่าโชคชะตากลับเล่นตลก จ้าวซีซี ผู้หญิงที่เธอดูแคลนกลับเป็นผู้ถูกเลือกให้แต่งงานกับเขา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel