บท
ตั้งค่า

พบเจอพระนางในนิยาย 2

สิ้นคำของเฉินโม่หราน ข้าวกะเพราไข่ดาวก็อยู่ตรงหน้าทันที นี่จึงทำให้เธอยิ้มแก้มปริ และปรบมือออกมาอย่างดีใจ

ณ แปลงข้าวโพดของกองพลน้อย

ตอนนี้ถึงช่วงเวลาเก็บเกี่ยวข้าวโพดแล้ว ในหมู่บ้านนี้ผลผลิตที่เยอะที่สุดคงจะเป็นข้าวโพด เลยทำให้ทุกคนรวมตัวกันที่นี่ และแม้จะอยู่กลางแดด ทุกคนก็ไม่หวั่นเพราะอยากให้งานเสร็จเร็ว

“อีกไม่นานก็ได้พักแล้ว พ่อเป็นอย่างไรบ้างไหวไหม”

เฉินหลงเปียวกลัวว่าพ่อจะเป็นลมแดด เลยถามอยู่ตลอด

“พ่อยังไหว ลูกไม่ต้องห่วงหรอก” เฉินคังแม้ว่าจะอายุสี่สิบกว่าปีแต่ร่างกายยังแข็งแรงกว่าคนวัยเดียวกัน การที่ต้องอยู่กลางแดดแบบนี้เขายังทนไหว

“แต่สีหน้าพ่อดูอ่อนล้ามากเลย ผมคิดว่าพ่อไปพักสักหน่อยไหม เดี๋ยวในส่วนของพ่อผมทำเอง” ชายหนุ่มยังคงกังวล เนื่องจากสีหน้าของคนเป็นพ่อดูจะเหนื่อยล้าเต็มทนแล้ว

“ไม่ต้องห่วงหรอก พ่อยังไหว เดี๋ยวก็ได้พักแล้วล่ะ” เขายังตอบกลับเหมือนเดิม

เมื่อเห็นว่าพ่อยังดื้อดึงที่จะทำงานต่อ เฉินหลงเปียวจึงได้แต่ก้มหน้าทำงาน ทว่าสายตายังคงคอยมองไปทางพ่อตนเองอยู่ตลอด เพราะกลัวว่าท่านจะเป็นลมไป

ส่วนทางด้านของเฉินโม่หราน หลังจากที่กินข้าวจนอิ่มแล้ว ก็คิดถึงพ่อกับแม่รวมถึงพี่ชาย เธออยากให้ทุกคนได้กินอิ่ม แต่จะทำอย่างไร เพราะกลัวว่าทั้งสามคนจะตกใจกับมิติที่เธอมี

“จะทำอย่างไรดี ฉันอยากให้ทั้งสามคนกินอิ่มเหมือนกัน”

หญิงสาวได้แต่พูดกับตัวเอง ก่อนจะคิดบางอย่างได้ แล้วรีบเดินออกมาจากห้องมุ่งตรงไปยังกองพลน้อยในส่วนที่ครอบครัวของเธอทำงานอยู่

ระหว่างทางก็มีชาวบ้านคอยเมียงมอง สงสัยว่าลูกสาวบ้านรองเฉินหายดีแล้วเหรอ จนมียุวปัญาชนชายคนหนึ่งรีบเดินเข้ามาหา

“หายดีแล้วเหรอโม่หราน” กู้เลี่ยงรุ่ยยิ้มแย้ม หากเป็นหญิงสาวทั่วไปหรือเจ้าของร่างเดิมคงเคลิ้มกับรอยยิ้มของเขา แต่ไม่ใช่กับเฉินโม่หรานคนนี้ เพราะเธอรู้ดีว่าชายตรงหน้าคือพระเอกในนิยายเรื่องนี้อย่างไรล่ะ และเขายังมีคนรักแล้ว ซึ่งเป็นนางเอกของเรื่อง

“อ้าวเธอหายแล้วเหรอ ได้ข่าวว่าถูกย่าตีจนสลบ”

นั่นไงพูดถึงโจโฉ โจโฉก็มา เสียงของหญิงสาวคนนี้คงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากนางเอกของเรื่องอย่าง กงลี่ฟาง

ในนิยายเหมือนว่ากงลี่ฟางจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้

แต่ทำไมยังอยู่ที่นี่ล่ะ หรือว่าเนื้อเรื่องมันผิดแปลกไป

“อืม ขอตัวก่อนนะ” เฉินโม่หรานไม่คิดจะเสวนากับทั้งสองคน เพราะรู้นิสัยดีจากการอ่านนิยายเรื่องนี้มาแล้ว จึงตัดสินใจตอบแค่นั้นแล้วรีบเดินเลี่ยงออกมา

แต่กลับถูกกู้เลี่ยงรุ่ยคว้าแขนไว้ ทว่ามือของเธอก็เร็วกว่า ตบเข้าไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายทันที

เพียะ!

“พี่เลี่ยงรุ่ย!!” เสียงของกงลี่ฟางร้องออกมาอย่างตกใจ

แล้วรีบเข้าไปดู

ส่วนเฉินโม่หรานแสร้งทำสีหน้าตกใจเช่นกัน ก่อนจะรีบพูดแก้ตัว แต่แววตากลับไม่สลดเลยแม้แต่น้อย

“คือฉันเป็นคนมือเร็วไปหน่อย แล้วไม่ชอบให้ใครถูกตัวน่ะ หน้าแดงเลยเจ็บไหม”

“เธออย่ามาเสแสร้ง ก่อนหน้านี้เธอคือคนที่วิ่งตาม

พี่เลี่ยงรุ่ยไม่ใช่หรือไง แล้วทำไมตอนนี้ถึงตบเขา เหตุผลของเธอมันฟังไม่ขึ้นหรอกนะ”

กงลี่ฟางไม่ยอมจบเรื่องนี้ง่าย ๆ แม้ว่าคนภายนอกจะคิดว่าเธอและเขาเป็นสหายที่มาจากปักกิ่งด้วยกัน แต่ความจริงแล้วเธอและเขาคือคนรักกันต่างหาก

“ฉันพูดความจริง ถ้าเธอไม่เชื่อก็ตามใจ แต่ฉันคือลูกสาวของบ้านรองเฉิน ยังไม่แต่งงานย่อมต้องไม่ชอบให้ใครมาถูกตัว แล้วฉันกับยุวชนคนนี้ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใด ๆ ต่อกัน ทำไมฉันต้องยอมให้เขาถูกตัวฉันด้วย แค่เรียกเฉย ๆ ก็ได้แล้ว”

เฉินเมิ่งหรานตอบอย่างที่คิด ก่อนหน้านี้ไม่ว่าร่างเดิมจะคิดอย่างไรกับกู้เลี่ยงรุ่ย แต่มันก็ไม่ใช่ความคิดของเธอเสียหน่อย

ผู้ชายเจ้าชู้แบบนี้เธอไม่เอามาทำพันธุ์หรอก!! ใครอยากได้ก็เอาไปเลย

พูดจบก็เดินออกมาโดยไม่สนใจคนทั้งสองอีกเลย

เพราะตอนนี้เฉินโม่หรานตั้งใจจะไปเตรียมสะถานที่เพื่อเอาอาหารออกมาให้พ่อ แม่ และพี่ชายกิน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel