พบเจอพระนางในนิยาย 1
พบเจอพระนางในนิยาย
เรื่องนี้เฉินโม่หรานกลับไม่คิดอย่างนั้น เธอมองว่าปู่ที่ตายไปแล้วต้องการให้พ่อของเธอรับใช้บ้านใหญ่จนวันตายถึงได้พูด
ฝากฝังแบบนั้น
แต่ไม่เป็นไร วันที่บ้านใหญ่มายื่นข้อเสนอเพื่อให้เธอแต่งงานกับญาติผู้พี่ เธอต้องแลกข้อเสนอนี้ออกไป ทว่าก่อนถึง
วันนั้นจะต้องหาเงินให้ได้เยอะ ๆ เสียก่อน
‘แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ ฉันไม่ได้มีมิติส่วนตัวเหมือนคนอื่นที่ทะลุมิติมานี่นา’ หญิงสาวได้แต่คิดในใจ และน้อยใจตัวเองที่ไม่มีนิ้วทองคำเหมือนคนอื่นเขา
“ฉันไม่คิดอย่างนั้นนะพ่อ การที่ปู่พูดแบบนั้นคงต้องการให้บ้านรองของพวกเรารับใช้บ้านใหญ่ไปจนวันตาย ดูพี่ใหญ่สิตอนนี้อายุเหมาะแก่การแต่งงานแล้ว ยังไม่มีสะใภ้เข้าบ้านเลย”
“ที่น้องพูดมาก็มีเหตุผลนะพ่อ” เฉินหลงเปียวเห็นด้วยกับสิ่งที่น้องพูด ปู่คงไม่อยากให้บ้านรองแยกบ้านเพราะกลัวบ้านใหญ่จะไม่มีคนทำงานให้มากกว่า
จากนั้นก็หันมาพูดกับน้องสาวอย่างยิ้มแย้ม “ส่วนเรื่องแต่งงานพี่ยังไม่คิด และคงไม่มีหญิงสาวที่ไหนอยากแต่งเข้ามาหรอกนะ แค่สภาพความเป็นอยู่บ้านเราก็ไม่เอื้ออำนวยแล้ว”
เขาไม่เสียใจกับโชคชะตา แต่เสียใจที่ไม่สามารถพาครอบครัวและทุกคนที่รักหลุดพ้นออกจากบ้านนี้ได้ ทั้งที่เขาเป็นลูกชายคนโตของบ้านรอง
และดูสภาพความเป็นอยู่สิ สี่ชีวิตต้องอยู่กันเพียงแค่ในห้องที่บ้านใหญ่แบ่งให้ ซึ่งห้องนี้เท่าที่พ่อกับแม่เคยบอก คือห้องเก็บของ!
“อย่าเพิ่งทุ่มเถียงกันเรื่องนี้เลย สักวันบ้านของเราจะต้องหลุดพ้นออกจากที่นี่ ต่อให้พ่อของลูกจะขอแยกบ้าน แต่เชื่อแม่เถอะว่าย่าของลูกไม่มีทางยอม” คนเป็นแม่อย่างกุ้ยเจินพูดขึ้นมาบ้างหลังจากที่เงียบไป จากนั้นจึงหันมาทางลูกสาว
“ส่วนลูก ถึงแม้จะอาการดีขึ้นแล้ว แต่วันนี้ยังไม่ต้องทำงานหรอก ส่วนเรื่องอาหารเดี๋ยวแม่ทำเอง อย่างน้อยบ้านเราก็กินด้วย” เธอตัดบท เพราะไม่อยากให้ลูกสาวคิดมาก ถึงแม้ว่าจะแปลกใจกับท่าทีเปลี่ยนไปของอีกฝ่ายก็ตาม
“นั่นสิ ทำตามที่แม่พูดก็แล้วกันนะ เดี๋ยวพ่อไปช่วยแม่ของลูกทำอาหารเอง ลูกกลับเข้าห้องไปพักผ่อนเถอะ”
คนเป็นพ่อเห็นด้วยกับภรรยา อีกอย่างเรื่องแยกบ้านต่อให้ไม่มีคำสั่งเสียทิ้งไว้ เขาก็เชื่อว่าแม่ของตนเองไม่มีทางให้แยกบ้านแน่นอน และถ้าจะแยกบ้านคงรอให้สิ้นอายุขัยของแม่ไปเสียก่อนถึงจะทำได้
“ถ้าอย่างนั้นผมจะต้มยาให้น้องเอง ถึงแม้ว่าหายแล้วแต่ก็ต้องกิน” เฉินหลงเปียวรีบบอกว่าจะทำหน้าที่นี้เอง
เฉินโม่หรานที่ได้ยินแทบจะร้องห้าม เพราะยาต้มนั้น
โคตรขมเลย แต่ถ้าปฎิเสธก็กลัวว่าจะถูกครอบครัวสงสัย
“ขอบคุณนะคะทุกคน วันหนึ่งฉันจะทำให้ พ่อ แม่ พี่ใหญ่หลุดพ้นจากที่นี่ ฉันให้สัญญา”
หญิงสาวให้คำมั่นสัญญา ก่อนจะหมุนตัวกลับเข้าห้อง
โดยมีสายตาของทั้งสามคนมองตามไป
ช่วงสายของวันเดียวกัน...
หลังจากที่ได้นอนเต็มอิ่ม เฉินโม่หรานรีบลุกขึ้นมาพร้อมกับบิดกายเล็กน้อยเพื่อขับไล่ความเหนื่อยล้า
แต่แล้วสายตากลับมองเห็นภาพดอกเหลียนฮวาตรงกลางฝ่ามือ “เอ๊ะ มาได้ยังไงกันนะ” เธออุทานออกมาด้วยความตกใจ
“หรือว่าจะเป็นมิติเหมือนที่เคยอ่านในนิยาย งั้นลองดูหน่อยก็แล้วกัน” ว่าแล้วก็รีบลูบตรงกลางฝ่ามือที่มีดอกเหลียนฮวาปรากฎอยู่ พร้อมกับหลับตาลงแล้วนึกถึงมิติ
เมื่อลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับพบห้างสรรพสินค้าที่เธอเพิ่งมีโครงการจะสร้าง แต่มันน่าแปลกใจที่ห้างสรรพสินค้านี้มีทุกอย่างแล้ว ทั้งที่ก่อนที่เธอจะตายเพิ่งจะเริ่มเสาเข็มเท่านั้น
“แบบนี้ก็ดี อย่างน้อยก็มีอาหารจะได้ไม่อดตาย”
พูดจบก็เดินตรวจดูทุกชั้นทุกแผนกอย่างอารมณ์ดี พอเวลาผ่านไปสักพักใหญ่ก็รีบออกมาเพราะกลัวว่าจะมีใครมาหาที่บ้าน
“ขอข้าวกะเพราไข่ดาว” เธอจำได้ว่ามีแผนกอาหารอยู่เลยตัดสินใจลองเรียกออกมาดู
