บท
ตั้งค่า

บทที่ 15 นางร้ายตัวแม่ปรากฏตัว

เมื่อสตรีผู้นั้นเดินเข้ามาใกล้ อันเยว่ฉียิ่งเห็นชัดว่าใบหน้าของนางเรียกได้ว่าสวยจนล่มเมืองได้เลย นัยน์ตาหงส์งดงาม ดวงตาดำสนิทราวกับท้องฟ้ายามราตรี จมูกโด่งเป็นสัน ปากเล็กเชิดขึ้นเล็กน้อยอย่างเย่อหยิ่ง

นางเดินลากแส้ในมือจนมาถึงบริเวณที่กุนซือจางยืนอยู่

“กั๋วฮูหยิน[1]” จางป๋อเหวินยกมือขึ้นประสานพร้อมโค้งตัวเอ่ยทักทายผู้มาใหม่ เขาก้มหน้าลงไม่กล้าสบตา

“ฮะ? กั๋วฮูหยินเหรอ” อันเยว่ฉีอุทานออกมาอย่างลืมตัว หันขวับไปมองหงเจี้ยนหยาง นี่นางแต่งงานกับปีศาจเจ้าชู้ประเภทไหนกัน เจ้าอ้วนนี่ถึงขั้นมีเมียตั้งสองคน และยังแต่งภรรยาเอกเรียบร้อยแล้วด้วย!!

“..จางป๋อเหวิน ข้าไปไม่กี่วันเจ้าก็ปล่อยให้เขาพาสตรีไร้หัวนอนปลายเท้าเช่นนี้เข้าจวนหรือ” กั๋วฮูหยินดุด่ากุนซือจาง พร้อมกับเตะไปที่ขาของเขาอย่างแรง บุรุษชุดดำได้แต่ยืนนิ่งรับการลงโทษไม่กล้าขยับ

ภรรยาเอกของจวนกั๋วกงผู้นั้นตัวสูงกว่าจางป๋อเหวินเกือบช่วงหัว ดูแล้วน่าจะสูงมากถึงเจ็ดฉื่อครึ่ง[2] เรียกได้ว่าเป็นภรรยาที่เหมาะสมและคู่ควรกับท่านกั๋วกงที่สูงเก้าฉื่ออย่างที่สุด ตัวสูงใหญ่ไม่ต่างกัน

อันเยว่ฉีหันไปมองบุรุษข้างกายตัวเอง นางไม่เข้าใจสักนิด ภรรยาของเขาทั้งสวยและหุ่นดี เหมือนพวกนางแบบบนรันเวย์ไม่มีผิด เหตุใดชายที่มีภรรยางดงามเช่นนี้จึงป่วยเป็นโรคนกเขาไม่ขัน!

‘เสียของจริงๆ’ หญิงสาวบ่นในใจด้วยความเสียดาย

“ลู่เยียน อย่าเสียมารยาทต่อหน้าท่านแม่” หงเจี้ยนหยางเตือนภรรยาของเขา

“เสียมารยาทอะไรกัน ในเมื่อท่านกั๋วกงอยากมีอนุ ข้าซึ่งเป็นภรรยาเอกของท่านพี่ก็ควรต้องกลับมารับน้ำชาตามหน้าที่ ไม่ใช่หรือ”

กั๋วฮูหยินเดินมาถึงข้างอันเยว่ฉี นางเชยคางอนุคนใหม่เพื่อมองหน้า

“หน้าตาก็ไม่ได้โดดเด่น เส้นผมประหลาดนี่มันอะไรกัน เจ้าเป็นปีศาจหรือ” กั๋วฮูหยินวางท่าทางใหญ่โต สำรวจอนุคนใหม่อย่างละเอียด

“เอ้อหลิงบอกแล้ว แต่..แต่..” อนุเอ้อหลิงเห็นหนทางที่จะกำจัดอนุผมทอง คิดอยากยืมมือกั๋วฮูหยินกำจัด ตัวเองจะได้มือสะอาด จึงพยายามบีบน้ำตาเต็มที่

“หุบปากเน่าๆ ของเจ้าไปซะนางคนใช้” กั๋วฮูหยินตอบกลับจนเอ้อหลิงไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ได้แต่ก้มหน้าเก็บความเจ็บแค้นเอาไว้ในใจ

“ลู่เยียน เจ้าเสียมารยาทต่อหน้าท่านแม่มากไปแล้ว” หงเจี้ยนหยางเริ่มไม่พอใจ

“ได้ ข้าลู่เยียนหรง ภรรยาเอกของท่านกั๋วกง ต้องขออภัยด้วยเจ้าค่ะท่านแม่ ขออภัยที่อยากมาต้อนรับอนุจนๆ ซึ่งสามีของข้าลักลอบพาเข้าจวน” นางย่อตัวเพียงเล็กน้อย การเสแสร้งและคำขอโทษนั้น เด็กสามขวบก็ฟังรู้ว่าเป็นการประชด เห็นได้ชัดว่าภรรยาเอกผู้นั้นไม่มีความเกรงใจต่อผู้อาวุโสสักนิด

“มะ ไม่เป็นไร ไหนๆ เจ้าก็กลับมาแล้ว มากินอาหารร่วมกันสิ” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยเสียงสั่น แม้นางจะพยายามเก็บอาการอย่างแนบเนียนแล้ว

“ฐานะข้าต่ำต้อยเกินไป ไม่เหมาะสมเจ้าค่ะท่านแม่” ลู่เยียนหรงปฏิเสธทันควัน แม้จะพูดเหมือนตัวเองต่ำต้อย แต่การกระทำกลับปฏิเสธผู้อาวุโสอย่างไม่ไยดี

“เอ่อ..อ้อ” ฮูหยินผู้เฒ่าหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด

“ยกเก้าอี้ของข้าเข้ามา” ลู่เยียนหรงหันไปสั่งบ่าวรับใช้ส่วนตัวของนางให้ยกเก้าอี้ประจำตัวเข้ามาในห้องอาหาร คล้ายเป็นการบอกว่าไม่อยากร่วมโต๊ะกับคนของสามี และรังเกียจเก้าอี้สกปรกของบ้านแม่สามี

‘โอ้..นี่สิถึงจะเป็นนางร้ายตัวแม่’ อันเยว่ฉีแอบชื่นชมในใจให้กับความร้ายกาจของนางร้ายตัวจริง ช่างเปิดตัวได้อย่างยิ่งใหญ่ แตกต่างจากนางร้ายสมองน้อยอย่างอนุเอ้อหลิงมาก

“นางปีศาจผมทอง เจ้าชื่ออะไร” ลู่เยียนหรงถามอนุคนใหม่

“ข้าชื่ออันเยว่ฉีเจ้าค่ะกั๋วฮูหยิน”

“มาสิ ข้ารอรับน้ำชาของเจ้าอยู่”

“ลู่เยียน!” หงเจี้ยนหยางเตือน

“อะไรกัน เจ้าไม่อยากให้ข้ารับน้ำชาจากนางหรือ”

“ไม่เป็นไร ข้าจะยกน้ำชาให้กั๋วฮูหยิน” อันเยว่ฉีลุกขึ้น ตั้งใจจะไปหยิบถ้วยชาใบใหม่มาคารวะตามหน้าที่ของอนุ

“ไม่ต้อง ข้าได้เตรียมถ้วยชาเฉพาะสำหรับเจ้าไว้แล้ว” ลู่เยียนหรงกวักมือเรียกทีเดียว สาวรับใช้ของนางก็นำถ้วยชามาให้อันเยว่ฉีถือ ในมือของสาวใช้มีกาน้ำชาที่มองก็รู้ว่าน้ำในกาจะต้องร้อนมากอยู่แน่

“คุกเข่า และคลานมาที่เท้าของข้าสิ” กั๋วฮูหยินออกคำสั่งกับอนุคนใหม่ ไม่ไว้หน้าใคร แม้แต่ท่านกั๋วกงนางก็ไม่สนใจ

หงเจี้ยนหยางไม่ชอบใจสักนิดที่ภรรยาของเขาทำตัวเช่นนี้ ไม่รู้ว่านางไปพบเรื่องไม่สบอารมณ์ใดมาอีก กลับมาถึงจวนก็อาละวาดทันที เขาพยายามส่งสายตาให้กุนซือจางทำอะไรสักอย่าง แต่กุนซือผู้นั้นกลับก้มหน้าไม่ยอมสบตาใครทั้งสิ้น

‘อะไรกัน เจ้าก็อยากเล่นงิ้วฉากหึงหวงสามีหรือ แย่หน่อยนะ เพราะฉันเป็นผู้หญิงที่มาทีหลัง ถึงจะดูเลวมาก แต่วันนี้ฉันจะเล่นกับเธอหน่อยแล้วกัน’ อันเยว่ฉีมองท่าทีของกั๋วฮูหยินแล้วยิ้มน้อยๆ

จากนั้นหญิงสาวผมทองก็เดินเข้าไปใกล้กั๋วฮูหยิน นางจงใจหันหลังให้หงเจี้ยนหยางและคนอื่น ก่อนจะขยับปากพูดว่า นางแพศยา พร้อมรอยยิ้มชั่วร้ายที่สุด เหมือนพวกสตรีที่ชอบแย่งสามีผู้อื่นในซีรีส์ชอบทำ

“..เจ้า..เจ้าว่าอะไรนะ” ลู่เยียนหรงตกใจกับท่าทีของสตรีผมทอง นางโกรธจนกำแส้ในมือไว้แน่น ไม่คิดว่าจะได้พบอนุที่ชั่วร้ายกว่าเอ้อหลิงอีก

“พอแล้ว!” หงเจี้ยนหยางรีบลุกขึ้น ตั้งใจจะไปห้ามทัพ เพราะเขาเห็นท่าทีของลู่เยียนหรงและรู้ว่านางคล้ายจะโกรธขึ้นมาจริงๆ แล้ว

“ว้าย..” อันเยว่ฉีรีบหันหลังและวิ่งเข้าใส่อ้อมกอดของหงเจี้ยนหยาง โดยไม่สนใจสายตาใครทั้งสิ้น

“เจี้ยนหยาง ขะ..ข้ากลัว นางจะฆ่าข้าแล้ว ที่รัก..ท่านสัญญาว่าจะปกป้องข้าจากครอบครัวของท่านไม่ใช่หรือ ช่วยข้าด้วย..ข้ากลัว ข้าเป็นเพียงสตรีอ่อนแอ กั๋วฮูหยินยังคิดจะฆ่าข้า ฮือ..” นางชิงเสแสร้งเป็นคนน่ารังเกียจก่อนที่จะถูกรังแกด้วยซ้ำ

สตรีที่เคยเย่อหยิ่งวางท่าสูงส่งราวเทพธิดา ยามนี้กลับออดอ้อนราวกับลูกแมว กอดเสวียนหู่แห่งอี้โจวไว้แน่น ทั้งยังถูแก้มไปมาที่อกของเขา คล้ายหวาดกลัวลู่เยียนหรงอย่างยิ่ง ทั้งน่าเอ็นดูและน่าสงสาร

[1] กั๋วฮูหยิน หมายถึง ภรรยาเอกของขุนนางขั้นกั๋วกง

[2]หนึ่งฉื่อ เท่ากับ 23-24 เซนติเมตร 7 ฉื่อครึ่ง จึงสูงประมาณ 168-175 เซนติเมตร ซึ่งเป็นผู้หญิงที่สูงมากเมื่อเทียบกับผู้หญิงจีนทั่วไปในสมัยก่อน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel