บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 เหตุใดจึงไม่ใช่นางเอก (1)

เมิ่งเหยียนซินนักเขียนสาวในร่างคุณหนูรองสกุลเมิ่งถูกนำตัวเข้ามายังที่พำนักของแม่ชีอีกนาง นัยน์ตากลมโตทอดมองสตรีแปลกหน้าครู่หนึ่ง แม่ชีที่กำลังเข้าฌานจึงค่อย ๆ เปิดปรือเปลือกตาขึ้นแช่มช้า

"คุณหนูรองหรอกหรือ เหตุใดนางจึงมีสภาพเช่นนี้เล่า"

"ไม่ทราบเช่นกันเจ้าค่ะ จู่ ๆ คุณหนูรองเมิ่งก็โผล่มาที่โถงกราบไหว้"

แม่ชีสวมชุดขาวพยักหน้า "ให้นางอยู่กับข้าที่นี่ก่อน เรื่องพาตัวกลับสกุลเมิ่งไว้ข้าจะปรึกษากับไต้ซืออีกครั้ง"

"เจ้าค่ะ"

แม่ชีหน้าละอ่อนที่พาเมิ่งเหยียนซินเข้ามาถอยห่างออกไป ทิ้งนางเอาไว้กับแม่ชีวัยกลางคน "เอ่อ ท่านเป็นแม่ชีที่บวชอยู่ที่นี่นานแล้วงั้นหรือคะ"

แม่ชีผงะเล็กน้อย ครั้นได้สตินางก็อมยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู "คุณหนูรอง ท่านพูดได้ตั้งแต่เมื่อใดกัน"

"ก็พูดได้ตลอดนะคะ แล้ว...แม่ชีคะ สรุปแล้วที่นี่คือที่ไหนหรือคะ"

เมิ่งเหยียนซินยังคงมึนงงและสับสน เพราะเดิมทีนี่คือจิตวิญญาณของหญิงสาวจากกาลข้างหน้านับพันปี เมิ่งเหยียนซินคือนักเขียนสาวจบใหม่ป้ายแดง ซึ่งชื่นชอบการอ่านนิยายและรักการเขียนเป็นชีวิตจิตใจ ดูเหมือนว่าการที่เมิ่งเหยียนซินโหมงานเขียนนิยายมากเกินไปอาจทำให้บังเกิดสติเลอะเลือนจนผุดภาพหลอดขึ้นชั่วขณะ

จากที่เมิ่งเหยียนซินลองปะติดปะต่อเรื่องราว เมิ่งเหยียนซินก็คาดเดาได้ว่าตอนนี้ตนเองอาจกำลังละเมอคิดว่าตนคือคุณหนูรองสกุลเมิ่ง ซ้ำยังเป็นคุณหนูบ้าใบ้ลูกสาวสุดที่รักของเสนาบดีกรมการคลังที่อ่านเจอในนิยายเรื่องล่าสุด

แต่แทนที่เมิ่งเหยียนซินจะฝันว่าตนเองได้เป็นนางเอกของเรื่องเช่นคุณหนูสกุลลี่ ไฉนดันพาตัวเองมาติดแหง็กกับวงจรชีวิตของตัวประกอบเรียกน้ำตาซึ่งมักถูกพี่สาวต่างมารดารังแกชิงชัง กระทั่งโดนวางยาจนเกิดเสียสติเพราะต้องการแย่งคู่หมั้น แม้คุณหนูเมิ่งเหยียนซินบทบาทน้อยนิดกระนั้นชีวิตกลับรันทดอย่างไม่น่าให้อภัย

"คุณหนูรอง ท่านเอาแต่หนีออกจากบ้านเช่นนี้มิได้นะเจ้าคะ ถึงข้านั้นเคยเป็นแม่นมของท่าน แต่ยามนี้ข้าไม่อาจดูแลท่านได้เฉกเช่นกาลก่อนแล้ว และคงกลับไปเหยียบสกุลเมิ่งไม่ได้เช่นกัน"

เมิ่งเหยียนซินอึ้งงันไปชั่วขณะ ความรู้สึกคะนึงถึงที่ปรากฏภายในใจของเมิ่งเหยียนซินเมื่อครู่คือสิ่งใด หรือแม่ชีวัยกลางคนผู้นี้จะเป็นแม่นมของเมิ่งเหยียนซินซึ่งถูกฮูหยินใหญ่ไล่ตะเพิดออกจากจวนสกุลเมิ่ง เพราะเกรงว่าสามีของตนจะคว้าเอาแม่นมคนนี้มาแทนที่ฮูหยินรองคนโปรด

หนำซ้ำแม่นมยังหน้าตาสะสวยสมวัย เมื่อก่อนนางคือสาวใช้คนสนิทของฮูหยินรองเมิ่ง ครั้นมารดาของเมิ่งเหยียนซินตายจากก็มีเพียงสาวใช้ที่ได้ผันตัวมาเป็นแม่นมคอยดูแลเอาใจใส่ และให้ความอบอุ่นกับคุณหนูรองเมิ่งอย่างไม่ขาดตกบกพร่องราวกับเป็นแม่แท้ ๆ ผู้หนึ่ง นี่จึงเป็นเหตุผลที่เมิ่งเหยียนซินมักหนีมาที่วัดเจาเจินอยู่บ่อยครั้ง

เมิ่งเหยียนซินพยายามทำใจ บางทีเมิ่งเหยียนซินอาจคิดมากไปเอง เสียงใสจึงเอ่ยถามอ้อมแอ้ม "แม่ชีคะ คือ ท่านชื่อว่า... ผู่เยว่ ใช่หรือไม่"

ม่านตาของแม่ชีผู่เยว่ขยายกว้างตะลึงลาน ด้วยสติอันไม่สมประกอบของอีกฝ่าย ทำให้เมิ่งเหยียนซินหลงลืมตนไปเสียตั้งนานแล้ว โดยปกติเมิ่งเหยียนซินก็แค่มาหานางตามจิตสำนึกของความผูกพันธ์ที่ยังหลงเหลือ หากไม่ใช่นางใครจะให้ความอบอุ่นแก่คุณหนูผู้อาภัพผู้นี้ได้อีกเล่า หลงมาคราใดก็ต้องวุ่นวายส่งจดหมายให้ใต้เท้าเมิ่งมารับตัวลูกสาวกลับอยู่ร่ำไป

"...เจ้าค่ะ ข้านามว่าผู่เยว่ เดิมเคยเป็นแม่นมของท่าน ว่าแต่คุณหนูรอง นี่ท่านหายป่วยแล้วหรือเจ้าคะ"

เมิ่งเหยียนซินตั้งสติอีกครั้ง ทุกอย่างมันสมจริงเกินไปจนเกินจะรับไหว ทั้งความเจ็บปวดที่คอยตอกย้ำ และการพูดคุยที่มิได้เกิดจากมโนความคิด ก็ยิ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าเมิ่งเหยียนซินได้ทะลุมิติเข้ามายังยุคโบราณเฉกเช่นนิยายที่ตนมักคิดและจินตนาการแต่งมันขึ้นมา

โอ้ไม่....

"เกินไป!... ทำเกินไปหน่อยแล้ว มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ ไม่อยากจะเชื่อ" เมิ่งเหยียนซินยกมือคลึงขมับ ภายในใจระรัวกระหน่ำดั่งถูกหวดตีนับร้อยล้านครั้ง "โอ๊ย เจ็บจังค่ะ ฮื่อ..."

เพราะบาดแผลเต็มลำตัวไปหมด ทำให้ยามที่ขยับเพียงเล็กน้อยก็รู้สึกเจ็บปวด เมิ่งเหยียนซินคงต้องยอมรับความจริงให้ได้ เพราะหากนี่คือร่างกายของเมิ่งเหยียนซินจริง คงไม่สวมเสื้อผ้าขาดวิ่น หนำซ้ำยังมีแต่รอยจ้ำดำเขียวประหนึ่งถูกทารุณอย่างหนัก อีกอย่างเมิ่งเหยียนซินย่อมทราบดีว่าคุณหนูรองผู้นี้ไม่ได้มีอายุที่ยืนยาวนัก เพราะนางอ่านนิยายเรื่องนี้จบไปหมาด ๆ อย่างไรเล่า

"สองแม่ลูกสกุลเมิ่งต้องทำร้ายคุณหนูรองจนบาดเจ็บ นางเลยหนีมานอนหนาวตายที่วัดเจาเจินแหงเลยค่ะ ไม่งั้นหนูก็คงไม่มาติดอยู่ที่นี่หรอก!" เมิ่งเหยียนซินปั้นปึ่ง เพราะเดิมทีเมิ่งเหยียนซินก็ชิงชังสองแม่ลูกมหาภัยมากทีเดียว

แม่ชีผู่เยว่กะพริบตาปริบ แม้คุณหนูรองคล้ายจะหายป่วยแล้ว แต่นางก็ยังพูดจาไม่รู้ความอยู่ดี "นะ... นี่ คุณหนู ท่านอย่าแตะบาดแผลสิเจ้าคะ แล้วดูเสื้อผ้าขาดกะรุ่งกะริ่งเช่นนี้ ไปเจ้าค่ะเดี๋ยวข้าจะพาไปอาบน้ำผลัดผ้า อีกเดี๋ยวจะทำแผลให้นะเจ้าคะ" แม่ชีผู่เยว่มองเรือนกายที่เปื้อนปอนอย่างนึกเวทนา

เมิ่งเหยียนซินเองก็ไร้ทางเลือก เพราะอยากแน่ใจเช่นกันว่าโลกใบนี้ยังมีเรื่องอัศจรรย์พันลึกอยู่จริงหรือไม่ จึงจำใจไหลตามน้ำไปก่อน "โอเคค่ะ"

นางหายป่วยแน่หรือ

ครั้นเห็นสีหน้างงงวยของอีกฝ่าย เมิ่งเหยียนซินจึงกระแอมเบา จากนั้นก็ปรับภาษาพูดของตนให้เข้ากับคนที่นี่ "เจ้าค่ะ"

เชิงอรรถ

^

ไต้ซือ เป็นภาษาจีนเเต้จิ๋ว จีนกลาง อ่าน ต้า ซือ เขียนตัวเต็มคือ 大 師 จีนตัวย่อ คือ 大 师ไต้เเปลว่าใหญ่ยิ่งใหญ่ อภิ มหาซือ เเปลว่าอาจารย์เป็นคำเรียกพระภิกษุ ในพุทธศาสนา ที่ชาวจีน ใช้เรียก เพื่อให้เกียรติ เเสดงความเคารพ ยกย่อง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel