ตอนที่ 5 หวังว่าท่านจะเชื่อใจได้
ตอนที่ 5
หวังว่าท่านจะเชื่อใจได้
ภายในห้องนอนเล็กของบ้านเฉิน หลี่ชิงเหยียนเดินกลับไปกลับมา ครุ่นคิดหาทางออก ว่าจะพิสูจน์อย่างไรดีถึงจะแน่ใจว่า เฉินหยวนเจี๋ยเป็นคนดีจริง ๆ ไม่ได้ดีแต่เปลือกนอกเหมือนพี่เขยของสิวิตา
เพราะถึงอย่างไรนางก็ต้องอยู่ที่นี่ไปก่อน เนื่องจากไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเลยว่าเป็นใครมาจากไหน ครั้นจะออกไปตั้งตัวด้วยลำแข้งของตนเอง ดูจากสภาพตอนนี้ คงอีกนานกว่าจะหาบ้านอยู่ได้สักหลัง
แต่จะให้อยู่ด้วยความหวาดระแวง ว่าวันหนึ่งจะถูกทรยศหักหลังความไว้วางใจอีกก็คงไม่ไหวเช่นกัน
เดินกลับไปกลับมาอยู่ในห้องหลายสิบรอบ สุดท้ายก็นึกวิธีออก “นึกออกแล้ว พี่เขยบีบคอฉันตาย เพราะโมโหที่ถูกฉันทำร้าย ถ้าฉันยั่วโมโหเฉินหยวนเจี๋ย เขาก็ต้องแสดงธาตุแท้ออกมาแน่”
คิดได้ดังนั้น มื้ออาหารที่นางถูกพาตัวไปนั่งรออยู่ที่โต๊ะ พอชายหนุ่มยกชามข้าวต้มสามชาม พร้อมกับกับข้าวอีกสองอย่าง นางก็ลงมือหยิบของพวกนั้นเทลงพื้นจนหมด ไม่สนเสียงร้องห้ามของเด็กชาย
“พี่ชิงเหยียนอย่าทำแบบนั้น เดี๋ยวพวกเราก็อดข้าวมื้อเย็นหรอก”
เฉินหยวนเจี๋ยที่กลับเข้าครัวไปเตรียมน้ำดื่ม เดินเข้ามาในห้องโถงทันได้เห็นหญิงสติไม่ดีเทกับข้าวจานสุดท้าย ซึ่งเป็นจานเนื้อลงกับพื้นพอดี
“อย่า” เสียงเข้มร้องห้าม แต่ไม่ทันการณ์แล้ว เขาเดินเข้ามาด้วยท่าทางหมดอาลัยตายอยาก มองเศษอาหารเกลื่อนพื้นตาละห้อย
ส่วนตัวต้นเหตุ พอเห็นท่าทางของชายหนุ่ม ก็ยั่วโมโหด้วยการกระโดดโลดเต้น ปรบมือแหกปากร้องตะโกนจนสุดเสียง “สนุก ๆ เอาอีก ๆ”
‘เอาสิ โมโหแล้วใช่ไหม จัดการฉันสิจัดการเลย’ ดวงตาของหญิงสาวจดจ่ออยู่กับชายหนุ่มตรงหน้า ลุ้นว่าคนตัวสูงจะพุ่งเข้ามาบีบคอตนหรือเปล่า
แต่นอกจากอาการถอนหายใจดังเฮือกแล้ว เฉินหยวนเจี๋ยก็ไม่มีท่าทีว่าจะกระโจนเข้ามาทำร้ายตัวต้นเหตุ แม้แต่คำต่อว่าสักคำยังไม่มี ได้แต่พูดกับลูกชายว่า “ไม่เป็นไร เดี๋ยวพ่อเข้าไปทำมาใหม่ เสี่ยวเป่าช่วยพ่อเก็บกวาดได้หรือไม่”
“ได้ขอรับ” เฉินเสี่ยวเป่าคอตกรับคำ ท้องเล็กกำลังส่งเสียงประท้วงขึ้นมา
ก่อนจะเดินเข้าครัวไป มือข้างหนึ่งยกขึ้นวางบนบ่าของลูกชาย บอกบางอย่างกับเขา “อย่าโกรธแม่นางชิงเหยียนเลยนะลูก นางสติไม่เหมือนพวกเรา”
“ลูกไม่โกรธเลยขอรับ ลูกเข้าใจ” เด็กชายยิ้มรับ ไม่ใช่พูดเพียงเพื่อเอาใจผู้เป็นพ่อ แต่เขาไม่ได้รู้สึกโกรธพี่สาวจริง ๆ
การกระทำของสองพ่อลูก ตอกย้ำให้ผู้ก่อความวุ่นวายในมื้ออาหารรู้สึกผิดขึ้นมาในใจ ดังนั้นตอนที่เด็กชายลงมือเก็บกวาดเศษอาหารบนพื้นลงในที่ตักขยะ นางเลยเข้าไปช่วย แต่ทำทีว่าเป็นเล่นสนุกมากกว่า
“เล่น ๆ สนุก ๆ”
เฉินเสี่ยวเป่าก็ไม่ได้ว่าอะไร ปล่อยให้พี่สาวสติไม่ดีช่วยเก็บกวาดเศษอาหาร ช่วยนำผ้ามาถู พอเสร็จสรรพเด็กชายก็จูงมือพี่สาวไปล้างมือ แล้วกลับมานั่งรอพ่ออยู่ที่โต๊ะตามเดิม
พอดีกลับที่เฉินหยวนเจี๋ยยกชามโจ๊กใส่ไข่สามชามออกมา เขาวางชามโจ๊กลงตรงหน้าหญิงสาวกับเด็กชาย ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ของตนเองบ้าง “กินแบบง่าย ๆ ไปก่อนแล้วกัน”
หลี่ชิงเหยียนจึงไม่กล้าหาเรื่องอีก ก้มหน้าก้มตากินโจ๊กไข่แบบเงียบ ๆ พอกินเสร็จก็ออกไปนั่งรับลมอยู่หน้าบ้าน ตกดึกเด็กชายก็จูงมือพาไปส่งที่ห้องนอน หลังจากทิ้งตัวลงนอน นางก็ครุ่นคิดหาทางพิสูจน์ใหม่
“เรื่องอารมณ์ร้ายถือว่าผ่าน ต้องคอยตามสืบดูอารมณ์ด้านอื่น ๆ ด้วย”
ดังนั้น วันต่อ ๆ มา หลี่ชิงเหยียนมักจะปลีกตัวในช่วงที่เสี่ยวเป่านอนหลับในช่วงกลางวัน แอบไปตามสืบ สังเกตดูพฤติกรรมของเฉินหยวนเจี๋ย ว่าจะแสดงด้านไม่ดีออกมาตอนไหน
แต่เท่าที่ตามแอบดู ชายหนุ่มผู้นี้นับได้ว่าเป็นคนดี เป็นชายในอุดมคติของผู้หญิงส่วนใหญ่ ขยันทำมาหากิน มีน้ำใจช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทน ครั้งหนึ่งนางแอบตามเขาเข้าไปในป่า หยวนเจี๋ยบังเอิญไปเจอไก่ป่าติดบ่วงของนายพราน นางเห็นเขานั่งปลดอยู่ตั้งนาน นึกว่าเย็นนั้นจะได้ลิ้มรสเนื้อไก่ป่า ที่ไหนได้ เขากลับปล่อยไก่ป่าวิ่งหนีไปหน้าตาเฉย ยังมีหน้าพูดขึ้นมาอีก
“คราวหน้าคราวหลังก็พากันไปอยู่ในป่าลึกนะ จะได้ไม่ถูกคนล่าเอาไปเป็นอาหารอีก”
“เอาละ เรื่องอื่น ๆ ถือว่าผ่าน แต่เรื่องผู้หญิงก็ไม่แน่ อาจเป็นพวกโรคจิตหื่นกามก็ได้”
หลี่ชิงเหยียนกำลังคิดหาวิธีพิสูจน์เรื่องหื่นกามจนปวดหัว โอกาสนั้นก็วิ่งเข้ามาเอง เมื่อนางย่องตามเขาไปที่ลำธารในป่าไม่ไกลจากบ้านนัก ตอนที่เฉินหยวนเจี๋ยถอดเสื้อผ้าเดินลงไปในน้ำ นางรีบเอามือปิดตาเอาไว้ไม่ทัน และเอามือออกตอนได้ยินเสียงผู้หญิงพูดขึ้น
“พี่หยวนเจี๋ย ข้าอาบน้ำด้วยคนนะเจ้าคะ”
เจ้าของเสียงพูดเป็นหญิงสาวหุ่นอวบอั๋น หากเป็นในโลกยุคสมัยปัจจุบันหุ่นแบบนี้แหละ ที่บรรดาผู้ชายอยากขย้ำ หญิงสาวผู้นั้นไม่ได้พูดเปล่า กลับลงมือปลดเปลื้องเสื้อผ้าออกจากร่างกายของตนเองทีละชิ้น ๆ
ทำเอาคนในน้ำถึงกลับหลับตาลง ร้องห้ามเสียงหลง “อย่า”
‘ผู้หญิงอะไร หน้าไม่อายแก้ผ้าต่อหน้าผู้ชาย’ หลี่ชิงเหยียนที่แอบมองอยู่ ก่นด่าอยู่ในใจ แววตาจ้องมองเรือนร่างของหญิงสาวผู้มาใหม่ไม่วางตา
หลังจากตู้โตวชิ้นสุดท้ายถูกปลดเปลื้อง หญิงสาวชาวบ้านที่ละทิ้งทุกคำสอน เพราะปรารถนาจะได้ชายหนุ่มที่ทุกคนในหมู่บ้าน ต่างเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นคนดี คู่ควรกับการเป็นลูกเขยของตระกูลต่าง ๆ เพียงแต่ว่า หลังจากภรรยาคนแรกของเขาหนีตามชายชู้ไป เขาก็ไม่สนใจหญิงใดอีกเลย วัน ๆ เอาแต่ทำงานกับดูแลลูก แม้หญิงสาวหลายคนจะพยายามเข้าหา เขาก็ไม่เล่นด้วย
หญิงสาวรายนี้จึงต้องใช้วิธีการไร้ยางอายเยี่ยงนี้ หวังจะจับเขามาเป็นสามีให้ได้ คงไม่มีผู้ชายคนใดทนได้หรอก หากได้เห็นเรือนร่างอะร้าอร่ามของสตรีเช่นนี้ นางเดินลงน้ำไปเรื่อย ๆ จุดมุ่งหมายคือร่างสูงโปร่งที่ยืนหลับตาอยู่
เสียงน้ำแตกกระจายใกล้เข้ามา ทำให้เฉินหยวนเจี๋ยต้องเปิดเปลือกตาขึ้นเล็กน้อย โชคดีที่ผืนน้ำพอจะปิดบังร่างเปลือยตรงหน้าได้บ้าง เขารีบเบือนหน้าหนีหันไปสนใจสิ่งอื่น ปากก็ห้ามไม่ให้หญิงสาวกระทำการน่าอายไปมากกว่านี้
“ชิงชิง เจ้าจงหยุดอย่าได้ขยับเข้ามาใกล้ข้าอีก ข้าไม่เคยทำร้ายผู้หญิง แต่ถ้าเจ้ายังคิดจะทำในสิ่งที่ไม่สมควร ข้าก็คงต้องฝืนใจทำ”
“เหตุใดเล่าพี่หยวนเจี๋ย ข้าไม่งดงามพอหรือ รูปร่างของข้าไม่เย้ายวนใจพี่บ้างหรืออย่างไร พี่ไม่อยากสัมผัสดูสักครั้งหรือเจ้าคะ” เสียงหวานทอดสะพานมาให้เต็มที่ ยังคงก้าวเท้าเข้าหาชายหนุ่มที่หมายปอง
เฉินหยวนเจี๋ยเองก็ไม่ยอมให้หญิงสาวเข้าใกล้ได้ง่าย ๆ ขยับถอยหนีออกไปเรื่อย ๆ ปากก็พร่ำสอนอีกฝ่ายไม่หยุด
“ต่อให้เจ้างดงามที่สุดในแคว้น ต่อให้เจ้าเปลือยกายต่อหน้าข้ากี่ครั้ง ข้าก็ไม่สามารถทำให้เจ้าสมหวังได้ หนึ่ง เพราะข้าไม่ได้รักเจ้า แล้วข้าจะไม่มีวันแตะต้องผู้หญิงที่ข้าไม่ได้รักเป็นอันขาด สอง ข้ารู้สึกสงสารพ่อแม่ของเจ้า ที่มีลูกสาวเพียงคนเดียว แต่กลับทำตัวหน้าด้านไร้ยางอาย แก้ผ้าต่อหน้าผู้ชายที่ไม่ใช่สามีของตนเอง หากผู้ใดรู้เข้า ครอบครัวของเจ้าคงอับอายขายขี้หน้า พ่อแม่เจ้าคงจะเสียใจจนแทบไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ หากเจ้ายอมหยุด ข้าจะทำเหมือนว่าวันนี้ไม่เคยเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น แล้วพวกเรายังคงจะมองหน้ากันติด”
เหตุผลของชายหนุ่ม ทำให้หญิงสาวหยุดชะงักฝีเท้า ความละอายก่อเกิดขึ้นในใจ ยามคิดถึงหน้าพ่อแม่ หากพวกท่านรู้ คงจะไม่ยอมให้อภัยนางเป็นแน่ และต่อให้มีคนมาเห็น แล้วจับนางแต่งงานกับชายหนุ่มสมใจปรารถนา เขาก็คงจะเกลียดชังนางมากกว่ารักเป็นแน่
นางไม่น่าปล่อยให้ความปรารถนาครอบงำ จนหน้ามืดตามัวทำในสิ่งที่ไม่มีหญิงสาวคนใดพึงกระทำแบบนี้ พอคิดได้ร่างเย้ายวนก็วิ่งขึ้นจากน้ำ หยิบเสื้อผ้าขึ้นสวมใส่ วิ่งร้องไห้จากไป
พอทุกอย่างสงบ ร่างสูงโปร่งก็หมดอารมณ์ที่จะแช่น้ำ รีบเดินขึ้นจากน้ำ ทำให้คนที่แอบดูอยู่ รีบวิ่งหนีออกห่างจากลำธารเช่นกัน ภาพหยดน้ำเกาะตามแผงอกแกร่ง ทำให้ใจสาวเต้นแรงไม่ใช่น้อย
“โอเคร ถือว่านายสอบผ่าน ขนาดผู้หญิงให้ท่านายยังไม่เอา ต่อไปนี้ฉันจะเป็นหลี่ชิงเหยียน จะลองเชื่อใจนายดูสักครั้ง หวังว่านายจะไม่ทรยศความเชื่อใจของฉันเหมือนพี่เขย”
หลังจากตามสังเกตพฤติกรรมของเฉินหยวนเจี๋ยมาหลายวัน สิวิตาก็ยอมกลับมาเชื่อใจผู้ชายดูอีกสักครั้ง นับจากวันนี้ นางก็คือหลี่ชิงเหยียน หญิงบ้าที่ไม่รู้ที่มาที่ไป จะลืมเรื่องร้าย ๆ ที่เกิดขึ้นในโลกปัจจุบัน เริ่มต้นชีวิตใหม่ ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
อาจจะหาหนทางหาเงิน เก็บออมเอาไว้ซื้อที่ดินสร้างบ้านเป็นของตนเอง จะได้ไม่ต้องอาศัยหรือรบกวนคนอื่นไปตลอด
หลี่ชิงเหยียนวิ่งกลับมาบ้าน ก่อนที่เฉินหยวนเจี๋ยจะมาถึง พอมาถึงก็แกล้งเข้าไปนั่งเล่นกับเด็กชาย ที่เล่นดินอยู่หน้าบ้าน
“พี่ชิงเหยียน พักนี้ทำไมพี่หายตัวไปประจำเลย”
“...” หญิงสาวไม่ตอบ ได้แต่ฉีกยิ้มกว้าง ทำหน้าโง่ ๆ ให้เด็กชายเท่านั้น
“ช่างเถอะ ท่านพ่อก็ไม่รู้อยู่ดี ว่าข้าปล่อยให้พี่หายไป” เฉินเสี่ยวเป่าเลิกสนใจว่าพี่สาวหายไปไหน และไม่คิดจะพูดเรื่องนี้ให้ผู้เป็นพ่อฟังด้วย...
