บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 เพื่อนของฉัน

ตอนที่ 4 เพื่อนของฉัน

ฝั่งด้านไป๋เทียนเฉินหลังจากคืนนั้นที่เขาร่วมหลับนอนกับเสี่ยวหลิงเขาก็ไม่พบหน้าเธออีกเลยเขามาคิดถึงเธออีกครั้งเมื่อเห็นเพื่อนสนิทของเธอมาที่บ้านพร้อมกับครอบครัวของเธอ มู่หรูเหยาเป็นเพื่อนคนเดียวของเสี่ยวหลิงที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนทั้งสองตัวติดกันตลอด สองครอบครัวรู้จักกันเป็นอย่างดีวันนี้จึงมีการนัดกินข้าวนอกบ้าน

“หนูมู่หรูเหยายิ่งโตเป็นสาวเต็มไวยิ่งสวยสง่าอย่างนี้คงมีแต่หนุ่ม ๆ มาประเคนของมากมายเลยใช่มั้ยคะ” คุณนายไป๋เอ่ยถามขึ้นระหว่างที่กินบนโต๊ะอาหาร

“ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะ มู่หรูเหยาของฉันมีคนอยู่ในใจไม่ว่าจะมีชายคนไหนเข้ามาหาเธอไม่สนใจหรอกค่ะใช่มั้ยมู่หรูเหยา” คุณนายมู่พูดอ่อนน้อมถ่อมตนยิ้มกริ่ม ๆ ก่อนจะหันไปถามลูกสาวเพราะรู้ดีว่าลูกสาวของเธอสนใจไป๋เทียนเฉินอยู่

“ใช่ค่ะคุณป้า หนูมีคนที่อยู่ข้างในใจแล้วแต่ว่าหนูแอบชอบเขาข้างเดียวไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกอย่างไร” เธอพูดน้ำเสียงนิ่มอายก่อนจะเหลือบสายตาไปมองไป๋เทียนเฉินพลางก้มหน้าลงต่ำคุณนายไป๋จึงรู้ทันทีว่ามู่หรูเหยาหมายตาลูกชายเธอ อย่างนี้เธอยิ่งชอบใจไม่ว่าจะมองอย่างไรหนูมู่หรูเหยาก็เหมาะที่จะเป็นลูกสะใภ้ของเธออย่างไม่มีที่บกพร่อง

“เฮ้อ..อย่างนี้ไป๋เทียนเฉินลูกชายของป้าก็หมดสิทธิ์สินะ น่าเสียดายจัง”

“จริงสิ ฉันเองก็เคยคิดอยากให้สองตระกูลเรามาผูกมิตรเป็นครอบครัวเดียวกันในเมื่อหนูมู่หรูเหยามีคนในใจฉันเองก็ไม่อยากบังคับเด็ก” พ่อของเทียนเฉินพูดขึ้นอย่างน่าเสียใจแต่แล้วมู่หรูเหยารีบพูดโพล่งออกมากลัวว่าจะพลาดโอกาสนี้

“คุณลุงกับคุณป้าพูดเรื่องจริงหรือคะ คนที่หนูเฝ้าหลงรักฝ่ายเดียวคือพี่ไป๋เทียนเฉินค่ะ อุ้ย!! หนูลืมตัวแต่ถ้าพี่เทียนเฉินมีคนรักอยู่แล้วหนูก็ไม่อยากฝืนใจพี่เทียนเฉินหรอกค่ะ”

“อะไรกันดีเลย ป้าคิดว่าหนูชอบอยู่กับคนอื่นที่แท้ก็ลูกชายของป้านี่เอง เทียนเฉินนะไม่มีคนรักหรอกนะวัน ๆ เอาแต่สนใจงานใช่มั้ยเทียนเฉินต่อจากนี้ช่วยดูแลเอาใจน้องด้วย อีกไม่นานแม่จะหาฤกษ์วันยามดีเพื่อจัดงานหมั้นหมายให้ทั้งสอง ” เสียงหัวเราะของใจของผู้ใหญ่ดังฮึกเหิมด้วยความดีใจ แต่ทว่าใบหน้าของเทียนเฉินนิ่งสนิทแม้จะรู้อยู่แล้วว่าวันหนึ่งเขาจะต้องหมั้นหมายกับมู่หรูเหยา เพราะเมื่อก่อนเขาเองก็ชอบเธอเหมือนกันแต่ทว่าเมื่อได้ยินคุณพ่อกับคุณแม่พูดเรื่องหมั้นหมายเขาถึงได้อึดอัดใจอย่างนี้กันนะ ส่วนมู่หรูเหยาเธอดีใจยิ้มกว้างอย่างเบิกบานใจจนแทบไม่หุบยิ้ม

รุ่งเช้าวันต่อมา

เสี่ยวหลิงเมื่อรู้ว่าตอนนี้เธอไม่ได้ตัวคนเดียวไม่ว่าจะทำอะไรก็ระวังตัวเป็นอย่างดี เธอยังคงพักอยู่ที่ห้องพักเดิมเพราะยังไม่ได้ย้ายออกอยากให้ร้านที่เธอขายของมั่นคงมากกว่านี้แม้จะอยู่ในย่านคนพลุกพล่านแต่ก็ยังกลัวเรื่องความปลอดภัยอยู่ดี

เสี่ยวหลิงเดินทางด้วยรถประจำทางไม่นานก็มาถึงร้านก็ทำการเปิดร้านสักพักเฉี่ยวซือก็มาทำงานแต่เช้าเหมือนอย่างเคย

“พี่เสี่ยวหลิงเดี๋ยวฉันเปิดร้านเองค่ะ พี่ไปนั่งรอที่เก้าอี้หน้าร้านสักครู่นะคะ”

“เฉี่ยวซือฉันแค่ท้องไม่ได้ไม่สบายสักหน่อยเดี๋ยวฉันทำเอง”

“ท้องช่วงแรกต้องระวังให้มาก ๆ นะคะ มาเถอะค่ะ” เฉียวซือแย่งกุญแจจากมือของเสียวหลิงไปเปิดประตูจัดการเก็บกวาดร้านไม่ให้เสี่ยวหลิงได้ทำอะไร จู่ ๆ เสียงประตูได้ดังขึ้น

กริ่ง.. เสี่ยวหลิงจ้องมองไปยังประตูเอ่ยปากต้อนรับลูกค้าแต่เมื่อเห็นว่าใครมาใบหน้าเธอเปลี่ยนไปทันที

“เสี่ยวหลิงเธอมาทำงานที่ร้านขายของตั้งแต่เมื่อไหร่น่าน้อยใจชะมัดไม่เห็นบอกฉันสักคำ ฉันคิดว่าเธอยังทำงานอยู่ที่โรงงานของพี่เทียนเฉินเสียอีก ทำไมถึงย้ายออกมาล่ะที่นั่นได้เงินดีมิใช่หรือไงทีฉันชักชวนเธอไปทำงานโรงงานเย็บผ้าเธอก็ไม่ยอมไป ชิ”

“แฮะ ๆ ฉันต้องขอโทษทีนะพอดีช่วงนี้ฉันวุ่นวายและมีเรื่องมากมายเลยไม่ได้ติดต่อและบอกเธอเรื่องร้านของฉัน แล้วเธอรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่”

“ฮ่ะ ! อะไรนะนี่ร้านของเธอเหรอ ? เธอมีเงินมากมายขนาดเปิดร้านขายของเป็นของตัวเองตั้งแต่เมื่อไหร่ หรือว่าเธอไปกู้เงินมาทำไมถึงไม่บอกฉัน ฉันบอกแล้วไงถ้าเธอเดือดร้อนหรือต้องการอะไรให้บอกฉัน เธอยังเห็นฉันเป็นเพื่อนอยู่มั้ย ทำไมช่วงนี้เธอถึงเปลี่ยนไปมากขนาดนี้กัน ”

“โอ๋ ๆ มู่หรูเหยาฉันขอโทษ ฉันไม่อยากรบกวนเธอนะ อีกอย่างเรื่องเงินฉันไม่ได้ไปกู้หนี้ยืมใครมาเธอไม่ต้องเป็นห่วงไปนั่งที่เก้าอี้หน้าร้านกันเดี๋ยวฉันจะเอาน้ำเย็นไปให้นะ ”สายตาของมู่หรูเหยาจ้องมองเพื่อยอย่างไม่เชื่อเรื่องเงินในการลงทุน เพราะเธอรู้ดีว่าที่ผ่านมาเสี่ยวหลิวไม่ได้มีเงินมากมายถึงขนาดมาเปิดร้านด้วยตัวเองได้

“ก็ได้ ๆ เรื่องนี้ฉันให้อภัยเพราะฉันมีเรื่องดี ๆ มาเล่าให้เธอฟัง” มู่หรูเหยายอมไปนั่งที่หน้าร้านเพื่อเล่าเรื่องที่เธอจะได้หมั้นหมายกับเทียนเฉินให้เพื่อนสนิทของเธอฟัง เสี่ยวหลิงเดินไปหลังร้านเทน้ำใส่แก้วก่อนจะเดินออกมาหามู่หรูเหยาแต่ทว่าตอนนั้นเฉี่ยวซือกลับจับมือของเธอเอาพร้อมกระซิบอย่างแผ่วเบา

“พี่เสี่ยวหลิงผู้หญิงคนนั้นเป็นเพื่อนพี่หรือคะ”

“ใช่แล้วล่ะ นี่คือเพื่อนคนเดียวของฉัน”

“แต่ทำไมสายตาที่เขามองพี่เสี่ยวหลิงไม่เหมือนสายตาของเพื่อนที่มองกันเลย ฉันไม่ชอบผู้หญิงคนนี้สุด ๆ พี่ระวังตัวหน่อยนะคะ”

“เฉี่ยวซือเธอพึงจะเจอมู่หรูเหยาครั้งแรก ยังไม่รู้นิสัยของเธอ มู่หรูเหยานะเป็นคนที่นิสัยดีมากเรียบร้อยอ่อนหวาน เธอไปตั้งใจทำงานของเธอเถอะนะไม่ต้องห่วงไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก” เสี่ยวหลิงนึกถึงเนื้อเรื่องในนิยายเธอเองต่างหากที่เป็นคนนิสัยไม่ดีคิดร้ายกับเพื่อนเพียงคนเดียวอย่างมู่หรูเหยา เฉี่ยวซือพยักหน้าแต่ก็ยังไม่วางใจเดินไปทำงานต่อ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel