ตอนที่ 5 ตัวภาระ
คืนนั้นหลังจากกินข้าวเสร็จ หลินเสี่ยวเหยาแอบใส่สมุนไพรลงไปในน้ำของตัวเองเล็กน้อย พอผ่านไปสักพักร่างกายเธอก็เริ่มมีอาการมึน ๆ และดูอ่อนแรงขึ้นจริง ๆ
‘แบบนี้ล่ะดี จะได้ดูสมจริง’
หญิงสาวถือถ้วยชามที่กินเสร็จจะไปล้างที่หลังเรือน พอเดินไปได้ครึ่งทางเธอก็แกล้งเซจนชามหลุดมือ ตกลงพื้นแตกกระจาย
เพล้ง!
“โอ๊ย เวียนหัวเหลือเกิน” พูดจบก็ล้มลงกับพื้นแล้วใช้มือค้ำยันพื้นเอาไว้ มืออีกข้างกุมขมับเพื่อแสดงอาการป่วยให้สมจริง
“เป็นอะไรกัน” นางหลี่ถลันเข้ามาดู
“ฉันรู้สึกเวียนหัวค่ะแม่ ตั้งแต่เช้าแล้วยังไม่หาย เหมือนว่าตอนนี้จะเป็นหนักขึ้น” หลินเสี่ยวเหยาทำเสียงอ่อนแรง จงใจให้ดูเหมือนคนป่วย
“ตายแล้ว อย่าบอกนะว่าเธอจะป่วยหนักน่ะ แค่ข้าวก็แทบไม่มีจะกิน ยังจะต้องมาจ่ายค่าหมออีกเหรอ” นางหลี่โวยลั่น ไม่ได้ห่วงลูกสะใภ้แต่ห่วงเงินที่แอบเก็บไว้
หลินเสี่ยวเหยาลอบกลอกตาและเหยียดยิ้มด้วยความสมเพช
“ต้าซาน ลูกพาเมียลูกไปนอนซะ ก่อนที่เธอจะทำจานแตกอีก” เมื่อเห็นใบหน้าดูซีดเซียวและมีเหงื่อผุดเต็มหน้าผากจึงเข้าใจว่าลูกสะใภ้ป่วยจริง ยอมให้เธอได้พักดีกว่าต้องเสียเงินค่าหมอ
“เฮ้อ! น่ารำคาญจริง ๆ” หลี่ต้าซานบ่น ก่อนจะลากแขนเธอไปนอน
หลินเสี่ยวเหยาหัวเราะในใจ ดี! จะทำตัวเป็นภาระให้เต็มที่ไปเลย
************************
ในตอนวันต่อมา หลินเสี่ยวเหยาตื่นสายกว่าปกติเพื่อตั้งใจให้ดูเหมือนยังไม่หายดี
“อ้าว นี่เธอยังไม่ลุกไปทำอาหารอีกหรือ” นางหลี่ตะโกนใส่ทันทีที่เห็นเธอ
“ฉันยังปวดหัวอยู่เลย แค่เดินก็ยังเซแล้ว” หลินเสี่ยวเหยาจับหัวตัวเอง สีหน้าอ่อนล้า
“โธ่เว้ย! จะป่วยอะไรนักหนา นี่คิดจะอู้ใช่ไหม”
“เปล่านะคะ ฉันก็อยากช่วยอยู่หรอก แต่ร่างกายมันไม่ไหวจริง ๆ” เธอถอนหายใจแล้วหันไปทางสามีที่เพิ่งตื่นแล้วเดินออกมาด้วยสีหน้าที่ดูหงุดหงิด
“สามี วันนี้คุณช่วยไปตักน้ำแทนฉันได้ไหม?”
“ตักน้ำ!” หลี่ต้าซานทำหน้าตกใจ
“ฉันต้องตักน้ำเองหรือ ปกติงานพวกนี้เป็นของเธอไม่ใช่หรือไง”
“แต่ฉันป่วยอยู่นะ หรือจะให้ฉันฝืนไปแล้วเป็นลมตกบ่อตายไป ใครเล่าจะดูแลแม่กับคุณ”
“จริงของเธอ ถ้าเธอตกบ่อตายไป ฉันก็จะซวยเข้าไปใหญ่นะสิ” เขาพยักหน้าเห็นด้วย หลินเสี่ยวเหยาแอบขำ แค่ขู่นิดหน่อยก็กลัวความลำบากแล้ว น่าสมเพชจริง ๆ
“ก็ได้ ฉันจะไปตักเอง วุ่นวายเสียจริง” สามีไม่ได้เรื่องบ่นกระปอดกระแปด ก่อนจะหยิบถังน้ำเดินออกไป
“เดินระวังนะลูก” นางหลี่มองตามลูกชายด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะรีบเข้าครัวไปทำอาหารเช้า ในขณะที่ลูกสะใภ้เดินกลับเข้าห้องไปนอนพักผ่อน
“ทำไม ต้องมาป่วยตอนนี้ด้วย” แม่สามีบ่นตามหลังเสียงดัง หลินเสี่ยวเหยายิ้มมุมปาก เธอจะเป็นตัวภาระให้พวกเขาทนไม่ไหวเอง
หลังจากที่หลี่ต้าซานต้องตักน้ำเองไปไม่กี่วัน ชาวบ้านก็เริ่มสังเกตเห็นและเริ่มซุบซิบกันถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น ภาพของชายหนุ่มที่ไม่เคยหยิบจับงานหนักให้เห็นนั้น ทำให้ทุกคนมองอย่างประหลาดใจ
“ปกติไม่ใช่สะใภ้หลี่ที่ต้องตักน้ำหรือ ทำไมต้าซานทำเองล่ะ”
“ได้ยินว่าภรรยาเขาป่วยนะ น่าสงสารจริง ๆ”
“หรือว่าต้าซานรังแกเมียจนเธอป่วยกันแน่”
“นั่นสิ ฉันได้ยินว่าหลายวันมานี้สะใภ้หลี่ไม่ได้ออกจากบ้านเลย ป้าหยางที่อยู่ข้างบ้านบอกว่าเธอดูซูบลงเยอะเลย ก่อนหน้านี้ก็ทำงานหนักตลอด สกุลหลี่นี่ใช้ลูกสะใภ้อย่างกับทาสเกินไปแล้ว”
เมื่อข่าวเริ่มแพร่กระจาย หลี่ต้าซานก็เริ่มรู้สึกอึดอัด เพราะพอเดินไปทางไหนก็เจอแต่คนมองแปลก ๆ เขาตักน้ำแทนภรรยาที่ล้มป่วยควรถูกมองว่าเป็นสามีที่ดีไม่ใช่หรือ
‘บ้าจริง! ทำไมถึงถูกมองเป็นคนเลวไปได้ล่ะ’
เขากลับบ้านมาด้วยความหงุดหงิดแล้วโวยใส่หลินเสี่ยวเหยาทันที
“นี่เธอไปพูดอะไรกับชาวบ้านกันแน่ ทำไมฉันถึงถูกมองว่าเป็นสามีที่แย่แบบนี้”
“ฉันเปล่านะคะ” หลินเสี่ยวเหยาทำหน้าซื่อ
“ฉันไม่สบาย ก็แค่พักผ่อนอยู่บ้าน ไม่ได้ออกไปไหนเลยด้วยซ้ำ”
“งั้นทำไมพวกเพื่อนบ้านถึงพูดกันแบบนี้”
“พูดอะไรหรือ”
“ก็พูดว่า... บ้านเราใช้งานเธอจนล้มป่วยนะสิ” พูดจบก็นั่งกระแทกก้นลงด้วยความโมโห
“บางที อาจเป็นเพราะแม่ไปบ่นให้เพื่อนบ้านฟังหรือไม่ ว่าฉันล้มป่วยจนสามีต้องลำบาก แม่คงสงสารคุณแล้วบ่นให้ฉัน ชาวบ้านจึงเอาไปพูดต่อ ๆ กันหรือไม่ อย่าลืมสิเวลาที่คุณและแม่ต่อว่าฉัน เสียงดังทะลุกำแพงไปจนถึงบ้านป้าหยาง” เธอยิ้มบาง ๆ แล้วจิบน้ำชาอุ่น ๆ ทำทีเหมือนว่าคอแห้ง
“ให้ตายเถอะ! นี่ฉันต้องทนอยู่กับเรื่องพวกนี้ไปอีกนานแค่ไหน” หลี่ต้าซานยิ่งบันดาลโทสะ แม้ไม่เมาแต่ก็อยากลงมือตบตีสั่งสอนภรรยา หากแต่ทำเช่นนั้นแล้วก็เกรงว่าจะมีคนรู้เห็นแล้วเอาไปพูดในทางไม่ดีมากขึ้น
“เอาเถอะ พรุ่งนี้ฉันก็คงจะดีขึ้นแล้ว ทำงานบ้านอย่างอื่นก็พอไหว ส่วนเรื่องตักน้ำคุณก็ช่วยฉันไปก่อน อย่าไปสนคำพูดชาวบ้านเลย จะทำก็ถูกนินทาว่าทำเพราะใช้งานหนักจนภรรยาล้มป่วย ไม่ทำก็ถูกนินทาว่าปล่อยให้ภรรยาที่ป่วยตักน้ำเอง คุณอย่าคิดมากเลยนะ”
“หลายวันมานี้เธอชักจะพูดมากเกินไปแล้ว อย่าให้ฉันรู้นะว่าเธอวางแผนจะทำอะไร รู้ใช่ไหมว่าเวลาฉันโมโหแล้วจะเกิดอะไรขึ้น” น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
‘เก่งแต่กับผู้หญิง เวลาอยู่กับแม่อย่างกับลูกแหง่ ไอ้เลวเอ๊ย!’
“ฉันไม่กล้า คุณก็รู้” เธอพูดเสียงสั่นแล้วก้มหน้าหลบสายตาที่กำลังมองด้วยความเกลียดชัง
นอกจากจะเป็นคนเจ้าอารมณ์แล้ว เขาก็มีความสามารถเดียวเท่านั้นคือการกดขี่ข่มเหงภรรยาได้เก่งมาก แต่ถึงอย่างนั้นหลี่ต้าซานคนนี้ก็โง่เขลา เขาไม่มีวันตามเธอทันแน่
‘อดทนไว้อีกนิดเถอะ อีกไม่นานนายก็ต้องเป็นฝ่ายขอหย่าเองแน่’ หลินเสี่ยวเหยาลอบยิ้ม
ทุกอย่างค่อย ๆ ดำเนินไปอย่างราบรื่น ตอนนี้แม่สามีก็ทำงานบ้านแทนเธอทุกอย่าง มีแค่เรื่องตักน้ำเท่านั้นที่สามีเป็นคนทำ งานหนักทุกอย่างจึงตกเป็นของจางหมิ่น
การที่แม่สามีเอาเรื่องความเหน็ดเหนื่อยนี้ไปบ่นนอกบ้าน นอกจากจะไม่มีใครสงสารแล้ว ทุกคนยังเห็นใจเธอมากกว่าเดิมอีกด้วย
************************