ขายซาลาเปา
เช้าวันใหม่มาเยือนในวันนี้เสี่ยวหลานและน้องๆ ออกมาจากมิติต่างคนต่างสวมชุดธรรมดา ซึ่งไร้รวดลายแต่ดูงดงามไร้ที่ติโดยเฉพาะนางผู้เป็นพี่สาวสามารถออกเรือนได้แต่ไม่มีผู้ใดสู่ขอ
ถึงอย่างไรไม่มีก็ไม่เป็นไรเพราะนางตั้งใจเอาไว้ว่ารวยก่อนค่อยมีสามียังไม่สายอีกอย่างน้องๆ กำลังโตมีเงินจะให้น้องๆ ไปเรียนในเมืองที่จริงตัวนางสามารถนำผักผลไม้หรืออะไรก็แล้วแต่ในมิติไปประมูลขายเร็วทางลัดได้แต่คนเราต้องดูกำลังตน
แม้นางจะมีวิชาความรู้แต่ใครจะรู้เล่าว่าเหล่าผู้เฒ่ากร้านโลกหลบซ่อนที่ใดลำพังนางเอาตัวรอดได้เพราะเสี่ยวไป๋สามารถช่วยเหลือได้ทุกเวลาแต่น้องๆเล่าพวกเขาจะมีผู้ใดปกป้องดูแล
ถึงจะมีวิชาติดตัวเด็กก็คือเด็กพลังภายในนางมีเพียงเล็กน้อยแต่ถ้าคนอื่นมีมากกว่านางแล้วนางไม่ตายก่อนหรือสู้ดีหาอาชีพสุจริตชาวบ้านสามารถหาอสูรระดับต่ำได้
แต่ส่วนน้อยไม่แปลกเกินไปที่จะมีซึ่งซาลาเปาของนางมีพลังปราณวิญญานน้อยนิดคนธรรมดามองไม่เห็นแต่ผู้ฝึกจิตย่อมมองออกแต่มันไม่มากพอนักแต่เป็นที่ต้องการสูงมากเช่นเดียวกัน
"เสี่ยวหลินเอาซึ้งนี่วางไว้แล้วก็กระดาษที่เราช่วยกันทำขึ้นใส่ตะกร้าเสี่ยวหลางเอากระป๋องนับเงินวางไว้ในช่องนี้ "
"เจ้าค่ะ/ขอรับ" เด็กๆ ช่วยกันจัดอย่างขยันขันแข็งที่จริงยังไม่มีซาลาเปาหรอกรอไว้ใกล้ถึงค่อยเอาออกมาวางจะได้อุ่นร้อนตลอดเวลาเมื่อเสร็จแล้วนางให้น้องๆไปล้างมือและเสี่ยวหลานมัดผมเป็นครึ่งศีรษะปักปิ่นไม้ธรรมดาส่วนเสี่ยวหลินมัดผมทรงซาลาเปาสองข้างโดยใช้ยางมัดผมสวยงามเมื่อเข็นรถเข้าไปในเมืองจำต้องผ่านหมู่บ้านก่อน
"หึ!!! ไม่มีจะกินยังเอาเด็กขอทานมาเลี้ยงอีกรึ"
เป็นเสียงหลินหลินที่ไม่พอใจคู่หมั้นพูดถึงแต่เสี่ยวหลานทำให้นางอิจฉาเพราะรู้สึกว่า เสี่ยวหลานเด็กกำพร้าที่ไม่มีใครต้องการดูดีและสวยงามขึ้นแม้ไม่แต่งเติมและน่าเจ็บใจที่คู่หมั้นไม่สนใจนางเช่นกาลก่อน
"หืม!!!! ถึงข้าจะไม่มีกินแต่มีเงินที่ท่านพ่อเหลือเอาไว้ให้เลี้ยงตัวเองและเด็กๆ ได้สบาย แล้วตัวเจ้าเล่ามีอะไรดีวันวันยุ่งเรื่องชาวบ้านเกาะติดผู้ชายไม่มีปัญญาแม้แต่ซื้อชุดสวยๆ ใส่"
"เจ้า....หึหึแล้วอย่างไรข้าก็มีคนมาสู่ขอแล้วเจ้าเล่าปักปิ่นไปเกือบปีแล้วยังไม่มีใครต้องการอีกไม่ใช่หรือ"
"หืม!!! คู่หมั้นราคาถูกอย่างเจ้ามีคนต้องการก็ดีแล้วและอีกอย่างบุรุษของเจ้ามีอะไรดีถ้าไม่ใช่ท่านตาอี้หนุนหลังจะทำตัวสบายอย่างนี้หรือ ส่วนข้าไม่รีบเชิญเจ้าแต่งก่อนเลยตามสบาย"
"นี่...นี่เจ้ากรี้ดดดด!!!!" "ตุบ" ก้อนหินขนาดพอเหมาะถูกขว้างใส่ปากของหลินหลินโดยฝีมือ เสี่ยวหลางน้อยจอมซนเรียนรู้จากพี่เสี่ยวไป๋ของเขามามากอุดเสียงกรีดร้องชวนหนวกหูได้อย่างดี
"อั๊ก!!แค่กแค่ก กรี้ดดดดเจ้าเด็กเหลือขออย่าอยู่เลย" "ฟุบ" หลินหลินควบคุมสติอารมณ์ตัวเองไม่ได้หวังจะสั่งสอนเสี่ยวหลางแต่ถูกมือแกร่งของเสี่ยวหลานเสียก่อนที่ตอนนี้ยกคางหนึ่งข้าง อีกหนึ่งข้างกดคอไว้หลินหลินที่ดิ้นรนขาดอากาศหายใจขึ้นทุกทีลำตัวเริ่มช้ำร่างกายถูกยกขึ้นจากพื้นนางสบตาสตรีที่ทำร้ายนางด้วยสายตาหวาดกลัวอย่างจะร้องให้คนช่วยแต่ช่วงนี้ใครเล่าจะมาช่วยได้ทัน
"ข้าสามารถหักคอเจ้าได้อย่าคิดได้แตะต้องน้องของข้าและอย่าคิดมาวุ่นวายข้าอีกไม่เช่นนั้น เจอที่ไหนกระทืบที่นั่น" "ปัง" นางโยนหลินหลินที่เยี่ยวเลอะกระโปรงดีที่คนไปหาปลาที่ชายหาดกันหมดไม่เช่นนั้นนางคงอับอายแย่ซึ่งแน่นอนแม้จะกลัวแต่ก็มีความแค้นในใจ
"จำเอาไว้ข้าจะฟ้องพี่อี้หานนางปีศาจพ่อแม่ไม่สั่งสอน" หลินหลินวิ่งไปพร้อมด่าไปด้วยแต่ถูกก้อนหินของเสี่ยวหลางขว้างใส่เสียก่อน "ตุบ! "โอ๊ยยยย" "กรี๊ดดดดด"
"เสี่ยวหลางพอแล้วอย่าได้เอามือนุ่มๆ ที่พี่บำรุงไปเปื้อนเลือดเลย"
"ขอโทษขอรับพี่ใหญ่แต่ข้าไม่ชอบนางนี่แถมสตรีอัปลักษณ์นี่ยังดูถูกท่านด้วยด่าท่านก็เหมือนด่าข้าขอรับ"
"ข้าก็ไม่ชอบเช่นกันเจ้าค่ะพี่ใหญ่"
"อืม พวกเจ้าไม่ชอบพี่เองก็ไม่ชอบเช่นกันไปกันเถอะเดี๋ยวจะสาย" นางลูบหัวน้องๆ และพูดอย่างอ่อนโยน
"เจ้าค่ะ/ขอรับ" สามพี่น้องช่วยกันเข็นรถเข้าไปในเมืองซึ่งมันเริ่มสายแล้วแต่อากาศยังดูเหมือนมืดอยู่เข็ดรถใกล้เข้าเมืองนางนำซาลาเปาเรียงเต็มซึ้งไม้สองชั้นมีไส้หมูห้าสิบลูก ไส้มันม่วงห้าสิบลูกแต่ปัญหาคือไม่มีตำลึงผ่านเมือง
"คารวะเจ้าค่ะท่านรักษาเมือง"
"อาว เจ้าเองหรือแม่นาง"
"ข้าเองเจ้าค่ะ"
"คารวะเจ้าค่ะ/ขอรับ" ซึ่งวันนี้เป็นเวณยามของชายคนเดิมที่อายุประมาณยี่สิบห้าปี
"วันนี้ไปขายอะไรหรือ"
"ซาลาเปาเจ้าคะมีไส้หมู ไส้มัน"
"หืมแล้วไปจองที่ขายหรือยัง"
"ยังเจ้าคะคือข้าพูดตามตรงข้าและน้องซื้อของพวกนี้มาทำไม่มีเงินเอ่อค่าผ่านทางและค่าเช่าที่เลยเจ้าค่ะ"
"อืม!!! เช่นนั้นข้าจะช่วยซื้อซาลาเปาของเจ้า ก่อนขายลูกเท่าไหร่เล่า"
"ข้าทำจากอสูรวิญญาณที่บิดาออกไปล่าผสมกับเนื้อหมูขั้นตอนหลายอย่างอาจขายแพงกว่าเล็กน้อยเจ้าค่ะ"
"บอกมาเถอะเท่าไหร่"
"ไส้หมูลูกละห้าอีแปะ ไส้มันลูกละสามอีแปะเจ้าค่ะ" ที่จริงนางจะขายสองอีแปะแต่ซาลาเปา ปราณวิญญาณลูกใหญ่แป้งนุ่มไส้เยอะย่อมคุ้มค่าเงินอาจจะแพงกว่าซาลาเปาธรรมดาก็ตาม
"อืมเช่นนั้นข้าขอไส้หมูสองลูกไส้มันหนึ่งลูกแล้วกัน" เสี่ยวหลานยกยิ้มใต้ผ้าใช้เปิดฝากลิ่นหอมโชยออกมาและใช้คีบซาลาเปาถุงพาสติกมากกว่ากระดาษที่ทำเอาไว้ในช่องด้านล่าง
"นี่เจ้าค่ะ"
"โห้ หอมและลูกใหญ่มากนี่สิบอีแปะข้าหักค่าเข้าเมืองแล้วสามอีแปะ"
นางรับป้ายมาผู้ใหญ่สองอีแปะเด็กต่ำกว่าสิบสองคนละหนึ่งอีแปะ และนั่นแหละมีคนที่รอแถวและทหารยามอีกสองคนมาซื้อไปฝากลูกเมียทำให้นางหาอีแปะได้ถึงยี่สิบอีแปะแค่ทางเข้า ยังไม่วายพี่ชายเจียงเหอที่ซื้อก่อนหน้าพาไปจองที่ทำกินซึ่งวันละหนึ่งอีแปะนางเช่าห้าวันโดยได้รับสัญญาไว้ถึงจะเป็นที่ท้ายแถวแต่ก็ทำเลยดีเพราะมีคนสัญจรซึ่งมันทางผ่านไปท่าเรือนั่นเอง
