ขายซาลาเปาวิญญาณ
เมื่อได้แผงค้าขายนางและน้องๆ นำรถเข็นเข้าไปจอดและเริ่มจัดเรียงใหม่เก็บของเก่าเข้ามิติยกของใหม่ที่อุ่นร้อนเข้ามาแทนพร้อมด้วยขนมเค้กรถส้มที่ขายเหมือนในเซเว่น แต่นางซื้อในร้านเบเกอรี่มามีรสส้ม สตอเบอรี่ ช็อกโกแลต และนมสด เค้กรสส้ม เอาออกมาเพียงยี่สิบอันให้เสี่ยวหลินน้องสาวไปติดป้ายด้านหน้าราคาบ่งบอกชัดเจน
"เชิญเข้ามาหาชมสินค้าของเราได้เลยขอรับ /เจ้าค่ะ "
"วันนี้เรามีซาลาเปาไส้หมูและไส้มันราคาไม่แพงอย่างที่คิดเพราะทำจากเนื้อวิญญานเจ้าค่ะ"
"ส่วนด้านนี้ เป็นขนมเค้ก ชิ้นละสิบอีแปะอาจจะดูแพงแต่พวกท่านสามารถแวะชิมได้เพราะเราทำตามสินค้าแดนใต้ที่พวกท่านก็รู้ว่ามันหายากเพียงใด..."
สรรพคุณเอ่ยบอกอย่างดังที่จริงนางติดไมค์บลูทูธให้ผู้คนได้ยินอย่างทั่วถึงโดยไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นคงคิดว่าเป็นเสียงแฝงกำลังภายในและแน่นอนเรียกความสนใจอย่างมากโดยเฉพาะผู้ฝึกจิตวิญญาณที่รีบเดินเข้ามา
"แม่นางนี่เป็นเนื้อทำจากหมูวิญญาณจริงหรือ"
"ใช่เจ้าค่ะท่านสามารถชิมก่อนซื้อได้เจ้าคะ" นางใช้ที่คีบคีบซาลาเปาที่มีควันออกมาใช้มีดผ่าจนเห็นไอวิญญาณออกมาจากเนื้อหมูกลิ่นหอมฉุยลูกใหญ่เรียกให้คนเข้ามาซึ่งน้องสาวช่วยกันจัดคนให้ต่อแถว
"อืม!เนื้อวิญญาณจริงๆ ถึงจะเป็นระดับต่ำก็เถอะแต่ไส้เยอะมากของแพงแบบนี้ข้าไม่จำเป็นต้องชิมแม่นางเอาให้ข้าห้าลูกเถอะแล้วก็ขนมนี่ชิ้นหนึ่ง"
"รวมหกสิบอีแปะเจ้าค่ะ"
"นี่"
"ขอบคุณที่อุดหนุนนะเจ้าค่ะ" นางใส่ถุงที่ใครก็รู้ว่ามาจากชาวตาฟ้าหรือคนแดนใต้โดยเก็บกระดาษที่ทำขึ้นไว้ในมิติแล้วจากนั้นผู้คนก็ต่อแถวซื้อเรื่อยๆ ซึ่งตัวนางขายซาลาเปาเพียงอย่างละห้าสิบลูก
ไส้หมูขายลูกละสิบอีแปะและไส้มันขายลูกละห้าอีแปะขึ้นราคาเป็นเท่าตัวและขนมยี่สิบชิ้นเท่านั้น ใช้เวลาครึ่งชั่วยามเป็นอันขายหมด วันนี้ทำเงินได้850อีแปะแล้วซึ่งอีกไม่นานจะได้รับหนึ่งตำลึงสักก้อนแล้ว
"แม่นางหมดแล้วหรือ"
"วันนี้ข้าและน้องทำมาน้อยพรุ่งนี้ข้าจะทำมาเยอะๆ และจะมีขนมอีกหลายอย่างเจ้าค่ะท่านป้า"
"ดีดีพรุ่งนี้ข้าจะรีบมา"
"ขอบคุณเจ้าค่ะ" เสี่ยวหลานยังเก็บป้ายผ่านทางเอาไว้ซึ่งสามวันค่อยคืนเพราะถ้าอยากได้ถาวรต้องจ่ายหนึ่งตำลึงเงินซึ่งมันคงอีกนานกว่าจะได้พรุ่งนี้ค่อยเอามาลงใหม่อีกที
"นี่ส่วนของพวกเจ้าคนละยี่สิบห้าอีแปะ"
"พี่ใหญ่ข้าไม่ขอรับเจ้าค่ะ"
"ข้าเองก็ไม่รับขอรับ"
"หืม!!! ขอเหตุผลได้หรือไม่"
"พวกเราถูกท่านรับเป็นน้องก็ถือว่าเป็นครอบครัว เงินครอบครัวควรเก็บไว้กับท่านถูกแล้วเจ้าคะ"
"แต่พวกเจ้าก็ทำงานไม่ว่าครอบครัวจำต้องได้รับเวลาอยากได้อะไรเราจะได้ซื้อได้เพราะทุกอย่างเจ้าก็รู้เราไม่ได้เสียอะไรอีกอย่างบ้านเราก็ไม่จำเป็นต้องจ้างใครทำ"
"แต่....."
"เฮ้อ!!! เอาล่ะข้าจะเก็บเอาไว้ให้พวกเจ้าเผื่อเรียนหนังสือแล้วกันเดี๋ยวได้เงินมากกว่านี้เราจะหาเช่าร้านเล็กๆ ขายของดีหรือไม่"
"ดีเจ้าค่ะ/ขอรับพี่ใหญ่" ทั้งสองรับคำส่วนนางนำ อีแปะเข้าในมิติเช่นเดิมถึงเงินจะน้อยแต่นางก็สุขใจที่ได้ทำและได้เก็บรอมีเงินมากกว่านี้นางจะซื้อที่ดินรอบๆ ที่ดินเดิมของตนคงต้องจ้างช่างส่วนหนึ่งมาสร้างเรือนหลังเล็กๆ และกำแพงสูงๆ เพราะจะผิดสังเกตไม่ได้ เมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้วนางก็พาน้องๆ กลับหมู่บ้านไปเจอพี่ชายเจียงเหอเช่นเคย
"พวกเจ้ากลับแล้วหรือ"
"เจ้าค่ะพี่ชายเจียง"
"พรุ่งนี้ขายซาลาเปาอีกหรือไม่"
"ย่อมขายอีกเจ้าค่ะเนื้อที่ท่านพ่อข้าล่ามายังอยู่อีกมาก"
"อืมเช่นนั้น เก็บไว้ให้ข้าสิบลูกนะแล้วก็ขนมอีกสองชิ้นข้าจะไปฝากลูกสาวเสียหน่อย"
"ได้เจ้าค่ะพี่ชายเจียง" นางขายให้เหล่าทหารราคาถูกกว่าตลาดในเมืองนั่นแหละมหากาฬสามทหารต่างโสดและไม่โสดสั่งคนละห้าลูกบ้างสิบลูกบ้าง
จนนางยกยิ้มชอบใจและขอตัวกลับหมู่บ้านโดยใกล้ถึงหมู่บ้านเช่นเคยเอาเนื้อหมู แป้ง ผ้า ออกมาวางใส่ตะกร้าหวายให้ชาวบ้านได้เห็นและรับรู้แม้รู้ว่าจะเจออันตรายเพียงใดแล้วอย่างไรเพราะมิติแจ้งเตือนซึ่งมิติเปรียบดั่งวงจรปิดที่นางสั่งได้ซึ่งควบคุมพื้นที่บ้านและบริเวณใกล้เคียงเล็กน้อยไม่ต้องกลัวว่าจะเจออันตรายเพราะนางและน้องหาใช่คนธรรมดาไม่ในตอนนี้
"น้องเสี่ยวหลานไปไหนมาหรือ" เสี่ยวหลานมองอี้หานที่อยู่ดีดีโผล่มาเหมือนดักรอตรงศาลาทางเข้าหมู่บ้านพร้อมสหายนักเลงมีญาติในหมู่บ้านอีกสองคน
"ข้าเป็นพี่สาวคนโตไม่มีพี่ชายเจ้าควรรู้เอาไว้เสียอีกอย่างข้าไปไหนเหตุใดต้องบอกเจ้าด้วย"
"เสี่ยวหลานเจ้าอย่าได้เห็นพี่เป็นคนอื่นเลย"
มือของชายหนุ่มเตรียมจะยื่นมาจับนางแต่ถูกขาเรียวยกชายกระโปรงขึ้นถีบอย่างแรงจนกระเด็นไปถูกเสาศาลาจุนหน้าขมำ "ตุบ"
"อึก!!! โอ๊ยยยยเจ้าชอบความรุนแรงไม่บอกไปพวกเราจับนังนี่มาทำเมียกันเถอะปราบพยศเสียให้เข็ด" อี้หานเผยธาตุแท้บอกสหายนักเลงซึ่งเสี่ยวหลานและน้องๆ เตรียมพร้อมอยู่แล้วแถมเก็บกดจากอาจารย์กระต่ายที่ซ้อมพวกเราต่อไปนี้สามพี่น้องเสี่ยวย่อมมีคู่ซ้อมบ้างไม่ใช่ให้แต่กระต่ายซ้อม
"เสี่ยวหลิน เสี่ยวหลางเจ้าตีได้ไม่ต้องออมมือ"
"เจ้าค่ะ/ขอรับ พี่ใหญ่" "ผั๊วะ ตุบ ปัง"
"โอ้ยยยยย หูข้าเด็กปีศาจข้าจะฆ่าเจ้า"
"อ๊ากกกกกกกก เจ้ามันปีศาจฮือฮือ" "เพี้ยยยย"
"หุบปากสุนัขของเจ้าเสียอี้หานพวกเจ้าด้วยไม่เช่นนั้นข้าจะทำลายกล่องดวงใจพวกเจ้าเสีย" จางเสี่ยวหลานจับทั้งสามมัดไว้ตรงศาลาโดยให้น้องๆ หันหลังห้ามมองนางถอดเสื้อผ้าพวกเขาและใช้ไม้เรียวตีก้นทั้งสาม "เพี้ยยยยย" "เพี้ยยยย"
"เป็นเด็กเป็นเล็กคิดจะฉุดคนแล้วหรืออย่างนี้ต้องถูกอาจารย์ลงโทษ"
"เพี้ยยยยยย" "เพี้ยยย"
"พวกเจ้า!!!! เรียนหนังสือซะเปล่าไร้คุณธรรมเสียจริง"
"เพี้ยยยยย"
"ขยะเช่นพวกเจ้าอย่าคิดมีครั้งหน้าอีกไม่เช่นนั้นสิ่งสืบพันธุ์ของพวกเจ้าถูกข้าตัดทิ้งแน่" นางวิ่งไปเอามีดในรถเข็นแล้วปาถูกเสาทำให้สามหนุ่มน้อยที่ถูกผ้าอุดปากสั่นกลัวจนสลบไปพร้อมเยี่ยวราดลงหว่างขา
"ปัง" เมื่อเห็นว่าทั้งสามสลบไปแล้วนางดึงมีดเก็บเข้ามิติและพาน้องๆ เข้าไปในหมู่บ้านดีที่ศาลานี้เป็นทางผ่านของหมู่บ้านอื่นห่างจากหมู่บ้านพอสมควรอีกอย่างชาวบ้านย่อมขึ้นเขาหรือไม่ก็ไปทะเลเพือหาสิ่งดำรงค์ชีวิตจากนั้นสามพี่น้องพากันกลับบ้านใช้เวลาสมควร
"พี่ใหญ่เราทำแบบนี้จะเป็นไรหรือไม่เจ้าคะ"
"พวกเขาไม่กล้าหรอกถึงกล้าแล้วเช่นไรเราเป็นสตรีและเด็กจะสู้ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ได้อย่างไรจริงไหม ฮ่าฮ่า"
นางเข็นรถเข็นพร้อมหัวเราะไปตามทางทำให้สองพี่น้องเสี่ยวหลินเสี่ยวหลางภาคภูมิใจมีพี่สาวเก่งกาจ
ซึ่งสามพี่น้องไม่รู้เลยว่าจะมีชายเสนอตัวให้ ซึ่งเสี่ยวหลานคงลืมไปว่าการกระทำในครั้งนี้คนโบราณเขาไม่ทำกันมีอย่างที่ไหนสตรีเปลืองผ้าบุรุษ ขนาดบุรุษเห็นร่างกายสตรีเล็กน้อยจำต้องรับผิดชอบแต่งงานแต่นางเห็นทุกส่วนของบุรุษทั้งหมด แล้วนางจะทำเช่นไรนี่แหละหนาเป็นพี่สาวคนโตเลยไม่คิดมากเพราะน้องชายน้องสาวก็มีมาซึ่งอายุน้อยกว่านางหลายปีย่อมอาบน้ำเช็ดตัวให้เวลาพวกเขาไม่สบาย
