กระต่ายตัวไม่น้อยเลย
เดินลงเขาใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วยาม (2ชั่วโมง) จนถึงทางออกเธอเหลือบเห็นชาวบ้านที่มองด้วยความตกใจแต่บางคนไม่สนใจบางคนมีสายตาดูถูก เพราะเธอมาแต่ตัวไม่มีใครอยากเสวนาด้วย เพราะขึ้นชื่ออัปลักษณ์ ตัวซวย ยังไม่ทันสวยชื่อเสียงโด่งดังซะแล้ว แถมกลิ่นตัว เน่าพอๆ กับชุดที่กระอักเลือดสีดำออกมาพร้อมเลือดสดย่อมน่ากลัวอยู่แล้ว แม้แต่หน้าตาเธอ ตอนนี้คงเต็มแต่คราบดำนั่นแหละ
จากความทรงจำบ้านหลังนี้ติดเชิงเขาหรือป่านี้ไกลจากชาวบ้านถึงสิบกิโลแต่อยู่หมู่บ้านเดียวกัน ส่วนบ้าน ปู่ อยู่อีกหมู่บ้านหนึ่งข้ามไปอีกฟากเพราะพ่อนำเธอมาอยู่บ้านย่าเพราะปู่ไม่ยอมรับเธอ
จนพ่อต้องตัดขาดจากครอบครัวเลือกเธอ เลยใช้แซ่จางของย่าที่ตายไปไม่ใช่แซ่หนิงของปู่ ส่วนครอบครัวแม่ ไม่เหลือใครแล้ว ตายายตายหมดหลัง แม่แต่งงานไม่นาน และที่ดินของแม่อีกหมู่บ้านนึงขายไปหมดแล้วและนั่นเป็นทรัพย์สินที่แม่แอบเก็บไว้
ซึ่งพ่อก็เก็บรักษาอย่างดีให้เป็นสินเดิมในอนาคตของร่างนี้ ซึ่งมันมีเพียงสิบตำลึงเงิน ที่จริงมีหนึ่งตำลึงทอง แต่พ่อขอเอาไปใช้ก่อน เพราะตัดขาดบ้านเดิมไม่มีเงินติดตัว ดีที่พ่อไม่ใช่ลูกชายคนเดียว ยังมีลูกคนละแม่อีกหลายคน ย่าเป็น ภรรยาคนแรกก็จริง แต่ปู่ไม่รักนักเรียกง่ายๆ พ่อเป็นลูกชังมากกว่าลูกรักแบบพี่น้องคนอื่น
เลยตัดกันได้เร็วแถมย่าจนไม่เหมือนภรรยารองที่มาจากในเมืองครอบครัวค้าขายรวยอย่างมาก ทำให้ครอบครัวร่างนี้อยู่ลำบากกว่าที่ควรเป็น
"โห้!!!!" ขวัญจิราพึมพำตัวเองหลังจากอาบน้ำ แต่งตัวด้วยชุดนอนยุคปัจจุบัน มองดูตัวเองตรงโต๊ะเครื่องแป้งต้องอุทานออกมา เธอขาวขึ้นใสขึ้นมาก แม้จะผอมเหมือนเดิม แต่รอยบนหน้าจางลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้เธอนึกถึงมิติรีบเข้าไปทันที 'วูบบบ'
"อะไรกันวะเนี่ย!" ขวัญจิราอุทานออกมาเมื่อเห็นสิ่งตรงหน้าด้วยความตกใจ
"คารวะนายหญิงขอรับ" ขวัญจิราตกใจเมื่อเห็นกระต่ายยืนสองขาตัวเท่าเอวดวงตาสีชมพูใส ขนปุกปุยพูดได้เหมือนมนุษย์อีกด้วย
"กระต่ายพูดได้!" เมื่อได้สติขวัญจิราปิดปากอุทานออกมาในตอนนี้เธอสับสนว่าจะตกใจ ตื่นเต้น ดีใจดี
"ขอรับ มิติฟาร์มสวรรค์ย่อมเป็นสิ่งมหัศจรรย์ และข้าเป็นสัตว์พันธะมิติแห่งนี้ย่อมให้การช่วยเหลือท่านขอรับ"
"อะอืม...ฝากตัวด้วยนะฉันไม่สิข้า จางเสี่ยวหลาน"
"ข้ารู้ขอรับ ความทรงจำร่างนี้ ข้าเองก็ได้รับท่านหยดเลือดทำพันธะเถอะขอรับจะได้ครอบครองอย่างสมบูรณ์"
"อืม" เธอมองหาอะไรมาแทงเตรียมคิดถึงเข็ม แต่แล้วกระต่ายที่มีอุ้งมือเหมือนมนุษย์ มีขนปุกปุยยื่นขนตัวเองให้ เมื่อเธอลองจับมันแน่นอนมันเย็น และแข็งเหมือนเข็ม เธอไม่รอช้าแทงมันทันที และทำตามที่กระต่ายบอกโดยการแตะที่หน้าผากของมันทันที 'วูบบบบบบ'
'พรึ่บ' "นายหญิงโปรดตั้งชื่อขอรับ" ขวัญจิราจ้องมองกระต่ายคุกเข่าหนึ่งข้างตรงหน้าเธอ ถ้าไม่คิดว่าเป็นกระต่ายเธอคงคิดว่ามันเป็นมนุษย์แต่งตัวมาสคอตเสียแล้ว
"อืม... เจ้ามีตัวสีขาว ข้าเสี่ยวหลานเจ้าเสี่ยวไป๋แล้วกัน"
"ขอบคุณขอรับนายหญิง"
"อืม..ลุกขึ้นเถอะต่อไปหน้าที่เจ้าอยากทำอะไรก็ทำ อยากกิน อยากใช้อะไรก็ได้ในมิติข้าอนุญาตหรืออยากเข้าออกได้ตามใจปรารถนาของเจ้า"
"ขอบคุณขอรับนายหญิง" กระต่ายร่างเท่าเอาลุกขึ้นยืนสงบเสงี่ยมเหมือนมนุษย์ที่มีสมอง และถูกฝึกเรื่องมารยาท
"อืม...แล้วเจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้ากินแอปเปิ้ลแล้วถึงขับพิษออกมาได้"
"ทุกอย่างมีที่มาขอรับ มิติฟาร์มสวรรค์ย่อมมีพลังปราณวิญญาณ ช่วยให้แข็งแรง ขับพิษ และฟื้นฟูร่างกาย พิษธรรมดาจะขับออกมาจนหมด แต่พิษที่หายากคงต้องใช้เวลาท่านมาตรงนี้ขอรับ" เธอเดินตามกระต่ายมาหยุดตรงบ่อน้ำพุข้างกระท่อมหลังใหญ่
"นี่เรียกว่าน้ำทิพย์สวรรค์ ที่เจือจางแล้วสรรพคุณเหมือนกัน แต่ดีกว่าหนึ่งเท่า และท่านสามารถกินหรือรดน้ำผักให้มันเจริญงอกงาม ผลสวย กันแมลง และสภาพอากาศ จะเจริญเติบโตเร็วกว่าเวลาปกติสองหรือสามเท่า ทุกอย่างจะมีพลังปราณวิญญาณเจือจาง แต่ไม่มากเท่าปลูกในมิติแห่งนี้ขอรับ และทุกอย่างในที่นี้ท่านทราบดีอยู่แล้วว่า เก็บของสดได้ และมันจะหวนคืนทุกครึ่งชั่วยามทุกครั้งเมื่อท่านนำออกไปขอรับ" ปากกระต่ายขยับไปพร้อมหนวด และหูยาวที่ดูน่าเอ็นดูอย่างมาก
"เดี๋ยวก่อนนะเสี่ยวไป๋ของทุกอย่างในนี้รวมของที่ข้าซื้อมาด้วยหรือเปล่า"
"ขอรับ"
'เทพเล่นตูแล้วไหมล่ะ' เธอคิดแค้นในใจเงินหมดหลายล้านเลยนะนั่น
"แล้วของที่นำมาพวกเนื้อนี้มีพลังอย่างที่เจ้าว่าหรือไม่"
"ขอรับแต่เล็กน้อย แต่เฉพาะของที่ท่านนำมาเท่านั้นนะขอรับ ส่วนของที่ท่านคิดจะเก็บในโลกนี้จะตามสภาพ สามารถเก็บของสดได้ แต่ไม่ได้เพิ่มสิ่งที่มีเหมือนในมิติ ห้องไร้บรรจบคัดแยกสิ่งของได้ไม่จำกัดขอรับ"
"อ๋อฉันเข้าใจแล้วเจ้าพาข้าไปชมรอบๆ หน่อย"
เธอเอาจักรยานออกมาของผู้ใหญ่เธอขี่ ของเด็กสิบขวบเสี่ยวไป๋ขี่ ดีที่มันฉลาดเหมือนมนุษย์ดูเป็นผู้ใหญ่อย่างมากมันยังบอกอีกว่าตัวมันได้รับความรู้และพลังมาแถมมีวิชากังฟูไว้มันจะสอนแถมขนมันเป็นเข็มทุกเส้นแต่ต้องถอนออกมานะถ้าปกติ ก็เป็นกระต่ายนุ่มๆนั่นแหละ ปั่นมา จนถึงบ่อน้ำสองบ่อ บ่อแรกสีฟ้าประกายทอง อีกบ่อสีฟ้าอ่อน
"สีฟ้าเข้มประกายทองเป็น บ่อน้ำดาราสวรรค์สัตว์น้ำเค็ม ขอรับ ส่วนอีกบ่อเป็นสัตว์น้ำจืดขอรับ พวกมันเป็นอสูรระดับต่ำรูปร่างไม่ต่างจากโลกของท่านมากนัก"
"ส่วนนั่นเป็นสัตว์ ที่เอาไว้กินเนื้อเป็นอสูรระดับต่ำเช่นกัน"
"แล้วทำไมมันถึงเดินเข้าไปในนั้นล่ะ"
เธอเห็นหมูที่ใหญ่กว่าเดิมสามเท่าเดินเข้าไปเรือนสีขาว ตามด้วยเป็ด ไก่ ห่านตัวเท่านกกระจอกเทศ และวัวควาย แพะ แกะ ตามไปด้วย เหมือนมันวนเวียนเดิมๆ แบบซ้ำๆ
"โรงเชือดขอรับเราไม่ต้องฆ่า เข้าไปในนั้น มันฆ่าตัวเองและ ที่นี่จะแยกชิ้นส่วนให้อย่างชัดเจน เมื่อท่านอยากกินก็ไป ด้านนั้น เพียงกดเมนูก็พอขอรับ"
"อืม" เธอปั่นไปจนถึงทุ่งนา เห็นปูนาตัวใหญ่กว่าเดิมที่เคยเห็น มี หอยตัวใหญ่มาก
"นั่นคงเป็นปูนา หอยขมจากโลกเดิมของข้าซินะ"
"ขอรับที่นี่จะอ้างอิงบางอย่างเช่นโลกของท่านแต่ จะเป็นปราณวิญญาณทั้งหมด ส่วนต้นข้าวท่านสามารถเก็บเกี่ยวได้เพียงแค่พูดว่าเก็บมันจะไปเก็บให้มี่มิติไร้บรรจบขอรับ" ปูนาตัวเท่าปูม้าตัวใหญ่ หอยขมเท่าหอยเชอรี่
"อืม ถ้ารู้ว่าที่นี่ทำได้ขนาดนี้ข้าคงไม่เปลืองเงินซื้อมาหรอก"
"........" กระต่ายเลิ่กลั่กพูดไม่ออกเสี่ยวไป๋ปั่นไปเรื่อยๆ ตามเจ้านายสาวจนมาหยุดอยู่ที่บ้านหลังใหญ่
"ห้องนอนจะมีสองห้องของข้าและของท่าน ส่วนห้องนี้ห้องตำรา อีกห้องเป็นห้องหลอมโอสถ ในนั้นจะมีสมุนไพรระดับสูงไม่ได้ระดับต่ำเหมือนด้านนอก อีกห้องเป็นมิติไร้บรรจบ ตรงนั้นเป็นห้องครัว ตรงนั้นเป็นห้องโถงรับแขกนั่งเล่น ข้าได้เอาของบางส่วนตกแต่งแล้วหวังว่าท่านจะชอบ"
"อืม...ขอบใจนะเสี่ยวไป๋เจ้าไปพักผ่อนเถอะข้าขอดูรอบๆ ก่อน" เธอเดินเข้ามาในบ้านที่กว้างใหญ่แยกห้อง แยกส่วนชัดเจน เสี่ยวไป๋เอาโซฟาสมัยใหม่มาตั้งแล้วมีตู้โชว์โดยมีทีวีจอใหญ่สี่สิบสองนิ้วตั้งอยู่เธอลองเปิดดู ดันเป็นข่าวยุคปัจจุบันของเธอซะงั้น
"เสี่ยวไป๋ เสี่ยวไป๋!!"
"ขอรับ" เสี่ยวไปรีบกระโดดมาหาด้วยความตกใจ เมื่อได้ยินเสียงเธอร้อง
"ทำไมถึง..." ขวัญจิราปิดปากน้ำตาคลอ
"มิติฟาร์มสวรรค์สิ่งที่เป็นไปไม่ได้ย่อมเป็นไปได้ไม่เห็นแปลก ขอรับทุกอย่างหมุนเวียนเหมือนโลกที่ท่านจากมา เวลา สถานที่ หรือแม้แต่ ผู้คน "
"อย่างนั้น ข้อมูลของข้าเอ่อ"
"โลกนั้นผ่านไปสามปีแล้ว ตัวตนของท่าน มิติได้ลบออกไปจากความทรงจำทุกคนแล้วขอรับ"
"ลบไปหมดเลยหรือ"
"ขอรับ"
"เฮ้อ!!! ดีแล้วล่ะ ครอบครัวข้าจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจข้าไม่รบกวนเจ้าแล้วไปพักผ่อนเถอะ"
"นายหญิงอย่าคิดมากเลยขอรับถือเสียว่า ทุกอย่างคือชะตากรรม"
"อืม" แต่พอนึกถึงครอบครัว แม้ทุกคนจำเธอไม่ได้แต่ยังมีข้อมูลอยู่ ไม่ใช่ว่าตัวเธอสามารถเป็นหุ้นส่วนช่วยเหลือน้องๆ ได้หรอกหรือเสี่ยวไป๋เหมือนรู้ความคิดและไม่ได้ไปไหน
"นายหญิง เราดูอยู่ห่างๆ ย่อมได้ขอรับ แต่ข้าขอเตือนไม่อยากให้ท่านเข้าไป กำหนดชะตาชีวิตของใครขอรับ"
"อืมไม่ได้สินะเอาล่ะข้าขอดูห่างๆ ก็พอ แล้วกัน"
เธอทำใจยอมรับมันได้จากนั้นเข้าไปหาข้อมูลเครือ โรจน์อนันต์ด้วยตาเป็นประกายน้องชายคนโตทำได้ไม่เลว โรงงานผลิตขยายไปถึงอังกฤษ บ้านแฟนของเขาที่รู้ว่าเป็นทายาทหมื่นล้าน ทำธุรกิจหลายอย่างลูกคุณหนูเลยล่ะ เมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรที่ต้องห่วงแล้ว ซึ่งตัวตนเธอหายไปกว่าจะสร้างตัวตนใหม่ยากอยู่เหมือนกัน แต่อย่างน้อยคนรู้จักยังมี
"หืมน้องสาวเรียนบริหารแต่ไปเป็นดาราสุดยอด ดีๆ น้องชายยังช่วยพี่ชายของเขาดูแลสาขาที่ไทยอยู่ โอ้พ่อแม่ อุ้มลูกใครกัน ห๊ะ เจ้าใหญ่มีลูกแล้วหรือนี่...."
เธอเข้าดูอินสตาแกรมของน้องชายและกดติดตามโดยเธอยังไม่ใส่รูปหรืออะไ ร อยากจะบอกน้องๆ เหลือเกินตอนนี้เธอสวยมาก มีดั้งแล้วนะ แล้วอยากจะบอกพ่อแม่ว่าตอนนี้เธอสุขสบายดีแม้จะกำพร้าไม่มีใครต้องการก็เถอะอย่างน้อยมีกระต่ายเป็นเพื่อนเสี่ยวไป๋แอบดูเจ้านายสาวด้วยความเอ็นดู
