บท
ตั้งค่า

บทที่17 อดีตบ้านเหอ

หลังจากที่เก็บกวาดห้องให้สะอาดแล้วเหอเสี่ยวหงก็พาสะใภ้ใหญ่ขนส่วนผสม เข้าไปเก็บในห้องทำสบู่เลย เพราะห้องเย็บผ้าแน่นมากแล้ว

“ไม่น่าเชื่อว่าจะผ่านมาหลายปีแล้ว” เหอเสี่ยวหงเอ่ยแผ่วเบา

“ใช่” สะใภ้ใหญ่ตอบ

ตรงหน้าพวกเธอคือต้นไม้ลานหน้าบ้านที่มีโต๊ะอยู่ แต่ก่อนเวลาเลิกงานทุกคนจะนั่งพักตรงนี้ จากนั้นผู้หญิงในบ้านกับพวกเธอสองคนจะเข้าครัว ส่วนผู้ชายก็จะอาบน้ำ

คนบ้านเหอที่จริงแล้วไม่ใช่คนของที่นี่ คุณปู่เคยเล่าให้ฟังว่าคุณปู่พาคุณลุงกับคุณพ่อของเธอ

เดินทางออกจากบ้านเกิด เพราะที่นั่นยากจนมาก ปลูกอะไรก็ไม่ได้ กินรากไม้กินหญ้าประทังชีวิต จนที่นั่นเหลือเพียงดินเปล่า หากมีคนตายก็จะถูกแล่เนื้อมาย่างกิน ตอนนั้นคุณย่าป่วยและอาการไม่ค่อยดีนักหลังจากคลอดคุณพ่อ

และคนที่รอให้คุณย่าตายเพื่อที่จะได้กินเนื้อก็จ้องมองอยู่ตลอดเวลา จึงพากันหนีออกมา ที่นั่นมันเป็นเมืองที่คนไม่สามารถอยู่ได้เลยด้วยซ้ำเพราะหากมีการคลอดลูกแล้วไม่ดูแลให้ดี วันดีคืนดีก็อาจถูกฉกไปย่างกินได้

หลังออกมาจากเมืองนั่นแล้วคุณปู่ก็พาคุณย่ากับคุณลุง คุณพ่อเดินเท้ามาที่มณฑลนี้ โชคดีนักที่ตอนนั้นบ้านเหอได้ช่วยชีวิตคนหนึ่งไว้ และเขาก็ให้เงินมาก้อนหนึ่งมันไม่ได้เยอะมากแต่ก็สามารถอยู่ได้อีกหลายปี พอเดินเร่ร่อนมาถึงหมู่บ้านนี้ มีบ้านร้างหลังหนึ่งตั้งอยู่ หัวหน้าหน่วยผลิตสงสารจึงให้อยู่ที่นี่ได้

หลังจากนั้นบ้านเหอก็ทำงานเก็บเงินส่ง ลุงใหญ่กับคุณพ่อไปเรียนหนังสือ พอจบก็ถูกเรียกไปประจำการทหาร ช่วงนั้นอาสามกับอาสี่เพิ่งห้าหกขวบ แล้วก็เจอกับแม่ของพวกเธอที่ทำงานอยู่ในค่ายทหารจึงคลอดพวกเธอออกมา พวกเธอห่างจากอาสามกับอาสี่ไม่ถึงเจ็ดปีด้วยซ้ำ

พอป้าสะใภ้เธอคลอดเหอหรงหรงหรือก็คือสะใภ้ใหญ่ ก็ลาออกจากงานมาอยู่บ้านสามี ไม่ถึงปีแม่ของเธอก็ลาออกมาอยู่ที่นี่

เพราะในบ้านมีลูกชายคนโตกับคนรองที่แต่งงาน และก็ด้วยความเป็นทหารจึงมีเพียงพวกเธอเท่านั้นที่เป็นลูกหลานบ้านนี้ อาสามกับอาสี่นับว่าอายุมากกว่าพวกเธอไม่ถึงสิบปีจึงเล่นเป็นเพื่อนพวกเธอได้

คุณย่ากลัวจะเป็นเหมือนบ้านเดิมจึงไม่กล้าให้หลานสาวออกไปไหนมากนัก ส่วนมากเวลาที่พวกเธอไปเรียนหนังสือคุณพ่อก็จะไปส่ง เวลาจะกลับมาบ้านก็ไปรับมา

“ไม่รู้ว่าอาสามกับอาสี่จะเป็นยังไง” เหอเสี่ยวหงน้ำตาคลอ

ตั้งแต่ที่แต่งงานเข้าบ้านโจวเธอก็ไม่ได้กลับมาบ้านเท่าไร ยิ่งหลังเกิดเรื่องอาสามกับอาสี่ก็มาหาแต่ไม่ได้พูดอะไร จากไปทันที จนกระทั่งเธอได้ไปยังอนาคตและกลับมาก็ยังไม่ได้ข่าวคุณอาเลย

จะบอกว่าเธอผูกพันธ์กับอามากกว่าพ่อก็ว่าได้ เพราะอาเป็นทั้งเพื่อนเล่น ทั้งพี่น้อง ตามใจทุกอย่างจนติด หลังจากแต่งงานก็ไม่ได้มาหา

“จะเป็นอย่างไร ก็คงสบายดีแหละ” สะใหญ่ว่า

ในอนาคตนั้นคนที่เหอเสี่ยวหงผูกพันธ์มีแค่คุณย่ากับหยาดฟ้า ในยุค 60 นี้ บ้านเหอคือทั้งชีวิต สะใภ้ใหญ่ยังเข้มแข็งมากกว่าเหอเสี่ยวหงเลย หล่อนนึกถึงแต่ไม่ได้ร้อง

“ไปเถอะ ถ้าทุกคนเห็นคงจะไม่สบายใจ” สะใภ้ใหญ่บอก

“อื้อ” เหอเสี่ยวหงเช็ดน้ำตาก่อนจะเดินกลับห้อง

เธอภาวนาให้อาทั้งสองยังมีชีวิตอยู่ เพราะตอนนี้บ้านเหอมีเพียงพวกเธอสองคนเท่านั้น เธอยังอยากให้บ้านเหอมีชื่อในหมู่บ้านโจวต่อไป

“หนึ่ง สอง สาม... หนึ่ง สอง สาม... หนึ่ง สอง สาม...” เหอเสี่ยวหงนับไหมพรม

ตอนนี้หมวกไหมพรม ถุงมือไหมพรม ถุงเท้าไหมพรมของบ้านเธอเธอได้ทำครบแล้ว เธอทำอย่างละสามชุดต่อคนเพราะมันจะได้สับเปลี่ยนใช้ได้ ตอนนี้ยังไม่หนาวหนัก เหอเสี่ยวหงจึงยังไม่ได้เอาให้ใช้

ส่วนของสามีของเธอ เธอได้เพิ่มขนาดเป็นสองเกือบสามเท่าของเธอ เพราะเธอไม่รู้ขนาดของสามีแน่ชัด

เหอเสี่ยวหงถือตะกร้าไหมพรมออกมาจากห้องเพราะจะเข้าไปทำในห้องเย็บผ้าแทน แต่พอออกมานอกห้องก็เห็นลูกสาวคนโตถือขวดกับแก้วเก็บอุณหภูมิออกมา

“เอ้อร์นี” เหอเสี่ยวหงเรียกลูกสาวคนโต

“คะ? แม่” โจวเอ้อร์นีตอบ

“จะเอาอะไรจ๊ะ?” เหอเสี่ยวหงถาม

“จะเอาน้ำร้อนน่ะค่ะ” โจวเอ้อร์นีรีบบอก

“แม่ลืมเลย หนูเข้าไปอยู่กับน้องเถอะ แม่จะเอาไปให้เอง” เหอเสี่ยวหงบอก

“ได้ค่ะ” โจวเอ้อร์นีว่าก่อนจะเดินกลับห้อง

เหอเสี่ยวหงเดินเอาไหมพรมไปวางไว้ในห้องเย็บผ้าแล้วเดินกลับเข้าห้องนอนเพื่อไปเอากระติกน้ำร้อนออกมา เธอต้มน้ำร้อนใส่กระติกน้ำร้อนเพราะที่นี่ยังไม่มีไฟฟ้า ไม่สามารถใช้ต้มเองได้เลย กดน้ำใส่ขวดเก็บอุณหภูมิสองขวด

น้ำในกระติกน้ำร้อนมันไม่ร้อนและเย็นเพราะเหอเสี่ยวหงต้มไว้ก่อนจะทำกับข้าว หลังจากเอาน้ำใส่ขวดเก็บอุณหภูมิเสร็จ เหอเสี่ยวหงก็เอาน้ำที่เหลือในกระติกน้ำร้อนใส่แก้วเก็บอุณหภูมิเหลือไว้ให้เธอดื่มเอง

“เด็ก ๆ แม่เอาน้ำมาให้แล้วจ้ะ” เหอเสี่ยวหงเปิดประตูเอาน้ำร้อนเข้าไปให้

เด็ก ๆ อยู่ด้วยกันเพราะพวกหล่อนมาอ่านหนังสือทบทวนกันอยู่ โดยที่มีโจวเอ้อร์นีพาอ่านและเขียนใส่สมุด วันนี้ปกติทุกคนจะอ่านหนังสือทบทวนกันเสียงดัง แต่เพราะเกิดเรื่องขึ้น เด็ก ๆ จึงเงียบกันมาก จนกระทั่งโจวเอ้อร์นีเดินออกไปหานั่นแหละ

“เดี๋ยวแม่จะผสมขิงไว้ขวดหนึ่งนะจ๊ะ ให้กินผสมกันมันจะทำให้เลือดเราไหลเวียนดี” เหอเสี่ยวหงบอก

เด็ก ๆ พยักหน้า

เหอเสี่ยวหงหยิบกระปุกผงขิงที่ถูกคั่วและบดละเอียดที่ตั้งไว้ในห้องขึ้นมาผสมน้ำอุ่นขวดหนึ่งเล็กน้อยจากนั้นก็เขย่าขวด แม้จะใส่ผงขิงเล็กน้อยแต่มันก็ยังดีกว่าไม่ใส่เลยเพราะเด็กๆยังเด็กอยู่ในความคิดของเธอ ถ้าจะใส่น้ำตาลกรวดมันก็คงจะไม่ดีเท่าไรหากเทียบกับขิงเปล่า ๆ

“ขิงมีฤทธิ์ร้อน มันเหมาะกับอากาศเย็นๆ หากเป็นไปได้แม่ก็อยากให้จิบน้ำผสมขิง” เหอเสี่ยวหงอธิบาย

“ฤทธิ์ร้อนคืออะไรคะ?” โจวซือนีเอียงคอถาม ด้วยความสงสัย

“มันจะทำให้อุณหภูมิในร่างกายของเราสูงขึ้นจ้ะ มันช่วยเผาผลาญพลังงาน ทำให้เหงื่อออก ร่างกายเราก็จะอุ่นขึ้น แต่ดื่มมากก็ไม่ดี” เหอเสี่ยวหงตอบ จากนั้นก็เอ่ยต่อ

“หรือจะออกกำลังกายก็ได้แต่มันจะเหนื่อย” เหอเสี่ยวหงยิ้ม

“เข้าใจแล้วค่ะ” ถึงแม้หล่อนไม่เข้าใจแต่ก็รู้ว่าไม่ควรถามอะไรมากจึงพยักหน้าตอบว่าเข้าใจ

“จ้ะ แม่จะไปต้มน้ำไว้อีกก่อน” เหอเสี่ยวหงตอบหลานสาวคนโตก่อนจะหันไปบอกลูกสาว

เหอเสี่ยวหงไม่ได้จุดเตาไฟเพราะมันยังมีไฟอยู่ ทำเพียงแค่เติมฟืนใส่ไฟก็ลุกแล้ว นำหม้อมาตั้งเตา

หยิบนมสดในมิติเทลงในหม้อเกือบครึ่งหม้อเพราะกลัวจะใส่กระติกน้ำร้อนไม่หมดจึงไม่ได้ต้มเยอะ ใส่นมผงผสมลงไปหลายช้อน เติมผงไมโลแล้วคนให้ละลายเพื่อไม่ให้หม้อไหม้

“ไม่หวาน” เหอเสี่ยวหงพึมพัม

ไมโลร้อนหม้อนี้มีรสชาติไม่หวานเพราะใช้นมสดเยอะแต่ก็นับว่าเพียงพอต่อไมโลหม้อนี้แล้ว ที่ไม่ใส่น้ำตาลก็เพราะไมโลมันก็มีส่วนผสมของน้ำตาล แล้วก็ยังมีขนมอื่น ๆ อีกที่มีรสหวานหากให้เด็ก ๆ กินเยอะจะทำให้ร่างกายมีปัญหาเอาได้

นำหม้อที่ต้มไมโลนมสดเทใส่กระติกน้ำร้อน โชดดีที่เหอเสี่ยวหงกะปริมาณถูกทำให้ไมโลนมสดอยู่เกือบปากกระติกน้ำร้อนพอดี

นำกระติกน้ำร้อนที่มีไมโลนมสดไปตั้งไว้บนโต๊ะในห้องโถงจากนั้นนำหม้อไปล้างคว่ำไว้ข้างบ่อ

“ทำอะไรเหรอ” สะใภ้ใหญ่ถาม

เมื่อล้างหม้อเสร็จก็เดินไปปิดประตูรั้วหน้าบ้านเพราะหลังจากโจวมี่กับลูก ๆ ไปก็ยังไม่มีใครไปปิด จากนั้นก็เดินเข้าบ้านเห็นสะใภ้ใหญ่ออกมาพอดี

“ฉันว่าจะเย็บเสื้อน่ะค่ะ เพิ่งต้มไมโลนมสดเสร็จ พี่เอาแก้วมาเทดื่มสิ” เหอเสี่ยวหงบอก

ระหว่างเดือนมานี้เหอเสี่ยวหงสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงในมิติ เหมือนมีคนคอยหาอะไรมาใส่ให้ซึ่งคนที่เธอนึกถึงคนแรกก็คือหยาดฟ้า แต่เธอคิดว่าเธอคิดมากไปเพราะหยาดฟ้าไม่มีมิติ อย่างแก้วน้ำกระเบื้องไม่มีลาย หรือพวกเครื่องใช้ไฟฟ้า พวกข้าวสำเร็จลูก เหอเสี่ยวหงเลยเอาออกมาใช้ในครัวหลายอย่าง โดยเฉพาะเครื่องครัวพวกหม้อ กระทะ ชามหรือตะหลิวเหอเสี่ยวหงก็เอาออกมา

“ให้เด็ก ๆ ดื่มเถอะ” สะใภ้ใหญ่รีบปฏิเสธ

บ้านใหญ่กับบ้านรองแยกบ้านกันแล้ว บ้านรองช่วยบ้านใหญ่ของหล่อนหลายอย่างเลย

ไม่ว่าจะข้าว ผลไม้หรือธัญพืช ขนม นม ก็ช่วยบำรุงลูกสาวของหล่อน หากจะให้หล่อนกินอีกก็เกรงใจ

“อะไรคะ? ฉันให้พี่สาวของฉันกิน พี่ก็กินเถอะ” เหอเสี่ยวหงไม่ว่าเปล่า เทไมโลนมสดใส่แก้วให้สะใภ้ใหญ่

“มันหอมมาก” สะใภ้ใหญ่ตาลุกวาว

เพราะมันเป็นไมโลสูตรเข้มข้นที่ผสมน้ำตาลยังไงล่ะ มันจึงหอมมาก

“ใช่ ฉันได้มาจากที่นั่นน่ะค่ะ” เหอเสี่ยวหงบอก

ที่เธอบอกว่ามาจากที่นั่นก็คือมาจากตลาดมืดนั่นแหละ แค่เพียงบอกเลี่ยง ๆ เพราะหากมีคนได้ยินมันคงจะเกิดเรื่อง ถึงจะอยู่ในบ้านก็เถอะเพราะมันไม่ควรพูด

“โอ้ ต้องแพงมากแน่ ๆ” สะใภ้ใหญ่อุทาน

หล่อนจิบชิมนิดหน่อยเพราะมันร้อนมาก พอเหอเสี่ยวหงบอกมาจากที่นั่นก็อุทานออกมา แน่นอนว่าของที่นั่นราคามากกว่าที่สหกรณ์เป็นเท่าตัว

“ก็ไม่เท่าไรค่ะ พี่ออกมาทำอะไร” เหอเสี่ยวหงปฏิเสธก่อนจะถามต่อ

“ว่าจะไปดูเด็ก ๆ น่ะ จะรบกวนหลานสาวเกินไป” สะใภ้ใหญ่บอก

“ปล่อยเด็ก ๆ ไว้เถอะค่ะ เราไปถักไหมพรมกันเถอะ”

เหอเสี่ยวหงว่าก่อนจะเทไมโลนทสดใส่แก้วเก็บอุณหภูมิประจำตัวของเธอครึ่งแก้ว ถึงแม้เธอจะต้มเยอะแต่เด็ก ๆ ก็เยอะเช่นกัน ไมโลนมสดจะเป็นของว่างยามบ่ายของเด็ก ๆ

สะใภ้ใหญ่พยักหน้าก่อนจะเดินไปเอาตะกร้าไหมพรมในห้องนอนของตัวเอง ก่อนจะตามหลังเหอเสี่ยวหงเข้าไปในห้องเย็บผ้า

“เธอได้ไหมพรมมาใหม่เหรอ?” สะใภ้ใหญ่ถาม

หล่อนถักไหมพรมเป็นหมวก ถุงมือ ถุงเท้า ให้ลูกของหล่อนคนละชุดเพราะไหมพรมเป็นของหายาก

หล่อนจึงไม่ได้ถักไหมพรมต่อเพราะมันจะหมดแล้ว ยังโชคดีที่ลูกสาวของหล่อนได้ครบ หล่อนอยากได้ไหมพรมเพิ่มแต่ไม่กล้าบอกเหอเสี่ยวหง

“ค่ะ ถ้าพี่อยากใช้ก็เข้ามาถักที่นี่เลย” เหอเสี่ยวหงบอก

“เธอซื้อมาเท่าไร แบ่งให้พี่ด้วยสิ” สะใภ้ใหญ่พูด

“อยากใช้ก็ใช้เถอะค่ะ” เหอเสี่ยวหงบอก

“จะดีเหรอ” สะใภ้ใหญ่ลังเล

หากให้หล่อนใช้ฟรี หล่อนประหยัดเงินได้หลายหยวนแต่น้องสาวหล่อนต้องเสียเงิน

“ใช้ไปเถอะค่ะ ฉันได้มาถูก ๆ น่ะ” เหอเสี่ยวหงบอก ก่อนจะพูดต่อ

“พี่ก็ถักให้ตัวเองกับพี่เขยด้วยเถอะค่ะ” เหอเสี่ยวหงว่า

แน่นอนว่าเหอเสี่ยวหงรู้จักพี่สาวตัวเองดี หล่อนเป็นคนดีไม่ค่อยกล้าแสดงออกเท่าไร และหล่อนยังมีเธอเป็นต้นแบบ เธอรู้ว่าหล่อนอยากได้ไหมพรมในเวลาที่เธอถักหล่อนชอบมองมาบ่อย ๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร หล่อนไม่กล้าเข้าตลาดมืดและยังมีเด็ก ๆ ต้องดูแลจึงไม่ได้เข้าอำเภอด้วย

สะใภ้ใหญ่พยักหน้า

เหอเสี่ยวหงอนุญาตหล่อน หล่อนจึงไม่ปฏิเสธเพราะถึงปฏิเสธ เหอเสี่ยวหงก็หาข้ออ้างอื่นมาบอกเหมือนเดิม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel