บทที่16 แตกแยก
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเหอเสี่ยวหงขายสบู่มีรายได้มากกว่าหมื่นหยวน! ทั้งที่ให้โจวมี่ขายให้ ทั้งที่ออกไปขายที่ตลาดมืดเอง เรียกได้ว่าเธอเป็นเศรษฐีในยุคนี้เลยก็ว่าได้ ส่วนน้องสาวสามีก็ได้รับส่วนแบ่งไปเกือบพันหยวน ต่อชีวิตพวกเธอได้อีกหลายปีเลยทีเดียว
ช่วงนี้เข้าฤดูหนาวแล้วโชคดีจริง ๆ ที่เหอเสี่ยวหงเตรียมตัวมาตั้งแต่เนิ่น ๆ เพราะอากาศเย็นเร็วมาก ปกติปลายเดือนตุลาอากาศจะเย็นแต่ยังไม่มาก
เนื้อตากแห้งของเหอเสี่ยวหงมีหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู สามชั้น อกไก่ ยังมีกระดูกไก่ที่ถูกเหอเสี่ยวหงเลาะออกมาจากไก่ป่า 5 ตัวที่เหลือจากที่ได้มาจากป่า
ส่วนเห็ดหลินจือแดงกับโสมคนเหอเสี่ยวหงก็ยังไปหามาเรื่อย ๆ จนได้หลายร้อยชั่งทั้งสดและแห้ง เมื่อมันแห้งแล้วเหอเสี่ยวหงได้แบ่งออกมาหลายชั่งเพราะจะบดสมุนไพร นำเห็ดหลินจือแดงกับโสมคนไปคั่วในกระทะ จากนั้นนำไปบดให้เป็นผงเก็บไว้ในกระปุกเล็กที่เหอเสี่ยวหงได้มาจากคุณลุงคนนั้นอีกเป็นพันกระปุกและยังมีที่สั่งมาอีกหลายพันกระปุก นอกจากนี้ยังมีขิงด้วยที่เหอเสี่ยวหงจะทำไว้ชงในฤดูหนาว
สองอาทิตย์ก่อนเริ่มมีลมหนาวเข้ามาเหอเสี่ยวหงได้ไปหาฟืนมาเพิ่มอีกเยอะมากเพราะกลัวว่าฟืนจะไม่พอ แต่ที่เก็บฟืนมีพื้นที่จำกัด ทำให้เหอเสี่ยวหงต้องนำมาไว้ในครัวและเก็บใส่มิติด้วย
เด็ก ๆ มีเนื้อมีหนังมากขึ้นแต่ก็ต้องแลกด้วยการใช้เงินมากกว่าร้อยหยวนในการบำรุงเด็ก ๆ ตอนนี้เด็ก ๆ ในบ้านเริ่มอ่านหนังสือคล่องกันแล้ว โดยเฉพาะโจวเอ้อร์นีกับโจวซานนีที่แก้จุดที่ผิดพลาดกันเองได้แล้ว
วันนี้เป็นวันหยุดของโจวมี่หล่อนจึงฝ่าลมหนาวที่มีหิมะเริ่มตกปั่นจักรยานพ่วงที่เหอเสี่ยวหงเอาไปเปลี่ยนอาทิตย์ก่อนออกจากอำเภอมาหาลูก และยังมีถ่านที่เหอเสี่ยวหงฝากซื้ออีกหลายชั่ง
“อากาศเริ่มหนาวแล้วเธอยังจะมากอีก” เหอเสี่ยวหงส่ายหน้า
“ฉันได้หยุดอาทิตย์หนึ่งน่ะค่ะเลยจะมาอยู่กับลูก” โจวมี่ตอบ
“ถ่านนี่ของฉันใช่ไหม” เหอเสี่ยวหงถาม
“ใช่ค่ะ ชั่งละ 5 เหมา” โจวมี่พยักหน้า
เหอเสี่ยวหงให้เงินโจวมี่ไป 22 หยวน วันนี้หล่อนเอามาด้วย 40 ชั่ง ส่วนเงินที่เหลือเหอเสี่ยวหงเอาให้โจวมี่
“เธอไม่ได้ซื้อของเธอมา” เหอเสี่ยวหงถาม
“นี่มันก็มากพอแล้ว” โจวมี่บอก
“บ้านรองยังไม่พอใช้เลย” เหอเสี่ยวหงว่า
“พี่จะใช้อะไรเยอะแยะ” โจวมี่แย่ง
“ก็ตามใจเธอ” เหอเสี่ยวหงยกถ่านเข้าไปเก็บในห้อง
ฤดูหนาวเหอเสี่ยวหงให้เด็ก ๆ มานอนในห้องกับเธอ มันจะทำให้ไม่เปลืองฟืนมากและทำให้เธอกับลูกอบอุ่น
เช้านี้เหอเสี่ยวหงเตรียมโจ๊กไข่ลวกกับย่างอกไก่ที่มีรสเค็มไว้คนละถ้วยกับลูก ส่วนของสะใภ้ใหญ่เธอได้ให้เนื้อไก่รสพอดีไปเกือบชั่ง เพราะสะใภ้ใหญ่ช่วยเธอทำเวลาที่เธอหมักตากแห้ง
“ทำไมเด็ก ๆ ถึงมีน้ำมีนวลขนาดนี้!” โจวมี่อุทานตกใจ
เพราะหล่อนไม่ได้กลับมาเลยหลังที่หล่อนได้กลับไปทำงานในอำเภอ หล่อนจึงไม่ได้เห็นเด็ก ๆ มีน้ำมีนาลขึ้น ยกเว้นลูกสาวของหล่อนที่ผอมแห้งเหมือนเดิม
“ฉันให้เด็ก ๆ กินข้าวขาวน่ะ” สะใภ้ใหญ่ตอบ
“โอ้ แล้วลูกฉันล่ะ ทำไหมพี่ถึงไม่ให้หล่อนกิน!” โจวมี่ไม่พอใจ
ลูกสาวตัวเองกินข้าวขาวอย่างดีที่ชาวบ้านไม่กินกัน แล้วลูกสาวของหล่อนกินอะไรล่ะ เพราะหล่อนไม่ได้กลับมาที่บ้านพี่สะใภ้ถึงรังแกลูกหล่อน หล่อนคิด
“เธอซื้อแป้งไว้ให้พี่ทำให้เด็ก ๆ กินนี่” สะใภ้ใหญ่ว่า แต่หล่อนก็ให้หลานสาวกินข้าวขาวด้วยอยู่หลายครั้ง แต่เสี่ยวยวี่ไม่ค่อยอยากจะกินเท่าไรเพราะหล่อนรู้ความแล้ว
“ฉันให้เงินพี่ 6 หยวน แต่พี่เอาเงินที่ฉันให้ไปซื้อข้าวให้ลูกตัวเอง” โจวมี่ไม่ยินยอม
“แต่เงินนั่นเธอให้พี่เลี้ยงลูกให้” สะใภ้ใหญ่ไม่เข้าใจ
น้องสาวสามีเป็นคนซื้อแป้งฝากเหอเสี่ยวหงมาให้หล่อนย่างให้ลูกสาว บางวันหล่อนก็ให้อาหารของหล่อนกับหลานสาวอยู่ตลอดแต่ก็ไม่สามารถให้ทุกวันได้เพราะนี่คือส่วนของลูกสาวและของเธอ
“แต่เงินฉัน ฉันให้พี่ไว้เลี้ยงลูกฉัน!” โจวมี่โมโห
หล่อนคิดว่าพี่สะใภ้จะเลี้ยงหลานเหมือนที่เลี้ยงลูกกลับไม่ใช่ พี่สะใภ้เอาเงินของหล่อนไปและเลี้ยงลูกหล่อนให้อด ๆ อยาก ๆ
“ข้าวขาวชั่งละหยวน เธอก็ไปซื้อมาสิ” เหอเสี่ยวหงว่า
เป็นเธอเธอก็จะให้กินแค่ที่แม่ของพวกหล่อนซื้อให้เท่านั้นแหละไม่ให้ส่วนแบ่งของบ้านเธอกับลูกของหล่อนด้วยซ้ำ ยุคนี้ข้าวยากหมากแพงจะซื้อจะใช้อะไรก็ต้องคิดแล้วคิดอีก ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำตามได้
“ข้าวขาวไม่ได้แพงขนาดนี้” โจวมี่ปฏิเสธ
หล่อนทำงานในอำเภอ หล่อนจึงรู้ว่าราคาข้าวขาวนั่นเท่าไร ตั้งแต่ได้ส่วนแบ่งจากการขายสบู่ให้พี่สะใภ้รองหล่อนก็ไปซื้อข้าวขาวมากิน
เดือนหนึ่งตกเกือบร้อยหยวน ไหนจะค่ากับข้าวและส่วนอื่น ๆ อีก หล่อนเก็บเงินไม่ค่อยได้ จึงซื้อแป้งมันเทศให้ลูกสาวกิน และหล่อนก็คิดว่าถึงไม่ให้เงินซื้อข้าวขาว อย่างน้อยพี่สะใภ้ก็คงจะให้หลานกินด้วย แต่ไม่ใช่เลย
“เธอจะให้ทำอย่างไร” เหอเสี่ยวหงถาม
น้องสามีคนนี้ในตอนที่เธอแต่งเข้ามาก็ไม่ได้คลุกคลีกับเธอเท่าไร หลังจากที่เธอแต่งเข้าบ้านโจวไม่กี่ปีหล่อนก็แต่งออกไป วันแยกบ้านเพราะเป็นน้องของสามีเหอเสี่ยวหงจึงเรียกมาด้วยเพราะกลัวสามีจะเป็นห่วงน้องสาวหากหล่อนไม่ได้อยู่บ้าน
ในเวลาที่อยู่กับโจวมี่เธอจึงไม่ได้เอาอะไรออกมามากเพราะกลัวโจวมี่รู้ และวันที่เธอเสนอเรื่องสบู่เหอเสี่ยวหงเห็นแววตาของโจวมี่ หลายครั้งที่เหอเสี่ยวหงเอาสบู่ไปส่งหล่อนก็จะขอสบู่ไว้ใช้หลายก้อน เหอเสี่ยวหงก็ไม่ได้ปฏิเสธ
จนเมื่ออาทิตย์ก่อนเหอเสี่ยวหงไม่ได้เอาสบู่ไปให้แต่ก็เข้าอำเภอไปบอกหล่อนว่าสบู่หมด หล่อนทำหน้าไม่พอใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
“ให้ลูกสาวฉันกินข้าวขาวด้วย” โจวมี่ว่า
“เธอก็ไปซื้อมาให้สิ” สะใภ้ใหญ่บอก
เรื่องลูกมาก่อนเรื่องอื่นเสมอสำหรับสะใภ้ใหญ่ ยิ่งอาหารการกินยิ่งไม่ต้องพูดถึง สะใภ้รองน้องสาวของหล่อนเป็นคนทำให้หล่อนบำรุงลูกจนมีน้ำมีนวลขนาดนี้ หากหล่อนให้ข้าวขาวหลานสาวกินค่าใช้จ่ายก็ต้องเพิ่มขึ้นหลายสิบหยวน แต่หล่อนได้เงินจากน้องสาวสามีเพียงหกหยวน ซึ่งหล่อนไม่ได้ทำงานจึงต้องใช้เงินอย่างประหยัด
“ฉันให้เงินพี่ไป 6 หยวนแล้ว พี่ก็ไปซื้อมาสิ!” โจวมี่ยังยืนยันคำเดิม
“ไม่” สะใภ้ใหญ่ปฏิเสธ
“ฉันจะเอาลูกไปอยู่ด้วย!”
หล่อนคิดว่าค่าข้าวขาวของลูกสาวไม่มากและก็ไม่อยากเสียเงินเพิ่มจึงคิดจะใช้ในส่วนของหกหยวนนั้นไปซื้อข้าวมา และหกหยวนสำหรับคนที่ไม่ได้ทำงานนั่นหล่อนคิดว่ามันมากพอสมควร แต่แล้วหล่อนคิดผิดเพราะ
“เอาไปสิ” สะใภ้ใหญ่รีบตอบ
หล่อนเลี้ยงลูกให้น้องสาวสามีทำให้ไม่ได้ดูแลลูกตัวเองเท่าไรนัก แถมหล่อนต้องตื่นมาป้อนนมหลานตอนกลางคืนไม่ได้นอนแทบจะทุกวัน วันนี้แม่ของหลานพูดขึ้นมาเอง หล่อนจึงไม่ปฏิเสธ
“อะ...” โจวมี่ยังไม่ทันได้พูดก็ถูกขัดขึ้นมาก่อน
“เธอคิดว่า 6 หยวนมันจะพอใช้จ่ายอย่างนั้นเหรอ? แค่ค่าอาหารก็ไม่พอแล้ว” เหอเสี่ยวหงว่า
“พี่อยู่ที่บ้านต้องใช้อะไร!” ครั้งนี้โจวมี่ตะโกนเสียงดังมากจนเสี่ยวจวี่ตื่น
โจวมี่มองก่อนจะเดินไปอุ้มลูกออกมาตบหลังเพื่อปลอบให้หยุดร้อง เด็ก ๆ อีกสองบ้านก็ชะโงกหน้าออกมาจากห้อง
“ใช่ ฉันอยู่ที่บ้านเฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไร แล้วจะมีเงินเหมือนเธอที่ทำงานในโรงงานได้ยังไง” สะใภ้ใหญ่สวนกลับ
อย่าคิดว่าหล่อนไม่รู้ว่าเหอเสี่ยวหงให้โจวมี่ขายสบู่ให้เพราะเหอเสี่ยวหงบอกหล่อน และยังพาหล่อนผสมสบู่ส่งให้น้องสาวสามีอยู่ทุกวัน หล่อนฝากเหอเสี่ยวหงซื้อผลไม้มาให้ลูกกับหลานกินทุกครั้งที่เหอเสี่ยวหงเข้าอำเภอ
“เหอะ มันคงเป็บแบบที่คุณแม่บอกจริง ๆ ด้วย เสี่ยวยวี่เก็บของไปกับแม่!”
โจวมี่ไม่พูดเปล่าพาลูกสาวเก็บของใส่จักรยานพ่วงและปั่นออกไปทันที ส่วนที่ว่าแบบที่คุณแม่บอกนั้นสองสะใภ้บ้านโจวไม่ได้สนใจเพราะไม่ใช่เรื่องของพวกเธอ
“ไม่รู้ว่าเด็ก ๆ ไปกับโจวมี่จะเป็นยังไงบ้าง” สะใภ้ใหญ่มองตามหลังด้วยความเป็นห่วง เธอไม่ได้ห้ามน้องสาวสามีเพราะอยากให้หล่อนเรียนรู้ด้วยตัวเอง
“ยังไงโจวมี่ก็ไม่ปล่อยให้อดตายหรอกค่ะ” เหอเสี่ยวหงบอก
ยังดีที่เธอได้เกิดใหม่ในยุคอนาคตก่อนจะย้อนอดีตกลับมา ทำให้เธอไม่ต้องดูแลพวกนาง
“เงินเดือน 18 หยวน แม้จะมากแต่ก็ไม่น่าจะพอ” เพราะนมผงที่โจวมี่เอามาด้วยนั้นเหลืออยู่ก้นกระป๋อง
นมผงในยุคนี้นับว่าแพงมาก ถ้าแม่ไม่มีนมจริง ๆต้องจะซื้อมาให้ลูก ให้หลานกิน
“หล่อนคงเจอกับนางหลี่ซือ ไม่รู้ว่านางจะคุยอะไรกันบ้าง พวกลูกกลับไปอยู่บนเตียงเตาเถอะจ้ะ” พูดกับสะใภ้ใหญก่อนจะหันไปบอกลูกสาวที่ยังชะโงกหน้าออกจากประตูมาอยู่
เด็ก ๆ วิ่งขึ้นเตียงเตากันแล้วเหอเสี่ยวหงจึงหันมาคุยกับสะใภ้ใหญ่ต่อ
“ห้องนั้นทำความสะอาดไว้เถอะค่ะ” เหอเสี่ยวหงชี้ไปที่ห้องที่โจวมี่เคยอยู่
“ไปกันเถอะ” สะใภ้ใหญ่ตอบ
เหอเสี่ยวหงกับสะใภ้ใหญ่พากันเก็บกวาดในห้องที่โจวมี่เคยอยู่ เพราะหลังจากโจวมี่กลับไปทำงาน สะใภ้ใหญ่ก็ให้เสี่ยวยวี่ไปนอนกับลูก ๆ นาง ส่วนเสี่ยวจวี่หล่อนให้นอนในห้องของนาง
“เฮ้อ ไม่คิดว่าฝุ่นจะเยอะขนาดนี้ ” เหอเสี่ยวหงบ่น
เพราะว่าห้องอื่นจะถูกเปิดหน้าต่างเพื่อจะดับกลิ่น แต่ห้องนี้ไม่ได้เปิดเพราะไม่มีใครใช้ ฝุ่นจึงเยอะมาก เยอะขนาดที่ทำความสะอาดสองคนใช้เวลาเกือบ 2 ชั่วโมง
“ก็เพราะไม่มีคนอยู่ แล้วห้องนี้จะทำอะไร” สะใภ้ใหญ่ถาม
ห้องนี้อยู่ตรงข้ามกับประตูคู่กับห้องของสะใภ้ใหญ่ สองห้องนี้มันเป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดในบ้านแล้วเพราะตอนนั้นบ้านเหอสร้างไว้ให้อาสามกับอาสี่ที่จะแต่งสะใภ้เข้าบ้าน
“ฉันจะทำเป็นห้องผสมสบู่” เหอเสี่ยวหงบอก
“ส่วนผสมไม่ได้หมดหรอ?” สะใภ้ใหญ่ถาม
เพราะ 2-3 วันนี้เหอเสี่ยวหงบอกว่าส่วนผสมไม่พอต้องไปหาเพิ่ม
“ยังมีอีกค่ะ” เหอเสี่ยวหงตอบ
เพราะเธอได้ทดลองทิ้งสบู่ไว้ข้างนอกมิติผ่านมาเป็นเดือนมันไม่ละลาย แต่หากใส่มิติมันจะละลาย และก่อนหน้านั้นมันละลายไม่แยกส่วนไม่ทัน เหอเสี่ยวหงจึงหยุดไว้ก่อน แต่ถ้าเป็นสบู่ที่เธอกับสะใภ้ใหญ่ทำมันกลับไม่ละลายเมื่อเอาใส่มิติ ตอนนี้ห้องเย็บผ้าเต็มไปด้วยสบู่หลายพันก้อนที่ไม่ได้หมดตามที่เหอเสี่ยวหงบอกกับโจวมี่ เธอจะเก็บไว้ขายในตลาดมืด
“ดีเลย” สะใภ้ใหญ่ยิ้ม
หล่อนได้ส่วนแบ่งก้อนละ 3 เฟิน โดยที่ทำเพียงแค่ผสมสบู่และแพ็คใส่ถุงเท่านั้น หล่อนทำได้วันละหลายร้อยก้อน ยิ่งหล่อนทำได้มาเท่าไหร่หล่อนก็จะได้รับส่วนแบ่งเยอะโดยที่เหอเสี่ยวหงบอกส่วนประกอบ หล่อนทำจนคล่องมือแล้ว วันหนึ่งหล่อนทำได้ไม่ต่ำกว่า 100 ก้อน
