เครื่องในหมูตุ๋นขอรับ - 1
หลี่ซุนเดินเข้าไปในครัวที่กลิ่นหอมของเครื่องเทศลอยอบอวลไปทั่ว เขาตักน้ำซุปขึ้นมาชิมเล็กน้อย ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตกตะลึง มันไม่มีกลิ่นคาวเลยแม้แต่น้อย รสชาติกลมกล่อมหอมเครื่องเทศจนอยากจะกลืนลงท้องทั้งชิ้น
"ท่านแม่นี่มัน..." หลี่ซุนพึมพำกับตัวเอง
หลี่หลินที่กำลังจัดหมั่นโถวอยู่บนโต๊ะ เห็นพี่ชายมีท่าทีแปลกไปจึงเดินเข้ามาใกล้
"ทำไมหรือพี่สาม รสชาติไม่ดีหรือเจ้าคะ"
หลี่ซุนส่ายหน้าอย่างรวดเร็ว
"ไม่เลยอาหลิน มัน...มันอร่อยมาก ไม่มีกลิ่นคาวเลยแม้แต่น้อย รสชาติกลมกล่อมหอมเครื่องเทศคล้ายหมูพะโล้ที่เรากินเมื่อวาน จนอยากจะกลืนลงท้องทั้งชิ้นเลย"
"จริงหรือ"
หลี่หลินถามอย่างไม่เชื่อเท่าไหร่ ถึงนางจะช่วยมารดาทำแต่ก็ยังไม่กล้าลองชิม ก่อนที่นางจะลองตักน้ำซุปขึ้นมาชิมบ้าง เมื่อน้ำซุปสัมผัสกับปลายลิ้น ดวงตาของนางก็เบิกกว้างเช่นเดียวกับพี่ชาย มันอร่อยอย่างที่เขาบอกไว้จริง ๆ
"..."
"ท่านแม่ทำได้อย่างไรกัน!"
หลี่หลินอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ นางรีบตักตุ๋นเครื่องในหมูที่เปื่อยนุ่มจนเคี้ยวง่ายใส่ถ้วยไปหลายชุด ทางด้านหลี่หลงก็หยิบหมั่นโถวสีขาวนวลที่ทำจากแป้งชั้นดีใส่ตะกร้าเตรียมไปให้ทุกบ้าน
"อาหลง อาซุน ไปได้แล้ว" หลี่เหมยเดินเข้ามาบอกลูกชายทั้งสอง
"ขอรับท่านแม่" สองพี่น้องรับคำ แล้วนำของที่เตรียมไว้ไปให้บ้านของท่านปู่ท่านย่าเป็นอันดับแรก
เมื่อไปถึงบ้านใหญ่ พ่อเฒ่าหลี่กำลังนั่งทำงานไม้อยู่ก็เงยหน้าขึ้นมามองหลานชายทั้งสอง ส่วนแม่เฒ่าหลี่ก็กำลังนั่งเย็บปักถักร้อยอยู่หน้าบ้านก็ละสายตาจากสิ่งที่จดจ้องมามองหลานชายทั้งสอง
"มากันแล้วหรืออาหลง อาซุน มีธุระอะไรหรือเปล่า" พ่อเฒ่าหลี่ถามด้วยความสงสัย
"ท่านแม่ให้เอาของมาให้ขอรับ"
หลี่หลงรีบยื่นตะกร้าที่บรรจุถ้วยเครื่องในหมูและหมั่นโถวให้กับแม่เฒ่าหลี่
"นี่มันอะไรกัน?" แม่เฒ่าหลี่รับตะกร้ามาอย่างงุนงง
"เครื่องในหมูตุ๋นขอรับ แล้วก็มีหมั่นโถวด้วย ท่านแม่ให้เอามาให้บ้านท่านย่าเยอะหน่อยขอรับ" หลี่ซุนตอบอย่างภูมิใจ
แม่เฒ่าหลี่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย เครื่องในหมูที่ว่านี้จะกินได้อย่างไร? เมื่อก่อนมันเป็นของที่ต้องทิ้งไม่ใช่หรือ? แต่เมื่อนางได้กลิ่นหอมของเครื่องเทศที่ลอยออกมาจากถ้วย ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ
"แล้วแม่ของเจ้าให้พวกเจ้ามาทำอะไรอีกหรือไม่" พ่อเฒ่าหลี่เอ่ยถาม
"ท่านแม่ให้พวกเรามาขอยืมเลื่อยขอรับ ท่านบอกว่าจะเอาไปตัดไม้เพื่อเตรียมเผาถ่านเอาไว้ใช้หน้าหนาว" หลี่ซุนตอบตามตรง
ผู้เป็นลุงอย่างหลี่เฉียงและหลี่เต๋อได้ยินแบบนั้นก็รีบเดินออกมาจากบ้าน
"เผาถ่านหรือ? ทำไมไม่ใช้ฟืนแบบเดิมเล่า" หลี่เฉียงถามด้วยความสงสัย
"ท่านแม่บอกว่าควันเยอะเกินไปขอรับ บ้านเราก็มีหลานน้อยเพิ่มอีกหนึ่งคน การใช้ถ่านไม้จะดีกว่าขอรับ" หลี่ซุนตอบกลับ
"พวกเจ้าสองคนไม่ต้องไปยืมเลื่อยแล้ว ลุงกับลุงรองจะไปช่วยพวกเจ้าทำเตาเผาแล้วก็ตัดต้นไม้เอง"
"ใช่แล้ว ลุงจะช่วยพวกเจ้าเอง" หลี่เต๋อพูดเสริม
"ว่าแต่..เสี่ยวม่ายเป็นอย่างไรบ้าง" แม่เฒ่าหลี่เอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
"พี่สะใภ้ปลอดภัยดีขอรับ ตอนนี้ท่านแม่กำลังดูแลเรื่องการอยู่เดือนของนาง" หลี่หลงตอบผู้เป็นย่า
พอทุกคนได้ยินแบบนั้นก็อุ่นใจขึ้น พลางพูดว่า...
"ดีแล้วที่หลี่เหมยเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น พวกเจ้าจะได้มีความสุขกันเสียที" แม่เฒ่าหลี่กล่าว
จากนั้นสองพี่น้องก็ขอตัวลาเพื่อนำของไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่มาช่วยพวกเขาเมื่อเช้า
หลี่หลงและหลี่ซุนเดินไปตามถนนในหมู่บ้านที่ยังคงเงียบสงบ พวกเขานำของไปให้ชาวบ้านทีละบ้าน บ้านที่พวกเขาไปถึงต่างก็แปลกใจเมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ในถ้วย
"เครื่องในหมูตุ๋นหรือ? มันกินได้จริง ๆ หรือ" ชาวบ้านคนหนึ่งถามด้วยความสงสัย
"ได้ขอรับ ท่านลุงลองชิมดูสิขอรับ" หลี่หลงตอบอย่างหนักแน่น
ชาวบ้านคนนั้นรับถ้วยมาอย่างลังเลใจ แต่พอได้กลิ่นหอมของเครื่องเทศก็อดไม่ได้ที่จะลองชิมเข้าไป เมื่อชิ้นเครื่องในหมูที่เปื่อยนุ่มสัมผัสกับลิ้น
ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างด้วยความตกตะลึง มันไม่มีกลิ่นคาวเลยแม้แต่น้อย รสชาติกลมกล่อมและอร่อยจนเขาแทบไม่อยากจะกลืนมันลงท้องเพราะความเสียดาย ยิ่งได้เห็นหมั่นโถวสีขาวนวลที่ทำจากแป้งชั้นดี ก็ทำให้พวกเขารีบขอบคุณหลี่หลงกับหลี่ซุนกันยกใหญ่
เมื่อทั้งสองคนมาถึงบ้านหัวหน้าหมู่บ้าน หลี่ซุนก็ยื่นถ้วยและตะกร้าใส่หมั่นโถวให้หัวหน้าหมู่บ้านเช่นเดียวกับที่ทำกับชาวบ้านคนอื่น ๆ หัวหน้าหมู่บ้านที่กำลังทำสวนอยู่รับถ้วยมาอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เมื่อได้ชิมเขาก็ถึงกับตะลึงไปชั่วขณะ ท่าทางไม่ต่างจากชาวบ้านคนอื่น ๆ เลยสักนิด
"นี่...นี่คือเครื่องในหมูจริง ๆ หรือ!"
"ขอรับท่านตาหัวหน้าหมู่บ้าน ท่านแม่เป็นคนทำเองเลยขอรับ" หลี่ซุนตอบอย่างภูมิใจในตัวของมารดา
หัวหน้าหมู่บ้านพยักหน้าด้วยความประทับใจ เขามองไปที่บ้านสามหลี่ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป
"..."
"ดี...ดีมากจริง ๆ นางเปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ" เขาพึมพำกับตัวเอง
