ลูกเจ็บนะขอรับ! - 1
เมื่อเห็นว่าหลี่เหมยไปคว้ามีดพร้าออกมาง้างสูง แม่สื่อเฉินไม่รอช้า นางรีบหันหลังกลับแล้ววิ่งหนีไปอย่างไม่คิดชีวิต นางรีบปีนขึ้นไปบนเกวียนที่จอดรออยู่ไม่ไกล แล้วรีบขับออกไปจากบริเวณนั้นอย่างรวดเร็วราวกับมีภูตผีปีศาจวิ่งไล่ตามหลังมา
หลี่เหมยยืนมองตามเกวียนที่ลับหายไปในทิศทางที่มุ่งหน้าเข้าสู่ตัวเมือง ก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปในบ้าน ในขณะที่ความรู้สึกของนางในตอนนี้กำลังพรั่งพรูออกมาอย่างไม่มีหยุดหย่อน
"เฮ้อ...ดูเหมือนว่าปัญหาจะไม่ได้มีเพียงแค่แม่สื่อคนเดียวเสียแล้ว" เธอพึมพำกับตัวเองเบา ๆ
ในขณะที่หลี่เหมยกำลังคิดหาทางออกให้กับปัญหาที่ถาโถมเข้ามา นางก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่กำลังจ้องมองนางอยู่จากด้านในบ้าน เมื่อเธอหันกลับไปดูก็เห็นว่าลูก ๆ และหลาน ๆ ของนางกำลังยืนมองนางอยู่ที่หน้าประตูด้วยสีหน้าตื่นตะลึง ไม่เชื่อสายตาในสิ่งที่พวกเขาเพิ่งจะเห็นไป
หลี่ซานเป็นคนแรกที่เดินเข้ามาหานางอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ
"ท่านแม่...ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหมขอรับ"
หลี่เหมยส่ายศีรษะเล็กน้อย
"ข้าไม่เป็นไร"
"แล้ว...แม่สื่อคนนั้น...ท่านไล่นางไปจริง ๆ หรือขอรับ" หลี่ซานยังคงไม่แน่ใจในสิ่งที่เกิดขึ้น
"อืม...ข้าไล่นางไปแล้ว นางคงจะไม่กลับมาที่นี่อีกแล้ว"
คำพูดของหลี่เหมยทำให้ทุกคนในครอบครัวต่างก็ดีใจจนแทบจะลืมหายใจ พวกเขาพากันโผเข้ามากอดหลี่เหมยด้วยความดีใจ
หลี่หลิน ลูกสาวคนเล็กโผเข้ามากอดมารดาเอาไว้แน่น น้ำตาที่เคยไหลอาบแก้มด้วยความหวาดกลัว ตอนนี้กลับกลายเป็นน้ำตาแห่งความดีใจ
"ท่านแม่! ข้าดีใจเหลือเกิน! ข้าขอบคุณท่านแม่เจ้าค่ะ! ขอบคุณที่ท่านไม่ขายข้ากับหลานทั้งสอง! ขอบคุณท่านแม่เจ้าค่ะ!"
หลี่ซางจื้อและหลี่ซางหยวน ลูกชายทั้งสองของหลี่ซานก็พากันเข้ามากอดขาของหลี่เหมยด้วยความรักใคร่ แม้ท่านย่าจะไม่เคยเล่นหรือพูดดี ๆ กับพวกเขา แต่อย่างน้อยวันนี้ท่านย่าก็ไม่ได้ขายพวกเขาออกไป นับว่าเป็นบุญคุณยิ่งใหญ่
ในขณะที่ทุกคนกำลังแสดงความดีใจอยู่นั้น หลี่เหมยก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านเข้ามาในหัวใจ ความอบอุ่นที่เธอไม่เคยรู้สึกมานานในช่วงเวลาที่อยู่ในยุคปัจจุบัน นางรู้สึกเหมือนว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่ขาดหายไปในชีวิตของนาง กำลังกลับคืนมาอีกครั้ง...
หลี่เหมยตัดสินใจที่จะทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวนี้ เพื่อให้ทุกคนมีความสุข และเพื่อให้นางได้กลับไปยังโลกเดิมของเธออีกครั้ง
แต่นางก็ยังไม่รู้เลยว่าการทำให้ครอบครัวนี้มีความสุขและรุ่งโรจน์นั้นจะต้องทำอย่างไร แล้วนางจะต้องใช้เวลาอีกนานแค่ไหนกว่าจะได้กลับบ้าน...
ท่ามกลางความเงียบสงัดที่ปกคลุมบ้านดินหลังน้อย หลี่เหมยเดินกลับเข้ามาด้วยท่าทางที่ดูเหนื่อยล้าเกินกว่าจะเป็นคนเพิ่งฟื้นไข้ นางรู้สึกปวดหัวตุบ ๆ ราวกับศีรษะจะแยกออกจากกันได้ทุกเมื่อ
แต่แล้วเสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาในท้องของนาง "โครก..." เสียงนั้นดังขึ้นอย่างน่าอับอายจนแม้แต่นางเองยังต้องหน้าแดงด้วยความเขินอาย
"ที่บ้านมีอะไรกินบ้าง?"
หลี่เหมยหันไปมองหน้าลูก ๆ ที่ยืนอ้ำอึ้งอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่แสดงถึงความหิวโหย พวกเขาต่างเงียบกริบ ไม่มีใครกล้าตอบคำถามของมารดา หลี่เหมยนึกขึ้นได้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา หลี่เหมยคนเดิมจะนำอาหารแห้งออกมาจากในห้องนอนของตัวเองเท่านั้น นางจึงไม่รอช้าที่จะสั่งการทันที
"เอาอย่างนี้ พวกเจ้าไปก่อไฟต้มน้ำก่อน เดี๋ยวแม่จะไปเอาเสบียงออกมาให้"
คำสั่งของหลี่เหมยทำให้ทุกคนต่างตกตะลึงไปชั่วครู่ พวกเขาไม่เคยได้ยินคำพูดที่อ่อนโยนและมีเหตุผลเช่นนี้จากปากของมารดามาก่อน แต่เมื่อเห็นสีหน้าที่จริงจังของหลี่เหมยแล้ว พวกเขาก็รีบรับคำสั่งอย่างว่าง่ายทันที
"ขอรับท่านแม่/เจ้าค่ะท่านแม่!"
ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตนเองอย่างรวดเร็ว หลี่ซานและหลี่ซุนรีบไปหาเก็บฟืนที่กองอยู่ข้างบ้านเพื่อนำมาใช้ก่อไฟ หลี่หลินรีบเข้าไปในห้องครัวเล็ก ๆ เพื่อเตรียมหม้อและกระทะสำหรับต้มน้ำ ส่วนเสี่ยวม่ายก็รีบไปจัดแจงตากเสื้อผ้าที่ซักไว้พาดไปตามราวไม้ไผ่ในรั้วบ้าน
ในขณะที่ทุกคนกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่นั้น หลี่หลง ลูกชายคนรองก็เดินออกมาจากห้องนอนของตัวเองด้วยท่าทางที่หยิ่งยโส มือของเขาถือเสื้อผ้าที่สกปรกอยู่หลายชุด ก่อนจะโยนกองเสื้อผ้าเหล่านั้นลงบนพื้นตรงหน้าเสี่ยวม่ายที่กำลังจะเดินเข้าไปในบ้าน
"นี่! พี่สะใภ้เอาเสื้อผ้าของข้าไปซักให้สะอาดด้วย!"
คำสั่งของหลี่หลงทำให้เสี่ยวม่ายหยุดชะงักไปชั่วครู่ นางเงยหน้าขึ้นมองหลี่หลงด้วยสายตาที่เหนื่อยอ่อน แต่ก็ไม่ได้โต้แย้งอะไร นางกำลังจะก้มลงไปเก็บเสื้อผ้าเหล่านั้น แต่แล้วเสียงที่เด็ดขาดของหลี่เหมยก็ดังขึ้นเสียก่อน
"หยุด!"
หลี่เหมยหันไปมองหลี่หลงด้วยสายตาที่แข็งกร้าว ราวกับจะแผดเผาให้เขากลายเป็นเถ้าถ่านได้ในทันที
"เสี่ยวม่ายเจ้านั่งลง ส่วนเสื้อผ้าพวกนั้นเจ้าเอาไปซักเอง!"
คำสั่งของหลี่เหมยทำให้หลี่หลงถึงกับยืนนิ่งด้วยความตกตะลึง ใบหน้าหล่อเหลาที่เคยประดับด้วยรอยยิ้มอันเจ้าเล่ห์ ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความงุนงงและไม่เข้าใจ ปกติแล้วเขาก็ให้พี่สะใภ้ซักผ้าให้แบบนี้มาตลอด แล้วทำไมวันนี้แม่ถึงได้เปลี่ยนไป
"ท่านแม่ ท่านหมายความว่ายังไง?" หลี่หลงถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
"ข้าหมายความว่า ต่อไปนี้ห้ามเจ้าใช้งานพี่สะใภ้ของเจ้าอีก ทุกอย่างเจ้าต้องทำด้วยตัวเอง"
หลี่เหมยตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาไร้ความรู้สึก
คำตอบของหลี่เหมยทำให้หลี่หลงถึงกับระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างควบคุมไม่ได้ เขาไม่เคยถูกมารดาตำหนิเช่นนี้มาก่อน
"ทำไมถึงเป็นแบบนั้นขอรับ! นางเป็นผู้หญิง! มีหน้าที่ปรนนิบัติผู้ชาย! อีกอย่างข้าเป็นคนเรียนหนังสือ! ข้ามีงานที่ต้องทำมากมาย! จะเอาเวลาที่ไหนไปซักผ้า!" หลี่หลงเถียงกลับอย่างเห็นแก่ตัว
หลี่เหมยได้ยินดังนั้นก็โมโหจนเลือดในกายพลุ่งพล่าน หญิงแกร่งในศตวรรษที่ 21 อย่างนางไม่เคยยอมให้ใครมาดูถูกผู้หญิงได้ถึงเพียงนี้! นางจึงไม่รอช้าที่จะหยิบไม้เรียวที่วางอยู่ข้างประตูขึ้นมาถือไว้ในมือ แล้วเดินเข้าไปหาหลี่หลงด้วยท่าทางที่น่าเกรงขาม
"หุบปากของเจ้าเดี๋ยวนี้! อาจารย์คนไหนสอนให้เจ้าพูดจาดูถูกผู้หญิงแบบนี้!"
