บท
ตั้งค่า

ร้านขายยา - 2

"ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่านางจะเป็นคนที่มีฝีมือในการหาเงินไม่น้อยเลย"

บนถนนของเมืองเทียนฉางที่ยังคงคลาคล่ำไปด้วยผู้คน หลังจากออกจากร้านขายยา หลี่เหมยก็ได้แต่คิดหาวิธีที่จะแยกตัวกับลูกชายทั้งสองคนได้อย่างไร นางต้องการเอาของในมิติออกมาอย่างลับ ๆ โดยไม่ให้ใครเห็น เพราะของเหล่านั้นเป็นสิ่งมีค่าที่ไม่ควรเปิดเผยให้ใครรู้ โดยเฉพาะในยุคสมัยที่แห้งแล้งเช่นนี้

ระหว่างที่เดินเข็นรถเข็นไปตามถนน หลี่หลงก็เอ่ยถามมารดาขึ้น

"ท่านแม่ขอรับ พวกเราจะไปที่ไหนกันต่อ"

"เอ่อ..."

"..."

หลี่เหมยชะงักไปครู่หนึ่ง ขณะเดียวกันสายตาของนางก็เหลือบไปเห็นร้านบะหมี่เล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ใต้ต้นหลิวใหญ่ ไม่ไกลจากร้านขนมชื่อดังของเมือง

"ไปร้านบะหมี่ วันนี้แม่จะพาเจ้าทั้งสองคนไปกินบะหมี่เกี๊ยวกัน"

พอได้ยินดังนั้น ทั้งหลี่ซุนและหลี่หลงก็เบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้น หลี่หลงเองถึงแม้จะได้กินอยู่บ่อย ๆ เพราะเดิมทีมารดามักจะให้เงินไปซื้อกิน ต่างจากหลี่ซุนที่ไม่เคยได้ลิ้มลองเลยแม้แต่ครั้งเดียว

"จริงหรือขอรับท่านแม่" หลี่ซุนเอ่ยถามอย่างมีความหวัง

"จริงสิ" หลี่เหมยยิ้มอย่างอ่อนโยน

"งั้นเราไปกันเลย"

เมื่อไปถึงร้านบะหมี่ที่ตั้งอยู่ใต้ร่มไม้ หลี่เหมยก็สั่งทันที

"เถ้าแก่ เอาบะหมี่เกี๊ยว 3 ชาม ขอชามใหญ่เลยนะเจ้าคะ"

"ได้ ๆ เชิญแม่นางนั่งก่อน" เถ้าแก่ร้านบะหมี่ตอบรับด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

เมื่อทั้งสามคนนั่งลงที่โต๊ะไม้เก่า ๆ ไม่นานนักบะหมี่เกี๊ยวร้อน ๆ ทั้งสามชามก็ถูกยกมาวางตรงหน้า ส่งกลิ่นหอมกรุ่นยั่วยวน หลี่ซุนกับหลี่หลงต่างก็รีบจับตะเกียบเตรียมจัดการกับบะหมี่ตรงหน้าทันที

"พวกเจ้ากินกันไปก่อนนะ แม่จะออกไปซื้อของสักหน่อย คงต้องใช้เวลาสักนิด" หลี่เหมยพูดขึ้นพลางลุกขึ้นยืน

"แล้วท่านแม่ไม่กินก่อนหรือขอรับ" หลี่หลงถามอย่างแปลกใจ

"ไม่ล่ะ พวกเจ้าแบ่งกันกินเลย" หลี่เหมยยิ้ม

"ขอรับ"

"เจ้าเห็นร้านขนมนั่นไหม กินเสร็จแล้วไปซื้อขนม 1 กล่อง แม่จะเอากลับไปฝากอาจื้อกับอาหยวน แล้วก็ร้านซาลาเปาตรงนั้น ไปซื้อซาลาเปาไส้เนื้อมาสัก 20 ลูก เงิน 400 อีแปะนี่ดูแลให้ดีนะ ซื้อเสร็จแล้วมารอแม่ที่นี่ อย่าลืมจ่ายค่าบะหมี่ด้วยล่ะ"

"ขอรับท่านแม่/ขอรับท่านแม่"

สองพี่น้องรับคำอย่างพร้อมเพรียงและตื่นเต้นกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย พูดจบหลี่เหมยก็เข็นรถออกไปทันที

เมื่อเดินออกมาห่างจากร้านบะหมี่พอสมควรแล้ว นางก็รีบหามุมลับตาคนในตรอกเล็ก ๆ นางรีบเอาสิ่งของต่าง ๆ จากในมิติออกมาใส่ในถุงผ้าที่นางเตรียมมาด้วยอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็จัดใส่ตะกร้าหวายที่พกมาด้วยอย่างเป็นระเบียบ

ในตะกร้าหวายนั้นบรรจุไปด้วย ข้าวสาร 40 จิน หมูเนื้อแดง 10 จิน หมูสามชั้น 4 จิน แป้งสาลี 5 จิน แป้งข้าวจ้าว 5 จิน แป้งข้าวเหนียว 5 จิน เกลือ 5 จิน น้ำส้มสายชู 1 ไห ถั่วเหลือง 10 จิน และผักผลไม้อีกจำนวนหนึ่ง

หลังจากได้ของครบที่ต้องการแล้ว นางก็รีบนำสิ่งของทั้งหมดจัดใส่ในรถเข็นอย่างมิดชิดแล้วเดินกลับไป

เมื่อหลี่เหมยออกมาจากมุมลับตาคน นางก็เห็นพ่อค้าคนหนึ่งกำลังนำกระทะเหล็กใบใหญ่และหม้อมาตั้งขายอยู่ริมทาง นางนึกขึ้นได้ว่าในมิติของนางมีของเหล่านี้อยู่ก็จริง แต่รูปร่างหน้าตาวัสดุของมันดูแปลกตาเกินไป หากนำออกมาใช้คงต้องมีคนสงสัยเป็นแน่

อีกไม่นานก็จะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว การมีหม้อและกระทะเพิ่มสำหรับต้มน้ำโดยเฉพาะก็เป็นเรื่องที่ดี จะได้ไม่ต้องใช้หม้อต้มน้ำร่วมกับหม้อทำอาหาร นางจึงเดินเข้าไปหาพ่อค้าตีเหล็ก

"พี่ชาย กระทะเหล็กนี่ขายอย่างไรหรือ" หลี่เหมยเอ่ยถาม

พ่อค้าตีเหล็กหันมามองนางแล้วตอบด้วยน้ำเสียงห้าว ๆ

"กระทะเหล็กใบละหนึ่งร้อยอีแปะขอรับ ส่วนหม้อใบนี้ก็หนึ่งร้อยอีแปะเช่นกัน"

หลี่เหมยพยักหน้ารับ แล้วทำท่าว่าจะเดินจากไป พ่อค้าตีเหล็กเห็นดังนั้นก็รีบเรียกไว้

"เดี๋ยวก่อนแม่นาง หากแม่นางจะซื้อสองใบ ข้าจะลดราคาให้"

"ข้าต้องการซื้อกระทะสองใบและหม้ออีกหนึ่งใบ ท่านลดให้ข้าเหลือใบละเก้าสิบอีแปะได้หรือไม่" หลี่เหมยต่อรองทันที

พ่อค้าตีเหล็กชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพยักหน้าอย่างยอมรับ

"ได้! ได้สิ! วันนี้แม่นางเป็นลูกค้าคนแรก! งั้นรวมทั้งหมดสามใบ สองร้อยเจ็ดสิบอีแปะ"

หลี่เหมยยิ้มอย่างพึงพอใจ นางจ่ายเงินให้พ่อค้าตีเหล็กไปสองร้อยเจ็ดสิบอีแปะ แล้วสั่งให้เขาเอาของใส่รถเข็นให้ จากนั้นนางก็รีบเดินกลับไปหาร้านบะหมี่อีกครั้ง

เมื่อไปถึงก็พบว่าหลี่ซุนกับหลี่หลงซื้อขนมและซาลาเปามาพร้อมแล้ว

"ท่านแม่มาแล้ว เราซื้อของมาครบแล้วขอรับ" หลี่หลงตะโกนขึ้นอย่างดีใจ

หลี่ซุนเดินเข้ามาหามารดาแล้วยื่นถุงเงินที่เหลือให้

"ท่านแม่ ขนมกล่องนี้แพงมากเลยขอรับ ตั้งหนึ่งร้อยอีแปะ ทั้งที่ซาลาเปาไส้เนื้อลูกใหญ่ตั้งยี่สิบลูกแค่ร้อยยี่สิบอีแปะเอง"

"ไม่เป็นไรหรอกลูก พวกเจ้าควรได้กินของดี ๆ บำรุงร่างกายบ้าง ตั้งแต่พวกเจ้าเกิดมายังไม่เคยลิ้มลองรสชาติขนมแพง ๆ พวกนี้เลย แม่ตั้งใจซื้อให้เป็นรางวัลขอลทุกคน"

นางรับเงินทอนหนึ่งร้อยสี่สิบสี่อีแปะมาเก็บไว้

"ขอบคุณขอรับท่านแม่/ท่านแม่ของข้าดีที่สุด จากนี้ไปข้าจะตั้งใจหาเงินให้ท่านแม่เยอะ ๆ เลยขอรับ" หลี่ซุนกล่าว

"ข้าช่างโชคดีจริง ๆ ที่มีพวกเจ้าทุกคน" หลี่เหมยยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

เมื่อเห็นของเต็มรถเข็น เด็ก ๆ จึงเอ่ยถามอย่างสงสัย

"ท่านแม่ไปซื้ออะไรมาบ้างหรือขอรับ"

"เป็นพวกเสบียงอาหารน่ะ ซื้อหมดไปตั้งเกือบสองตำลึงแน่ะ ราคาของสูงมาก"

นางพูดไปพลางคิดในใจว่าที่จริงแล้วนางไม่ได้เสียเงินซื้อของกินสักอีแปะ มีเพียงกระทะกับหม้อเท่านั้นที่จ่ายเงินซื้อไป แต่การพูดเช่นนี้อย่างน้อยก็ทำให้ลูก ๆ ลดความสงสัยลงไปได้

จากนั้นหลี่เหมยจึงพาเด็ก ๆ เดินกลับบ้าน ระหว่างทางเดินผ่านร้านขายผ้า นางก็บอกลูกชายว่าจะแวะซื้อผ้าสักหน่อย

เมื่อเข้าไปในร้านผ้า คนงานก็มาต้อนรับนางอย่างดี

"แม่นางต้องการผ้าแบบใดหรือเจ้าคะ"

หลี่เหมยเห็นผ้าในร้านมากมายหลายชนิด นางรู้ดีว่าผ้าที่ชาวบ้านนิยมใช้ตัดชุดคือ ผ้าป่าน ที่มีเนื้อหยาบกระด้าง ราคาพับละราว ๆ ห้าร้อยอีแปะ ผ้าหนึ่งพับสามารถตัดเสื้อผ้าได้สี่ถึงห้าชุด

ส่วนผ้าที่ดีขึ้นมาหน่อยก็คือ ผ้าฝ้าย ที่มีเนื้อนุ่มกว่า ราคาจะสูงขึ้นเป็นหนึ่งตำลึงเงินต่อพับ สามารถตัดชุดได้สี่ถึงห้าชุดเช่นกัน

หลี่เหมยเลือกซื้อผ้าฝ้ายสีเข้มสามพับและสีสดใสอีกสามพับ เพราะอีกไม่นานก็จะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว เด็ก ๆ ควรมีเสื้อผ้าใหม่ ๆ ใส่กันหนาว นางยังสั่งชุดเข็ม ด้าย และกรรไกรเพิ่มอีกหนึ่งชุด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel