ป่าเฉียนหู่ - 1
เมื่อไก่ตัวผู้ขันรับอรุณ หลี่เหมยก็ตื่นขึ้นมาแต่เช้าตรู่ นางเดินเข้าครัวพร้อมกับแสงเงินแสงทองที่สาดส่องเข้ากลางลานบ้าน นางหยิบเนื้อหมูที่เหลือจากเมื่อวานออกมา แล้วนำส่วนหนึ่งมาหั่นเป็นชิ้นพอดีคำก่อนจะนำไปตุ๋นกับถั่วลิสงที่เอาออกมาจากมิติ
และต้มโจ๊กข้าวกล้องใส่ลูกเดือยที่คัดสรรอย่างดี นอกจากนี้ยังต้มน้ำขิงใส่ไข่และน้ำตาลไว้ให้ลูกสะใภ้บำรุงน้ำนม นางแอบเติมน้ำพุวิเศษเข้าไปอีกเล็กน้อยเพื่อช่วยกระตุ้นน้ำนมให้สะใภ้ เมื่อคืนนางเห็นแล้วว่าหลานสาวตัวน้อยกินจุมาก
หลังจากเตรียมอาหารเสร็จ นางก็เรียกหลี่ซานที่เพิ่งตื่น
"อาซาน ลูกมาช่วยแม่หน่อย"
หลี่ซานรีบเดินเข้ามาในครัวด้วยใบหน้าที่งุนงง
"ขอรับท่านแม่"
"นี่คือโจ๊กกับไข่ต้ม ส่วนนี่คือน้ำขิงกับไข่ต้มอีกสองฟอง เอาไปให้เสี่ยวม่ายในห้องนะ บอกให้นางกินให้หมด ตอนเที่ยงค่อยกินหมูตุ๋นถั่วลิสง" หลี่เหมยชี้ไปที่อาหารในถ้วย
"ขอรับท่านแม่"
หลี่ซานรับถ้วยโจ๊กและถ้วยน้ำขิงมาอย่างระมัดระวัง แล้วเดินเข้าไปในห้องของภรรยา
ระหว่างนั้นเอง หลี่หลินก็รีบเข้ามาทำอาหารให้ทุกคนต่อ เด็กสาวทำผัดผักใส่เนื้อหมูที่มารดาหั่นไว้ให้หนึ่งชามใหญ่ นางยังเอาเครื่องในหมูตุ๋นที่เหลืออยู่มาอุ่นอีกครั้ง กลิ่นหอมของอาหารลอยไปทั่วทั้งบ้าน
"อาหลิน วันนี้ทำอะไรกิน กลิ่นหอมเชียว" หลี่เหมยถามลูกสาวด้วยรอยยิ้ม
"ผัดผักใส่เนื้อหมูเจ้าค่ะท่านแม่ แล้วก็มีเครื่องในหมูตุ๋นที่เหลือจากเมื่อวาน" หลี่หลินตอบ
หลี่เหมยพยักหน้าอย่างพึงพอใจ
"ดีมาก"
นางหยิบเนื้อหมูที่ทำเป็นหมูแดดเดียวออกมา แล้วนำไปย่างบนเตาถ่าน ส่วนหนึ่งแบ่งไปให้เสี่ยวม่าย ส่วนที่เหลือก็เอาไว้ให้ลูก ๆ กิน
"อาหลิน...หมูแดดเดียวนี่แบ่งไปให้พี่สะใภ้ของเจ้าด้วยนะ ส่วนที่เหลือเราจะกินกันเอง"
"เจ้าค่ะท่านแม่" หลี่หลินรับคำ
จังหวะที่หลี่หลินเผลอ หลี่เหมยก็เอาน้ำพุวิเศษออกมาผสมกับน้ำดื่มที่นางต้มใส่กาใหญ่เอาไว้ เพื่อบำรุงร่างกายคนในบ้าน ระหว่างนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากหน้าบ้าน
"น้องสะใภ้ทำอะไรแต่เช้าเลย"
หลี่เฉียงเอ่ยถามพลางเดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับหลี่เต๋อ
"กำลังทำกับข้าวเจ้าค่ะพี่ใหญ่ พวกพี่กินข้าวมารึยัง จะกินอะไรรองท้องก่อนไปไหมเจ้าคะ" หลี่เหมยถามอย่างเป็นกันเอง
"เช้าขนาดนี้พวกเรายังไม่หิวหรอก พวกข้ากำลังจะพาหลาน ๆ ไปขุดดินเหนียวที่เชิงเขา สายหน่อยค่อยว่ากัน แล้วพวกเด็ก ๆ ล่ะ"
หลี่เฉียงถามต่อ สายตาก็มองรอบ ๆ แต่ไม่เห็นหลาน ๆ
"กำลังเข้าไปเตรียมตัวเจ้าค่ะ นั่นออกมาพอดีเลย" หลี่เหมยตอบ
"ท่านลุง พวกเราพร้อมแล้วขอรับ"
หลี่ซานเอ่ยขึ้นระหว่างเดินไปเข็นเอารถเข็นที่เตรียมไว้ ในนั้นเต็มไปด้วยอุปกรณ์สำหรับขุดดิน หลี่หลงกับหลี่ซุนก็เดินตามออกมาติด ๆ
"งั้นก็ไปกันเลย ลุงก็เอารถเข็นมาเหมือนกัน" หลี่เฉียงพูดขึ้น
"ขอรับ" หลี่ซานรับคำ
"อาซุน เอาหมั่นโถวกับน้ำดื่มไปด้วยลูก หิวเมื่อไหร่ก็กินรองท้องเลย แม่ห่อให้ห้าลูก เผื่อท่านลุงทั้งสองของเจ้าด้วย" หลี่เหมยกำชับลูกชาย
"ขอรับท่านแม่" หลี่ซุนรับห่อหมั่นโถวแล้วใส่ไว้ในรถเข็น
ทั้งสามคนมุ่งหน้าไปที่เชิงเขา เพื่อไปขุดเอาดินเหนียวที่นั่น ส่วนสถานที่ที่พวกเขาจะทำเตาเผาถ่านก็คือลานว่างหน้าบ้านนั่นเอง ทำไว้ใกล้บ้านจะได้สะดวกต่อการดูแล และอยู่เป็นเพื่อนช่วยดูแลเสี่ยวม่ายกับลูก ๆ ได้
"อาหลิน ไปเรียกอาจื้อกับอาหยวนมากินข้าวกันเถอะลูก แม่ยังต้องขึ้นไปสำรวจบนเขาอีกสักหน่อย"
ใจจริงของนางก็คืออยากขึ้นไปสำรวจเขาเผื่อจะเจอของดีที่สามารถทำเงินได้ แต่นางก็อยากจะไปหาจับงูไปขาย เหลือเวลาเพียงเดือนกว่า ๆ แล้ว นางอยากเก็บเงินเอาไว้ หากจะซื้อบ้านในเมืองได้สักหลังก็คงดี
ช่วงนี้เป็นจังหวะที่เหมาะที่สุด ผู้คนหนีความแห้งแล้ง บ้านในเมืองก็ปล่อยขายในราคาถูกอยู่หลายหลัง นางได้ยินมาจากคนบังคับเกวียนคุยกัน ไม่แน่อนาคตอาจจะได้เปิดร้านขายของ หรือทำกิจการเล็ก ๆ
ระหว่างกินข้าว หลี่หลินจึงพูดกับมารดา
"ท่านแม่ให้ลูกไปด้วยดีหรือไม่เจ้าคะ ลูกไม่อยากให้ท่านแม่ขึ้นเขาคนเดียว"
"แล้วพี่สะใภ้ของเจ้าเล่า ใครจะดู?" หลี่เหมยถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วง
"อาจื้อจะดูแลท่านแม่เองขอรับท่านย่า อาจื้อโตแล้ว เรื่องแค่นี้สบายมากขอรับ" ซางจื้อเอ่ยขึ้นด้วยความตั้งใจ
"หยวนหยวนช่วยพี่ชายขอรับต้านย่า"
หลี่หยวนที่ยังพูดไม่ชัด จากคำว่า 'ท่านย่า' ก็เพี้ยนเป็น 'ต้านย่า' หลี่เหมยได้ยินแบบนั้นก็อดเอ็นดูหลานชายตัวน้อยทั้งสองไม่ได้
"อีกเดี๋ยวพี่ชายกับท่านลุงก็กลับมาแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาหรอกเจ้าค่ะท่านแม่ ประตูที่ซ่อมใหม่ก็แน่นหนา ให้อาจื้อลงกลอนให้ดีก็พอ" หลี่หลินพูดอีกครั้ง
"เอาอย่างนั้นก็ได้" หลี่เหมยพยักหน้ายอมรับ
"แต่ว่า...อาจื้อ หลานลงกลอนประตูให้ดี ถ้าไม่ใช่เสียงของคนในบ้าน หรือครอบครัวท่านย่าทวด เจ้าห้ามเปิดประตูให้ใครเด็ดขาด เข้าใจหรือไม่?"
"ขอรับ อาจื้อจะทำตามที่ท่านย่าบอก" ซางจื้อรับปากอย่างหนักแน่น
