บ้านหลี่ - 2
หลี่หลงรีบรายงานด้วยความตื่นเต้น ทันทีที่หลี่เหมยได้ยินคำว่า "รัง" ก็ต้องหน้าซีด นางดุลูกชายทั้งสามไปเล็กน้อย
"ใครสอนให้พวกเจ้าตามเข้าไปถึงรังงู! มันอันตรายมากนะ! ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับพวกเจ้า แม่จะทำอย่างไร!"
ทั้งสามคนต่างก็ก้มหน้าลงสำนึกผิด หลี่เหมยถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลง
"ลูก...ลูกขอโทษขอรับท่านแม่" หลี่ซุนเป็นคนแรกที่ก้มหน้ารับผิด
"เป็นข้าเองขอรับท่านแม่ ข้าไม่รอบคอบ พาน้อง ๆ ไปในที่อันตราย ท่านแม่ลงโทษข้าเถอะขอรับ"
หลี่ซานผู้เป็นพี่ใหญ่รีบก้าวออกมารับผิด
"เฮ้อ เอาเถอะ ๆ รีบไปล้างมือให้สะอาด แล้วเอาหมูพะโล้กับยำแตงกวาที่แม่ทำไปส่งให้ท่านย่า แล้วค่อยกลับมากินข้าวที่บ้าน"
ครั้นจะดุด่าต่อไปนางก็อดสงสารไม่ได้ นางเป็นโลกทั้งใบของพวกเขา ที่พวกเขาทำแบบนั้นก็เพราะอยากให้นางภูมิใจและมีความสุข หลี่เหมยจึงตัดสินใจว่าจะค่อยบอกค่อยสอนกันไปเป็นเรื่อง ๆ
"ขอรับท่านแม่"
ลูก ๆ ของนางรีบพากันไปล้างมืออย่างกระตือรือร้น จากนั้นหลี่ซานก็เป็นคนรับหน้าที่นำกับข้าวไปส่งบ้านย่า พร้อมกับข้าวสารหนึ่งถุงและแป้งสาลีอีกหนึ่งถุงที่หลี่เหมยเตรียมไว้ให้
ในความทรงจำของร่างเดิม แม่สามีและครอบครัวของสามีเคยเป็นที่พึ่งพิงของเด็ก ๆ ในยามที่นางไม่สนใจลูก หลี่เหมยจึงรู้สึกว่าการดูแลคนในครอบครัวของสามีก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่นางควรทำ
เมื่อหลี่ซานไปถึงบ้านของท่านปู่และท่านย่า ก็เห็นแม่เฒ่าหลี่กำลังนั่งเย็บปะเสื้อผ้าเก่า ๆ อยู่หน้าบ้าน ส่วนพ่อเฒ่าหลี่กำลังนั่งแกะสลักไม้ด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม
"ท่านย่าขอรับ ท่านแม่ให้ข้าเอากับข้าวแล้วก็เสบียงพวกนี้มาส่งให้ท่าน"
แม่เฒ่าหลี่ได้ยินดังนั้นก็เกิดความสงสัย เมื่อวานก็ครั้งหนึ่งแล้วที่หลานชายนำกับข้าวมาให้ วันนี้ก็ยังมาอีก
"มันเกิดอะไรขึ้นกับแม่ของเจ้าหลี่ซาน เล่าให้ย่าฟังหน่อยเถอะ ผีเข้านางรึอย่างไร เหตุไฉนนางจึงเปลี่ยนไปเช่นนี้ เอากับข้าวให้ย่า แล้วเจ้ากับน้องได้กินหรือไม่?"
"ข้าไม่รู้ว่าท่านย่าจะเชื่อหรือไม่" หลี่ซานลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
"พูดมาเถอะ"
"ท่านแม่บอกว่าตอนที่นางหมดสติไปเมื่อคืนก่อนโน้น ท่านพ่อมาตำหนินางในฝัน แล้วบอกให้นางเปลี่ยนตัวเองใหม่ ให้ครอบครัวรักใคร่กลมเกลียว บ้านของเราถึงจะโชคดีขึ้นเรื่อย ๆ หลังจากนั้นท่านแม่ก็พาพวกเราจับงูเข้าไปขายให้ร้านยา พอได้เงินมาก็ซื้อเสบียงมาเก็บไว้"
"..."
"ท่านแม่เปลี่ยนไปจริง ๆ ขอรับท่านย่า เมื่อวานบ้านหวังมาขอเงินขอเสบียง ก็ถูกท่านแม่ไล่ตะเพิดกลับไปไม่เป็นท่าเลยขอรับ"
ทุกคนในบ้านหลี่ต่างก็แทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน พ่อเฒ่าหลี่จึงบอกว่า...
"นางเปลี่ยนตัวเองได้ก็ดีแล้ว ว่าแต่งูมันขายได้จริง ๆ หรือ"
"ขายได้จริง ๆ ขอรับท่านปู่ เห็นอาหลงกับอาซุนที่เข้าเมืองไปกับท่านแม่บอกว่า วันนี้ท่านแม่ขายงูได้เงินมาหลายตำลึง เลยได้ซื้อเสบียงกับผ้ามาตัดชุดให้พวกเราขอรับ วันนี้ข้ากับน้อง ๆ ก็เลยไปจับมาอีกสิบห้าตัว พรุ่งนี้ท่านแม่น่าจะเอาไปขายในเมืองขอรับ"
หลี่เฉียง ซึ่งเป็นน้องชายของพ่อหลี่ซานได้ยินแบบนั้นจึงพูดขึ้นว่า...
"พวกเจ้าต้องระวังให้ดีนะอาซาน อย่าได้ประมาทเชียว"
"ขอรับท่านลุง เช่นนั้นข้าขอตัวก่อนนะขอรับ"
หลี่ซานโค้งคำนับให้ทุกคนในบ้าน ก่อนจะเดินออกจากบ้านหลี่ไป
หลังจากหลานชายเดินออกจากบ้านไปแล้ว แม่เฒ่าหลี่ก็จ้องมองถุงข้าวและอาหารด้วยสีหน้าเป็นกังวลใจ
"ขอให้น้องสะใภ้เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นนะเจ้าคะท่านแม่ ข้าสงสารเด็ก ๆ"
หลี่ฮัว ภรรยาของหลี่เฉียงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสร้อย
"ข้าก็หวังเช่นนั้น" แม่เฒ่าหลี่พึมพำ
พอหลี่ซานกลับมาถึงบ้านก็พบว่าทุกคนจัดโต๊ะเสร็จแล้ว และนั่งรอเขาอยู่
"ท่านพ่อเร็วเข้าขอรับ" อาจื้อเรียกพ่อของเขาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
"ดูเจ้าตัวเล็กของข้าสิ น้ำลายไหลยืดไปถึงไหนแล้ว"
หลี่เหมยเอ่ยแซวหลานชายที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ทุกคนต่างก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข เมื่อทุกคนมาพร้อมหน้านางก็ลงมือตักหมูพะโล้เป็นคนแรก จากนั้นทุกคนก็รีบตักหมูพะโล้ใส่ถ้วยแล้วกินอย่างเอร็ดอร่อย ตัดเลี่ยนด้วยยำแตงกวาที่มีรสเผ็ดเล็กน้อย กรอบอร่อย กลิ่นหอม กินรแล้วรู้สึกสดชื่น
"ท่านแม่ขอรับ! หมูพะโล้ใส่ไข่นี่อร่อยมากเลยขอรับ" หลี่หลงเอ่ยชม
"ใช่ขอรับท่านย่า! หมูนุ่มละลายในปากเลยขอรับ" ซางจื้อพูดเสริมด้วยน้ำเสียงที่สดใส
"อร่อยกว่าที่ข้าเคยกินมาทั้งชีวิตเลยขอรับ" หลี่ซุนพูดด้วยความประทับใจ
หลี่เหมยยิ้มอย่างอบอุ่น นางตักไข่กับหมูสามชั้นให้เสี่ยวม่ายแล้วบอกว่า
"บำรุงให้เยอะหน่อยนะเสี่ยวม่าย เสร็จแล้วอย่าลืมกินกล้วยด้วยนะ แม่ซื้อมาบำรุงเจ้าโดยเฉพาะ พวกเจ้าก็กินได้คนละลูก ที่เหลือต้องเอาไว้ให้พี่สะใภ้ของพวกเจ้า"
"ขอรับท่านแม่"
"เจ้าค่ะท่านแม่"
"ขอบคุณเจ้าค่ะท่านแม่"
"ขอรับท่านย่า"
เสียงของทุกคนประสานกัน เสี่ยวม่ายขอบตาแดงแทบจะร้องไห้ สองท้องที่ผ่านมา นางไม่เคยได้รับการดูแลที่ดีขนาดนี้มาก่อน ยังดีที่สามีของนางไม่ทิ้งห่างไปไหน นางจึงผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาได้
