คนบ้านหวัง - 1
เสียงปะทะของไม้เรียวกับแผ่นหลังของหลี่หลงยังคงดังก้องอยู่ในหู แต่หลี่เหมยไม่มีเวลาสนใจเรื่องเหล่านั้นอีกแล้ว ท้องที่ว่างเปล่ามานานหลายวันทำให้เธอรู้สึกอ่อนเพลียอย่างถึงที่สุด หลังจากที่จัดการกับเสบียงในมิติเสร็จเรียบร้อย นางก็ถือตะกร้าไข่ออกมาพร้อมกับถุงข้าวสารที่เต็มแน่นจนล้นมือ
ลูกสาวและลูกสะใภ้ที่ยืนรออยู่หน้าห้องครัวถึงกับเบิกตากว้างด้วยความตกใจ พวกนางมองดูถุงข้าวสารในมือของหลี่เหมยด้วยความประหลาดใจ
"เหตุใดท่านแม่เอาข้าวออกมาเยอะขนาดนี้เจ้าคะ"
เสี่ยวม่ายเอ่ยถามด้วยความสงสัย ปกติแล้วแม่สามีของนางจะให้ข้าวฟ่างมาต้มเพียงแค่หนึ่งหรือสองกำมือต่อมื้อเท่านั้น แต่ครั้งนี้เป๋นข้าวขาวเชียวนะ ที่เห็นนั้นน่าจะอยู่ราว ๆ ห้าถึงหกจินเลยทีเดียว
นี่มันเกิดอะไรขึ้น!
"เอามาให้ต้มไง ทำเป็นข้าวต้มสามมื้อ กินร้อน ๆ อย่ากินของเหลือ เดี๋ยวจะไม่สบาย ส่วนไข่นี่ แม่จะทำเป็นไข่น้ำ อาหลินเจ้าตั้งหม้อเล็กอีกสักใบนะ น้ำร้อนแล้วเรียกแม่ด้วย"
หลี่เหมยตอบกลับด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ หลี่หลินพยักหน้าอย่างว่าง่ายด้วยความรู้สึกที่ท่วมท้น นอกจากจะได้กินข้าวขาว วันนี้พวกเขายังจะได้กินไข่อีกด้วย ช่างน่าตื่นเต้นเสียจริง
"เจ้าค่ะท่านแม่"
ทุกคนต่างก็งงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้แต่น้ำเสียงและคำแทนตัวที่ต่างออกไป พวกเขาต่างมองหน้ากันไปมาอย่างไม่เข้าใจ ปกติแล้วข้าวสารกับไข่เหล่านี้แม่ของพวกเขามักจะเก็บเอาไว้ให้กับบ้านเดิม ไม่เคยมีครั้งไหนที่นางจะนำออกมาให้พวกเขากินอย่างเต็มที่เช่นนี้ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเอ่ยถามอะไรอีกนอกจากพากันทำงานของตัวเองไปอย่างเงียบ ๆ
ในขณะที่ทุกคนกำลังยุ่งกับงานของตัวเองอยู่นั้น หลี่เหมยก็เห็นหลานชายทั้งสองคนคือ ซางจื้อและซางหยวนกำลังเก็บกิ่งไม้แห้งเล็ก ๆ อยู่หน้าประตูบ้าน และพูดคุยหยอกล้อกันเงียบ ๆ ตามประสาเด็ก นางจึงยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดูในความไร้เดียงสา ก่อนจะเดินออกไปดูพวกเขา
แต่แล้วสายตาก็พลันไปปะทะเข้ากับเงาร่างของกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่กำลังเดินตรงเข้ามายังบ้านของนาง คนกลุ่มนั้นนำโดยหญิงวัยกลางคนผู้มีใบหน้าบึ้งตึง นางหวัง มารดาของหลี่เหมยนั่นเอง
"อาเหมย! ไหนละเงินที่ข้าบอกให้เตรียม เสบียงอาหารอีก! หลานชายกับพี่ชายของเจ้ารอใช้เงินอยู่รู้หรือไม่ อย่ารอช้า รีบไปหยิบมา!!"
นางหวังมาถึงก็ออกปากแผดเสียงสั่งทันที
เสียงตะโกนที่แหลมสูงทำเอาซางจื้อกับซางหยวนถึงกับสะดุ้งด้วยความตกใจ ใบหน้าเล็ก ๆ ของพวกเขาซีดเผือดลงในทันทีด้วยความหวาดกลัว
หลี่เหมยไม่รอช้า นางยื่นมือไปดึงหลานชายทั้งสองคนมาไว้ด้านหลังของนางอย่างรวดเร็ว เพื่อปกป้องพวกเขาจากคนกลุ่มนี้ แล้วนางก็หันไปมองหาอาวุธที่พอจะหยิบฉวยมาไว้ในมือได้บ้าง สายตาของนางกวาดไปรอบ ๆ บริเวณบ้าน ก่อนจะคว้าไม้ไผ่แห้งท่อนหนึ่งมาถือไว้ในมือ
ในขณะเดียวกันนั้นเอง ลูก ๆ ของนางที่ได้ยินเสียงดังมาจากด้านนอก ก็รีบพากันออกมาจากบ้านเพื่อมายืนหนุนหลังมารดาของพวกเขาเอาไว้ เสี่ยวม่ายประคองท้องที่กำลังใกล้คลอดของนางเอาไว้แน่น หลี่ซาน หลี่หลง และหลี่ซุนต่างพากันมายืนด้านหลังหลี่เหมยด้วยสีหน้าเคร่งเครียด พร้อมที่จะปกป้องมารดาในทุกสถานการณ์
ลึก ๆ แล้วพวกเขาก็หวังว่าแม่ที่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นจะเป็นแบบนั้นได้นานหน่อย ไม่ใช่เห็นว่าครอบครัวเดิมมาหาก็จะขนของให้พวกเขาจนหมด
หลี่เหมยมองหน้ามารดาของนาง นางหวัง ด้วยแววตาที่ว่างเปล่าก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
"มาที่นี่ทำไม?"
"อะไรของเจ้า! ทำไมถึงพูดจาเช่นนี้! เจ้าต้องเอาเงินและเสบียงมาให้ข้า! ไม่อย่างนั้นพี่ชายกับหลานของเจ้าจะกินอะไร โดนเฉพาะหลานชายของเจ้ายังรอเงินเพื่อเดินทางไปสอบอยู่นะ เจ้าลืมไปแล้วหรือ!"
นางหวังแผดเสียงอย่างโมโห
"ข้าไม่มี ถึงมีก็ไม่ให้ หวังต้าอายุ 45 แล้ว ยังทำตัวหน้าไม่อายมาขอเงินขอข้าวคนอื่นกิน ใจคอจะให้คนอื่นเลี้ยงดูไปจนตายเลยรึยังไง แขนขาก็มีครบ อยากได้อะไรก็ควรหาเอาเอง แล้วหวังจงก็เหมือนกัน เขาไม่ใช่ลูกของข้า เขาอยากเรียนก็ให้พ่อแม่ของเขาทำงานหาเงินให้ถึงจะถูกต้อง"
ทุกคนต่างก็อ้าปากค้างเมื่อได้ยินสิ่งที่นางพูด มันช่างเป็นถ้อยคำที่ทิ่มแทงเข้าไปในใจของแม่เฒ่าหวัง ผู้ที่เคยสั่งการลูกสาวหน้าโง่ได้ทุกอย่าง แต่การต่อต้านของหลี่เหมยครั้งนี้คืออะไรกัน นางไม่เคยแสดงท่าทีแข็งกร้าวเช่นนี้มาก่อน
"อะไรนะ! เจ้ากล้าพูดเช่นนี้กับข้าหรือ! จะ..เจ้ามันลูกอกตัญญู! เจ้ามันลูกสารเลว!"
"ฮึ! ลูกอกตัญญูหรือ" หลี่เหมยหัวเราะเยาะ
"..."
"ข้าถามหน่อยเถอะ...ตั้งแต่ข้าแต่งเข้าบ้านหลี่ พวกท่านเคยให้อะไรข้าบ้าง! ลูกชาย ลูกสาวของข้าต้องอดมื้อกินมื้อ เพื่อที่จะมีเงินไปส่งให้หลานชายตัวดีของพวกท่านได้เรียนหนังสือ!"
"..."
"พวกท่านเคยถามไถ่ถึงความสุขความทุกข์ของพวกข้าหรือไม่ ดีแต่พูดจาหลอกล่อให้ความใหวัง เรียกร้องเอาข้าวของเงินทองจากข้าไม่หยุดหย่อน! นี่หรือคือสิ่งที่คนเป็นพ่อเป็นแม่ควรทำ! จากวันนี้ไป...ข้าไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับพวกท่านอีก ตัดผ้าเหมือนตัดสัมพันธ์ จากนี้ไปเราไม่เกี่ยวข้องกันอีก"
แคว่ก หลี่เหมยตัดชายเสื้อแทนการตัดสัมพันธ์ คำพูดและการกระทำของหลี่เหมยทำให้ทุกคนในครอบครัวหวังถึงกับเงียบกริบ พวกเขาไม่เคยคิดเลยว่าหลี่เหมยจะกล้าพูดจาแบบนี้ออกมา ปกติแล้วหลี่เหมยเป็นคนหัวอ่อน พ่อแม่บอกอะไรก็เชื่อฟังทุกอย่าง
"เจ้า! เจ้าเป็นใคร! เจ้าไม่ใช่ลูกสาวของข้า! ลูกสาวของข้าไม่มีทางพูดจาเช่นนี้กับข้า!"
นางหวังตะโกนออกมาด้วยความตกใจ
"ข้าคือหลี่เหมย! และข้าคือคนที่พวกท่านไม่เคยเห็นค่า! ที่ผ่านมาข้าวของเงินทองที่ข้าให้พวกท่านไป ข้าจะไม่เอาคืน แต่จากนี้ไปพวกท่านอย่ามายุ่งกับข้าและลูก ๆ ของข้าอีก ไม่อย่างนั้นข้าจะเข้าไปที่สำนักศึกษา แล้วป่าวประกาศให้ทุกคนรู้ว่าครอบครัวหวังเป็นยังไง ให้อนาคตของหวังจงดับมอดลงทันที!"
คำขู่ของหลี่เหมยทำให้ทุกคนในครอบครัวหวังถึงกับหน้าซีดเผือด หวังต้า พี่ชายคนโตของหลี่เหมยรีบเข้าไปจับแขนของมารดาเอาไว้แน่น
"ท่านแม่! อย่าไปต่อความยาวสาวความยืดกับนางอีกเลยขอรับ! หากนางทำเช่นนั้นจริง อนาคตของลูกชายของข้าจะต้องจบสิ้นลงแน่ๆ!"
