บทที่ 10
บทที่ 10
“เฮ้ย ! ใครอยู่ในนั้นน่ะ ออกมานะ ไม่งั้นข้ายิงไส้แตก” เสียงหนึ่งดังขึ้น
ทั้งคู่มองหน้ากันทันทีราวกับปรึกษากันทางกระแสจิต และบังเอิญดันใจตรงกัน
“ชู่ ! ผมจะออกไปเอง” รพีฉายกระซิบขึ้นเบาๆ
“ฉันไปเอง เผื่อเป็นคนที่เกาะ” อุรัสมาบอก
“แล้วถ้าไม่ใช่ล่ะ”
“ไม่ใช่คุณก็ออกไปช่วยฉันไง” หญิงสาวเถียง
“เฮ้อ...มันอันตรายนะรู้ไหม?” เขาถามดุๆ
“อันตรายน่ะรู้แล้วย่ะ” สาวแก่นเถียงอย่างไม่ยอมแพ้
“ไม่ต้องเกี่ยงกัน พวกเอ็งคือคนที่เสนอหน้าไปรับกระสุนที่เกาะงูใช่ไหม? งั้นก็ตายซะ” เสียงหนึ่งพูดขึ้นในระยะประชิด ทำเอาคนฟังใจหล่นไปอยู่ตาตุ่มกันทั้งคู่ ร่างกายที่ถูกฝึกฝนมาเป็นเวลานานทำให้สัญชาตญาณไวกว่าความคิด
รพีฉายพุ่งไปข้างหน้าทันทีที่พอจะจับทางได้ว่าคนร้ายอยู่ตรงไหน เสียงชกต่อยดังขึ้นทันที พร้อมกับเสียงหอบหายใจ หญิงสาวคว้าก้อนหินขนาดใหญ่มาถือไว้เพื่อป้องกันตัว
“ผู้กองรพีฉาย คุณอยู่ตรงไหน?” หญิงสาวถามขึ้น
“อย่าขยับ !!” เขาตอบกลับมาเสียงแข็ง แต่หญิงสาวก็ยังคงความดื้อดึงอย่างเสมอต้นเสมอปลาย เธอลุกขึ้นยืน และแตะมือเล็กๆไปที่ผนังถ้ำ แล้วค่อยๆเดินออกไปหาแสงสว่าง
“อัน ขอร้องล่ะ มันไม่ได้มีแค่คนเดียว” รพีฉายขอร้องด้วยน้ำเสียงดุดัน
“ฉันรู้แล้วน่ะ” อุรัสมาเริ่มเห็นคนร้ายหลายคนก็ตั้งท่าต่อสู้ทันที
“เด็กดื้อเอ๊ย”
“อย่าบ่นเป็นคนแก่เลยขอร้องล่ะ ทางซ้าย !!!” หญิงสาวบอกเขา แล้วหันไปชกเข้าเต็มเบ้าตาชายฉกรรจ์ตรงหน้า
“จริงๆ ได้บู๊กับคุณก็สนุกดีนะ” เขาบอกยิ้มๆ แล้วแย่งปืนจากคนร้ายมาได้หนึ่งกระบอก
ปัง !!!
“มันสนุกตรงไหนไม่ทราบ ระวัง !!!” เธอแย่งรีบมาได้อีกหนึ่งกระบอก แล้วหันไปบอกเขาเสียงดัง
“ไปกันเถอะ พวกมันมากันเยอะแล้ว” ชายหนุ่มบอก แล้ววิ่งฝ่าวงล้อมชายฉกรรจ์ร่างบึกบึนเข้าไปคว้าข้อมือเล็กไว้ “วิ่งขึ้นไปบนเขากัน” เขาบอก
“ยังจะคิดหนีกันอีกเหรอ ถือว่าเก่งมาก เก่งจริงๆ ทหารเรือไทยนี่ก็บู๊มันส์เหมือนกันนะ” เสียงชายชราดังขึ้น และเขายังตบมือชื่นชมอย่างเสแสร้ง
“ผู้ใหญ่จง...” หญิงสาวพูดขึ้นอย่างเจ็บใจ น้ำลายในคอเหนียวหนืดสุดๆ ไม่คิดว่าคนที่ทางการไว้ใจ จะเป็นสายให้ศัตรู
“ใช่แล้วนางสาว ข้าก็พ่อเอ็งไง” เขายิ้มเยาะ
“ลูกแกไม่ได้ตายเพราะพวกฉัน แต่ตายเพราะแก บอกมันไปสิผู้ใหญ่” เสียงมิสเตอร์แวนดังขึ้น ทำเอาชายชราแอบทำสีหน้าไม่พอใจแวบนึง
“ไปตายเอาดาบหน้าแล้วกันเนอะผู้กอง” อุรัสมากระซิบข้างหูเขา แล้วมือของทั้งคู่ก็ประสานกัน
“อือ” เขาพูดในลำคอ แล้วออกแรงวิ่งไปพร้อมกัน
ปัง ! ปัง ! ปัง ! ปัง !
เสียงปืนดังไล่หลังมาติดๆ แต่พลังงานในการเอาตัวรอดตอนจนมุมมันทำให้พวกเขาวิ่งเร็วกันเสียยิ่งกว่าลมกรด ฉายาของชายหนุ่มที่ได้มาตั้งแต่เรียนอยู่โรงเรียนนายเรือเป็นเครื่องหมายการันตีฝีเท้าเขาเป็นอย่างดี ‘ม้าบิน’ ส่วนหญิงสาวที่สับขารวดเร็วสูสีกันก็ได้ฉายาว่า ‘เสือปืนไว’ แน่นอนว่านอกจากยิงปืนแม่นเหมือนจับวาง ฝีเท้าเธอยังว่องไวราวกับเสือ
“ทำไมคุณวิ่งเร็วขนาดนี้เนี่ย วิ่งหนีผัวเขาเวลาแอบไปเป็นชู้บ่อยล่ะสิ” อุรัสมาแกล้งพูดขึ้น
“โถ่ !! นี่ปากเหรอคุณ” รพีฉายบ่น
“ใช่สิ นี่ปาก”
“แล้วคุณล่ะ วิ่งไวใช่เล่นนะเนี่ย” เขายอกย้อนบ้าง
“ก็ฉันน่ะฉายาเสือปืนไว นอกจากยิงปืนแม่น แล้วฉันก็วิ่งไวด้วย จบนะ !!!”
“แล้วถ้าผมไม่จบล่ะ” เขาพูด แล้วหันไปยิงปืนใส่คนร้ายที่วิ่งตามมา
ปัง !!
“นั่นก็เรื่องของนาย”
ปัง !! ปัง !!
“คุณยิงปืนแม่นสมฉายาจริงๆ” รพีฉายเอ่ยชม
“ขอบคุณ”
“ถ้าเรามีลูกด้วยกันนี่ ลูกเราอาจจะวิ่งเร็วที่สุดในโลกก็ได้” ชายหนุ่มผู้กวนประสาทสุดๆ พูดขึ้นอย่างยั่วโทสะ
“เก็บปากไว้กินข้าวเถอะผู้กอง” อุรัสมาแผดเสียงใส่ทันที
ทั้งคู่หยุดชะงักเมื่อทางข้างหน้าเป็นหน้าผาสูงชัน แถมคนร้ายยังไล่ตามหลังมาเรื่อยๆ สองหนุ่มสาวมองหน้ากัน ความบ้าบิ่นมีมากมายเมื่อถูกรวมคูณสอง เขาจับมือเล็กเอาไว้แน่น และเธอก็จับมือเขาเหมือนกัน
“ผมรู้ว่ายังไงพวกคุณก็ต้องโดดลงจากหน้าผา เหมือนในละครน้ำเน่า” เสียงมิสเตอร์แวนปรบมือชอบใจ
“เสียใจด้วย คนของเรารองมศพพวกแกอยู่ข้างล่างแล้ว” ผู้ใหญ่จงพูดต่อ
“ใครบอกว่าเราจะโดด” แขนแกร่งคว้าเถาวัลย์เส้นหน้า คนข้างๆทำตามทันที “พอดีผมชอบเป็นทาร์ซาน” ว่าแล้วทั้งคู่ก็วิ่งตรงออกไปทันที แรงเหวี่ยงแกว่งให้พวกเขาลอยออกไปไกล
“ถ้าพวกมันยิงเถาวัลย์ล่ะ” อุรัสมาถามขึ้น
“มันยิงอยู่แล้ว” รพีฉายยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างรู้ทัน อ้อมแขนแข็งแกร่งขยับไปโอบกอดร่างบางเอาไว้ แล้วปล่อยมือจากเถาวัลย์ที่ถูกยิงจนเกือบขาด ทำให้แรงเหวี่ยงน้อยลง
“นี่ยิ่งกว่าหนังบู๊ล้างผลาญอีก” หญิงสาวบอกขำ แล้วคว้าเถาวัลย์เส้นใหม่ที่อยู่ใกล้มือ “พร้อมนะ ^^” ร่างบางยิ้ม แล้วคว้าเถาวัลย์อีกอัน
ปัง ! ปัง !
รพีฉายทำหน้าที่ยิงปืนใส่คนร้ายที่โหนเถาวัลย์ตามมาติดๆ
“นอกจากคุณจะเป็นเสือ แล้วคุณยังเป็นลิงอีกด้วย” รพีฉายล้อเลียน
“ถ้าไม่อยากตกลงไปตาย ก็หุบปากเถอะ” หญิงสาวขู่ฝ่อๆใส่
“คุณเป็นงูด้วยสินะ แต่งูไม่น่ากลัวงูด้วยกัน”
“ไอ้ผู้กองนี่” อุรัสมาเปลี่ยนเถาวัลย์อย่างหงุดหงิด และเหวี่ยงเถาวัลย์อันเก่าแรงๆ ไปโดนชายฉกรรจ์สามคนข้างหลัง
“สุดยอดไปเลย” ชายหนุ่มชื่นชม และคว้าเถาวัลย์อีกอันไว้ด้วย “ลงไปพร้อมกันนะ” เขาบอก
“อือ”
ทั้งคู่ปล่อยมือจากเถาวัลย์เส้นหนา แล้วลงสู่เบื้องล่าง เสียงน้ำกระเซ็นดังไปทั่วทิศทาง
หญิงสาวหมดสติทันทีที่ร่างบางลงสู่ผิวน้ำ....
