บท
ตั้งค่า

ep2

“เดี๋ยวนั่งร่วมสัมมนาไปก่อน ฉันขึ้นบรรยายภาคเช้าเท่านั้น หลังจากนั้น ฉันจะพาไปดูหลุมขุดค้น ที่นายอยากไปดู”

ดร.เจนภพ ฝากฝังเพื่อนไว้กับเจ้าหน้าที่แล้วขอตัวขึ้นไปเตรียมการบรรยาย ขณะที่เจ้าหน้าที่กุลีกุจอมาต้อนรับแล้วเชิญนั่ง

“ใครนะแก หล่อจังเลยนะ” ธรรมดาของสาว ๆ ปัจจุบันหากเจอใครที่ต้องตาก็จับกลุ่มพูดคุยกันด้วยความสนใจ ถือเป็นวัฒนธรรมอย่างหนึ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป มันเป็นวัฒนธรรม เพราะการ “นินทา” นี้ ทำให้สังคมรับรู้ว่า ใคร ทำอะไร ที่ไหน เป็นสายใยของคนในสังคมที่จะร่วมสอดส่องดูแลซึ่งกันและกัน แม้ว่า บางคนจะไม่ชอบก็ตาม เพราะบางครั้งมันก็คือการละเมิดสิทธิส่วนตัว

“เพื่อน ดร.เจนภพเขาน่ะ”

“ใส่ชุดเหมือนพวกแขกหลงมาเลยนะแก แต่ก็เท่ชะมัด” เสียงหนึ่งเอ่ยชม

“เธอรู้ประวัติเขาใหม่ เธอเป็นรุ่นน้อง ดร.เจนภพนี่”

“ฉันก็ไม่รู้อะไรมากหรอก พี่คนนี้ เขาเรียนบริหารอีกมหาวิทยาลัย แต่รู้จักกับ ดร.เจนภพมาตั้งแต่มัธยม สมัยเรียนเขามาที่คณะบ่อย จนพวกเราคิดว่า พี่เขาน่าจะมาเรียนโบราณคดีเสียเลย”

“นั่นซิ ทำไมเขาไม่เรียนล่ะ”

“โอ๊ย พี่เขารวยออกอย่างนั้น เขาก็เรียนบริหารไปช่วยธุรกิจของเขาน่ะซิ แล้วขอเตือนนะ เห็นหล่อ ๆ อย่างนี้ อย่าเสนอหน้าไปใกล้เชียว จะหน้าแตกกลับมาไม่รู้ตัว”

สาวๆ ที่กำลังนินทา หันมามองหน้ากัน ใจหนึ่งไม่อยากจะเชื่อ แต่ใบหน้าที่เรียบเฉยนั้น ทำให้ไม่มีใครกล้าที่จะส่งสายตาหรือแสดงอาการออกมามากกว่าการยิ้มให้อย่างมีมารยาท แม้จะพยายามหวานที่สุด แต่คนที่หมายตา ก็เพียงแต่ยิ้มที่มุมปาก พร้อมก้มหัวรับเท่านั้น

การบรรยายพัฒนาการของเมืองทวารวดีใช้เวลาเพียงครึ่งวันก็หมดคิวของ ดร.เจนภพ ทำให้ทั้งคุ่มีเวลาว่างในช่วงบ่ายที่พชรตั้งใจมาโดยเฉพาะ

“ไม่เห็นมีอะไรใหม่ อย่างที่นายคุยไว้” พชรกล่าวเรียบ ๆ เมื่อเดินออกมาขึ้นรถใหม่ป้ายแดงของเพื่อนที่จอดอยู่ใต้ร่มไม้ข้างตึก

“โอ๊ะ พ่อคุณ ฉันก็พูดถึงพัฒนาการของเมืองนครปฐม นายอยากได้อะไรแปลกใหม่”

“ทวารวดี นายหาข้อสรุปได้หรือยัง ว่า เหรียญนั่น แปลว่าอะไร ฉันฟังแล้วงง ๆ ”

ศรีทวารวดี ศวร ปุณยะ.... บุญกุศลของพระราชาแห่งศรีทวารวดี หรือ พระเจ้าศรีทวารวดี ผู้มีบุญอันประเสริฐ

ดร.เจนภพชะงัก หันกลับมามองเพื่อน สิ่งนี้นักวิชาการยังไม่สรุปว่า จารึกภาษาสันสกฤตที่ปรากฏอยู่ในเหรียญที่ถูกคุ้นพบบริเวณนครปฐม อู่ทอง และเมืองเก่า ๆ อีกหลายแห่งนั้น หมายถึงชื่อเมืองหรือชื่อกษัตริย์กันแน่

“มีอยู่อย่างหนึ่งที่ฉันไม่ได้บรรยายในเวทีเมื่อสักครู่คือ เมื่อไม่นานมานี้ นักศึกษาปริญญาโทของพม่าเข้ามาร่วมแลกเปลี่ยนงานสัมมนาทวารวดีกับเรา เขาตอกพวกเราเสียหน้าหงายเลยว่า อย่านึกว่า เหรียญทวารวดีจะมีเฉพาะพวกเรา ทางฝั่งเขาก็มีและมีมากด้วย แถมยังท้าทายเล็กๆ ว่า มาลองนับกันไหม ว่าใครจะมีมากกว่ากัน”

“น่าทึ่งมาก”

“ใช่มันน่าทึ่ง ทวารวดี เป็นคำสันสกฤต หมายถึงประตู เราเชื่อว่า ทวารวดี หมายถึงประตูทางการค้า เป็นเมืองท่า เหมือนกับคำว่า ทวารกะ หรือทวารกา เมืองที่อยู่ด้านตะวันออกของอินเดีย อันเป็นเมืองของพระกฤษณะ ในมหากาพย์ภารตยุทธ”

“พระกฤษณะ องค์อวตารของพระนารายณ์”

“ไม่ผิด เมื่อพันปีก่อน คนอินเดียก็เหมือนกับคนในยุโรป นิยมตั้งชื่อเมืองที่ตนเองอพยพมาอยู่ โดยใช้ชื่อเมืองเหมือนกับชื่อเมืองของตนเอง”

“คงไม่ทุกกรณี ฉันมองว่า การตั้งชื่อเมือง มีอิทธิพลมาจากการนับถือศาสนา วรรณกรรมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาอาจมีผลต่อการตั้งชื่อเมือง”

“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ แต่ที่น่าสนใจคือ นครปฐม อู่ทอง อาจจะไม่ใช่เมืองท่าทวารวดีเพียงแห่งเดียว แต่ทางฝั่งทะเลอันดามัน ทวาย อาจจะกลายเป็นเมืองท่า ทวารกะ ของพระกฤษณะอีกเมืองก็ได้”

พชร นิ่ง ตรึกตรอง เป็นความรู้ใหม่ที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน

เจนภพ มองเพื่อนตั้งแต่เท้าจนถึงศีรษะ เพิ่งสังเกตว่า ชุดที่เพื่อนใส่นั้น เป็นชุดที่ชาวอินเดีย ปากีสถานและประเทศใกล้เคียงบริเวณนั้นใส่กัน

“แล้วนี่ จะแต่งชุดนี้ไปหลุมขุดของฉัน”

“ใส่สบายดี และไม่เกี่ยวกับเงินทุนที่ฉันจะให้นายด้วย”

พชร ตอบเรียบ ๆ ก่อนจะเปิดประตูก้าวไปนั่งข้างคนขับ โดยไม่สนใจสายตามองค้อนของเพื่อนกับปากที่ขมุบขมิบ เหมือนสวดสรรเสริญเขา ไม่ใส่ใจ แต่แอบหัวเราะอยู่ข้างในกับท่าทีของเพื่อนที่แม้คร่ำเคร่งกับการเรียนโบราณคดีจนได้เป็น ดร.ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ก็ไม่เคยล้าสมัยในเรื่องของการแต่งตัว

ดร.เจนพบ ขับรถเข้าไปในพื้นที่ว่างจากการทำไร่ของชาวบ้านที่ไม่ห่างจากตัวเมืองนครปฐมสักเท่าไหร่ เห็นคนกลุ่มหนึ่งตั้งเพิงเล็ก ๆ กลางเนินดิน

“กว่าจะได้พื้นที่สักแห่งหนึ่งเพื่อขุดค้นทางโบราณคดี ก็ยากแสนยาก เพราะชาวบ้านเขากลัวว่า เราจะมายึดที่ของเขา”

“ที่ตรงนี้ เขาอนุญาต? ”

“ใช่ ตรงเนินที่นักศึกษากำลังขุดนั่นล่ะ อาจจะเป็นฐานเจดีย์ หรือสถูป หรืออะไรบางอย่าง ยังตอบไม่ได้ ส่วนอีกหลุมที่อยู่ไกลออกไปนั่น ก็กำลังขุดอยู่เหมือนกัน เพราะเราต้องขุดลึกลงไปให้พ้นจากชั้นดินที่ถูกรบกวนก่อน จึงจะกำหนดอายุของการใช้งานของชั้นดินได้”

ดร.เจนพบ ค่อย ๆ พาเพื่อนนายทุน เดินลัดเลาะเข้าไปยังเนินดินที่กำลังขุดค้น เสียงทักทายจากนักศึกษา ๗-๘ คนส่งเสียงทักทายเจื้อยแจ้ว

“เอ้านี่เด็ก ๆ นี่คือ คุณพชร นเรนทร์พานิช ผู้สนับสนุนเงินทุนของพวกเราในการขุดค้นครั้งนี้นะครับ คุณพชร อยากมาดูพวกเราทำงาน เผื่อว่าจะเพิ่มเงินสนับสนุนให้หากไม่พอกับค่าใช้จ่าย” เสียงอธิบายนั้นทำให้เด็กๆ นักศึกษาปรบมือกันกราว ส่วนเจ้าของเงิน ก้มหัวยิ้มรับ ไม่แสดงท่าทีใดมากกว่านั้น

“ตอนนี้ เจอแต่เศษกระเบื้องดินเผา ที่กระจายอยู่ทั่วบริเวณ แสดงให้เห็นว่าบริเวณนี้ เป็นแหล่งชุมชนมาก่อน เด็ก ๆ จะจดรายงานการพบหลักฐานแต่ละชั้นดิน วางสเกลแล้วถ่ายรูปไว้ด้วย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel