11 ต้องเลือก
หลังจากเลิกงานวันนี้ภัครมนเลือกที่จะเดินมาซื้อของสดที่ซูเปอร์มาเก็ตใกล้บ้านเพื่อให้ไปประกอบอาหาร เห็นเธอแก่น ๆ แบบนี้เรื่องฝีมือในการอาหารของเธอเป็นที่กล่าวถึงกันอย่างมากใคร ๆ ก็ติดรสมือของเธอทั้งนั้น จนบางครั้งเจฟกับโรสซี่ก็ชวนกันแวะมาทานข้าวเย็นเพราะความอยากทานอาหารไทย
"ทำแกงเขียวหวานแล้วกัน" เมื่อวางแผนเมนูที่จะทำเสร็จสับก็เดินเลือกซื้อวัตถุดิบทันที พร้อมกับเลือกซื้อเผื่อเมนูในวันอื่น ๆ เพราะตู้เย็นของขรินทร์นั้นไม่ค่อยมีของสดเสียเท่าไหร่ เหมือนกับว่าเขาทานมาจากข้างนอกเสียมากกว่า แต่เขาอาจจะทำอาหารไม่เป็นก็ได้ เพราะตั้งแต่มาอยู่เธอไม่เคยเห็นเขาทำอาหารเลย ไม่สิในตอนที่เธอป่วยตอนนั้นเธอเหมือนเห็นชามข้าวต้มวางอยู่บนหัวเตียง อาจจะเป็นฝีมือของเขาก็ได้ แต่ก็นะข้าวต้มเป็นเมนูง่าย ๆ เขาก็คงจะทำได้อยู่แล้ว ขืนทำไม่ได้ สิ่งที่คุณตาคุณยาย และยัยซาร่านั่นชมนักชมหนาว่าเขาเก่งอย่างนั้นอย่างนี้ ก็คงจะได้เสียหน้าไปตาม ๆ กัน
ร่างบางเดินหอบหิ้วถุงวัตถุดิบต่าง ๆ ที่ตนได้ซื้อมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ตก่อนจะรีบเดินกลับบ้าน และทันทีที่เปิดประตูเข้าบ้าน ถุงมากมายถืออยู่ก็ร่วงหล่นลงพื้นทันที
"คะ คุณตา..."
"อ้าวมาแล้วหรอ ตากับยายแล้วก็พี่วีร์กำลังรออยู่พอดีเลย" กรเกียร์ที่ขอตัวออกมาคุยโทรศัพท์เอ่ยทักหลานสาวที่มองตนอย่างอึ้ง ๆ
"คะ คุณยายก็มาด้วยหรอคะ...ไหนว่า" น้ำเสียงขาดห่วงในทันทีเมื่อพูดถึงเรื่องนี่ ก็ตอนเที่ยงเธอพึ่งวางสายกับคุณยายไป คุณยายบอกงานที่ร้านยุ่งมาก จะปลีกตัวมาหาเธอได้ก็คงจะเป็นช่วงกลางเดือนหน้านู่น แล้วไหงโผล่กันมาเซอร์ไพรส์เธอแบบนี้ ถ้าเป็นช่วงเวลาปกติเธอก็ดีใจอยู่หรอก แต่นี่มัน ฮรือ จบสิ้นแล้วชีวิตที่อิสระในเมืองใหม่ของเธอ
"ยายเขาอยากมากเซอร์ไพรส์น่ะ ไหนซื้ออะไรมาเยอะแยะเลยเดี๋ยวตาบอกให้เจ้าวีร์มาช่วยหลานถือดีกว่า"
"มะ ไม่ต้องค่ะคุณตา แสนดีถือได้" ว่าจบก็ก้มลงเก็บถุงหิ้วกระดาษที่ตนไปช็อปปิ้งขึ้นถือทันที
"เจ้าวีร์มาพอดีเลย ตาวานช่วยน้องช่วยถือของไปเก็บทีนะ ตาขอไปคุยเรื่องที่ร้านกับคุณยายต่ออีกหน่อย"
"ครับ" ด้านขรินทร์ที่หูดี ได้ยินเสียงใส ๆ ของภัครมน เขาจึงเดินออกมาดู ก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ตาของเธอเรียกใช้เขา
"ไม่ต้อง ฉันทำเองได้" มือบางปัดมือเขาออก ก่อนจะรวบของทุกอย่างมากอดและถือไว้ แล้วตรงไปยังครัว
"หึ ตามใจ" โดยมีขรินทร์เดินตามมาเงียบ ๆ เธออยากทำเองเขาก็จะให้เธอทำ อย่างรู้เหมือนกันว่าเธอจะเก่งกับเขาได้อีกสักกี่น้ำ ทั้ง ๆ ที่เมื่อก่อนอะไรนิดอะไรหน่อยก็อ้อนหาพี่วีร์ตลอด เหอะ!
"อ้ะ" คนที่กำลังยืดตัวเพื่อเอาของเก็บชั้นสะดุ้งโหยงทันที เมื่ออยู่ ๆ กูมีมือหนามาโอบเอวของเธอไว้ ก่อนจะแย่งของที่เธอถืออยู่ไปวางไว้บนชั้นให้
"นี่คุณ ปล่อยนะ ไม่งั้นฉันตะโกนเรียกคุณยายกับคุณตา มาดูว่าคุณทำอะไรกับฉัน"
"เอาสิ ... เร็ว" ใบหน้าหล่อเหล่าก้มลงกระซิบข้าง ๆ ซอกคอขาว ก่อนจะดูดเบา ๆ แล้วพูดเร่งให้เธอทำอย่างที่พูดเมื่อเห็นเธออึก ๆ อัก ๆ
"ปะ ปล่อย" สองมือยกขึ้นผลักเขาให้ออกจากตัว แต่ก็ไม่เป็นผล เมื่อท่อนแขนแกร่งของเขาโอบเอวบางของเธอไว้แน่น
"จะกอดเมีย ไม่ได้หรือไง"
"ใครเมียคุณ ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ! คุณมันคนฉวยโอกาส ทั้ง ๆ ที่ฉันบอกว่าฉันมีเจ้าของอยู่แล้วคุณก็ยังข่มเหงรังแกฉันอย่างหน้าไม่อาย!!"
"เหอะ ไหนละ เจ้าของคุณ มันอยู่ไหน" ด้วยความโมโหที่เธอพูดเรื่องนี้อีกแล้ว ขรินทร์จึงเผลอออกแรงกระชับแขนแกร่งที่โอบกอดเธอไว้แน่น
"จ เจ็บ ปล่อยฉันนะ"
"ไม่! จนกว่าคุณจะบอกผมไว้ไอ้หมอนั่นมันเป็นใคร"
"คุณไม่จำเป็นต้องรู้ รู้ว่าเขาเป็นคนดี และไม่เคยทำเลว ๆ แบบที่คุณทำกับอย่างแน่นอน!!" ภัครมนตะโกนใส่หน้าเขาอย่างเดือดดาล ก่อนจะออกแรงผลักเขาสุดแรงเกิด แล้วรีบเดินหนีไปหาคุณตายกับคุณยายของตอนทันที
สายตาคมวูบไหวน้อย ๆ ก่อนจะแข็งกร้าวขึ้นมา อย่าให้เขารู้เชียวไว้มันเป็นใคร เขาไม่มีทางปล่อยให้มันกลับเข้ามาในชีวิตเธออีกแน่ ในเมื่อตอนนี้เธอเป็นเมียเขาแล้ว เป็นของเขาแล้ว คนอื่นอย่าหวังที่จะพาเธอไปจากเขา ไม่มีทาง!!
"มาแล้วหรอ เด็กดื้อของยาย"
"คุณยายขาาา" เห็นคุณยายเอ่ยทักอย่างอบอุ่น ภัครมนก็รีบปรับอารมณ์ให้เป็นปกติทันที ก่อนจะโผลเข้ากอดคุณยายของตนด้วยความคิดถึง
"คิดถึงแต่ยาย ไม่คิดถึงตาแบบนี้ ตาน้อยใจนะ"
"ใครว่าแสนดีไม่คิดถึงคุณตาล่ะคะ คุณตาแสนดีก็คิดถึงค่ะ แต่น้อยกว่าคุณยายนิดนึงคิก ๆ"
"ไม่ต้องมาอ้อนเลย รู้ใช่ไหมว่าตัวเองทำผิดอะไรไว้" น้ำเสียงทีเล่นทีจริงกับหลานสาวเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นโหมดจริงจังทันที เมื่อนึกถึงเรื่องที่หลานสาวเพียงคนเดียวนั้นก่อไว้
"ทะ ทำอะไรผิดหรอคะ" คนมีชะงักติดหลัง เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักทันที ไม่นะ มันต้องไม่เป็นแบบนี้สิ อีกเพียงสองสัปดาห์เธอก็จะกลับไปอยู่ที่บ้านได้แล้ว แค่สองสัปดาห์เท่านั้นเอง
"พี่วีร์เล่าให้ตาฟังหมดแล้ว"
"ทำไมเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้นถึงไม่บอกยายล่ะลูก รู้ไหมว่าปล่อยให้ตากับยายมารู้ทีหลังแบบนี้ ตากับยายจะเสียใจและเป็นห่วงเรามากแค่ไหน"
"สะ แสนดีขอโทษค่ะ แต่ว่ามันเป็นอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อยเท่านั้น แสนดีไม่อยากให้คุณตากับคุณยายเป็นห่วงก็เลยไม่ได้บอก... ตะ แต่ว่าอีกสองสัปดาห์บ้านก็จะซ่อมเสร็จแล้ว..."
"ยายรู้ว่าหลานจะพูดอะไร หยุดความคิดนั้นไว้ซะ ยายจะไม่ปล่อยให้หลานสาวคนเดียวอยู่คนเดียวอีกแล้ว" มณฑิกาว่าขึ้น เพราะครั้งหนึ่งที่เธอและสามีปล่อยให้หลานสาวอยู่ครั้งเดียว เธอเกือบจะเสียหลานสาวเพียงคนเดียวไป หากเธอและสามีกลับมาไม่ทัน ในวันนั้น...
"คุณยาย แต่มัน...."
"ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น หลานต้องกลับบ้าน ที่นั่นเองก็มีงาน เก่ง ๆ แบบหลานหางานได้ไม่ยากอยู่แล้ว" กรเกียรติว่าขึ้น เพราะเขาเองก็ไม่ยอมเหมือนกัน ดีที่ภัครมนพาตัวเองมาอยู่บ้านของขรินทร์ก่อน ไม่งั้นเขาคงได้โกรธหลานสาวเพียงคนเดียวเอามาก ๆ แน่
"ฮึก แสนดีชอบที่นี่ นี่คะ นะคะคุณตา นะคะคุณยาย แสนดีสัญญาว่าจะไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกแล้ว" หยาดน้ำตาหยดแหมะลงบนแก้มนวล ก่อนจะเอ่ยขอร้องผู้เป็นตาเป็นยายเสียงสั่น
"แสนดีจำได้รึเปล่า ว่าตอนที่อยู่บ้านหลังนั้นแสนดีบอกกับยายว่ายังไง" เมื่อเห็นหลานสาวร้องไห้ คนเป็นยายก็ไม่อาจทนได้ มือเหี่ยวย่นลูบหัวน้อย ๆ ของหลานสาวแผ่วเบา
"ฮึก แสนดีจำได้ค่ะ แต่ว่า..." เมื่อยายว่ามาแบบนี้เธอก็อาจเถียงอะไรได้อีก เพราะตอนนั้นเธอเป็นคนสัญญากับคุณยายเองว่าหากแยกมาอยู่คนเดียวแล้วเกิดเรื่องแบบในอดีตอีก เธอต้องกลับไปอยู่ที่บ้านเหมือนเดิม
"ตาให้เวลาแสนดีเก็บของและเคลียร์งานกับที่ทำงานหนึ่งอาทิตย์ หลังจากนั้นตากับยายจะขึ้นมารับตกลงไหม" กรเกียรติบอกอย่างตัดใจ รู้ว่าหากทำแบบนี้หลานสาวจะต้องเสียใจ แต่หากไม่ทำแบบนี้เขาก็กลัวว่าเหตุการณ์เดิมจะเกิดซ้ำอีก เพราะชีวิตคนหากเสียไปแล้วแน่นอนว่ามันไม่สามารถเอามันกลับคืนมาได้ เหมือนกับลูกสาวของเขา...
ด้านขรินทร์หลังจากเดินตามเธอเข้ามาทีหลัง ก็ได้แต่นั่งฟังคนในครอบครัวของเธอคุยกันเงียบ ๆ ดูแล้วคุณตาของเธอจะเป็นห่วงเรื่องการที่หลานสาวออกมาอยู่คนเดียวเอามาก ๆ แต่หลานสาวก็อายุยี่สิบห้ายี่สิบหกแล้ว มันจะไม่แปลกไปหน่อยหรอ อีกอย่างสังคมที่นี่ก็เปิดกว้างในการใช้ชีวิตด้วย แปลกจริง ๆ
"ฮึก คุณตา..."
"แสนดีเชื่อตานะลูก กลับไปอยู่บ้านเรากันนะ" มณฑิกาเอ่ยบอกหลานสาวที่นั่งร้องให้อยู่ด้วยน้ำเสียงอบอุ่น แม้จะสงสารหลานสาวมากแค่ไหน แต่ความเป็นห่วงในความปลอดภัยก็มีมากกว่า
"ถ้าไม่กลับไปอยู่บ้าน ก็อยู่กับพี่เขาที่นี่แล้วกัน" กรเกียรติว่าขึ้น เมื่อเห็นหลานสาวทำหน้าเศร้า น้ำตาไหลไม่หยุด
"ค คะ?"
"ถ้าตาจะขอให้แสนดีอยู่ด้วย วีร์โอเครึเปล่า" กรเกียรติไม่ตอบอะไรหลานสาว แต่หันไปถามชายหนุ่มอีกคนที่นั่งอยู่แทน
"ได้ครับ ไม่มีปัญหา" ขรินทร์ที่เงียบฟังอยู่นานเอ่ยตอบ พร้อมกับความคิดบางอย่างในหัว
"พี่เขาให้อยู่ด้วยแล้ว จะอยู่กับพี่เขาต่อรึเปล่า ตามีทางเลือกให้แสนดีเท่านี้ คือกลับบ้านเรา หรืออยู่ที่รัฐนี้ต่อ แต่มีข้อแม้ว่าต้องอยู่บ้านของพี่วีร์เขา"
"สะ แสนดี" ภัครมนคิดหนักขึ้นมาทันที เธอเฝ้ารอวันที่จะไปจากเขาอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน เพื่อหยุดความคิดบ้า ๆ ที่เกิดขึ้นในใจ รวมถึงอยู่ให้ห่างจากการกระทำที่ดีแต่ฉวยโอกาสจากเธอด้วย แล้วคุณตายื่นขอเสนอมาแบบนี้เธอจะทำอย่างไรดี
"ว่ายังไงลูก จะอยู่กับพี่เขาที่นี่ หรือจะกลับบ้านไปกับยาย" มณฑิกาถามขึ้น เมื่อเห็นหลานสาวเงียบอยู่นาน
"ตกลงค่ะ แสนดีจะอยู่ที่นี่ อยู่กับคุณวีร์ของคุณยายที่นี่" เสียงใสตอบออกมาอย่างกลั้นใจ แม้จะต้องอยู่กับการอยู่ร่วมบ้านกับคนอย่างเขา แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เธอได้อยู่ในรัฐนี้ต่อ สถานที่ที่ชอบ เพื่อนสนิทที่ดี เพื่อนร่วมงาน ลูกค้าและเจ้านายที่น่ารัก รวมถึงได้ทำงานที่ชอบด้วย แบบนี้มันก็น่าจะเพียงพอที่จะเป็นแรงผลักดันให้เธอสามารถอดทนอยู่ร่วมชายคาเดียวกับเขาได้
"โฮะ ๆ" เสียงหัวเราะ เบา ๆ ของคุณตาทำให้ภัครมนอดที่จะหันมองไม่ได้ การที่เธอเลือกอยู่กับเขา มันไม่ไปถูกใจอะไรคุณตากันหนักหนากัน ก็อย่างว่าสินะ เขามันหลานรักของคุณตาเธอนี่
"งั้นคุณตากับคุณยายอยู่ทานข้าวด้วยกันก่อนนะคะ เดี๋ยววันนี้แสนดีทำแกงเขียวหวานให้ทาน"
"เอาสิ ตาเองก็เริ่มหิวเหมือนกัน อย่าลืมทำเผื่อพี่วีร์ของเราด้วยล่ะ รายนี้เขาชอบ"
"ได้ค่ะ" เสียงอ้อมแอ้มเอ่ยตอบรับผู้เป็นยาย ก่อนจะย้ายตัวเองไปยังห้องครัว ปล่อยให้คุณตาคุณยายได้พูดกับหลานชายสุดที่รักต่อ
"แสนดีดื้อกับพ่อวีร์รึเปล่า" มณฑิกาว่าขึ้น หลังจากลับหลังของหลานสาวเพียงคนเดียวไปแล้ว
"ไม่ครับ"
"ยายฝากดูน้องด้วยนะ ถ้าน้องทำตัวไม่น่ารักก็บอกก็สอนเอาได้เลยไม่ต้องเกรงใจ แสนดีน่ะดื้อและแสบซนมาาตั้งแต่เด็ก พ่อวีร์ก็น่าจะรู้" ว่าจบก็หัวเราะน้อย ๆ เมื่อนึกถึงความแซบสนของหลานสาว ที่เป็นที่กล่าวขานกันเป็นอย่างมาก
"หึ ครับ" หากคุณยายไม่บอก เขาก็ตั้งใจจะปราบพยศเด็กดื้อคนนี้อยู่แล้ว
ขรินทร์นั่งพูดคุยกับคุณตาคุณยายของภัครมนเพื่อรอเวลาให้เธอทำกับข้าวเสร็จ ก่อนที่ทั้งสี่ชีวิตจะร่วมรับประทานอาหารเย็นด้วยกัน บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเต้มไปด้วยเสียงหัวเราะและรอยยิ้มของแสนดีกับคุณตาคุณยายของเธอ โดยมีขรินทร์นั่งฟังและแอบอมยิ้มอย่างเงียบ ๆ หากถูกถามเขาก็จะตอบ หากไม่ เขาก็ตั้งหน้าก้มตาทานอาหารที่เธอทำ ซึ่งฝีมือของเธอก็ไม่เลวเลยทีเดียว
"คุณยายอยู่ต่ออีกสักวันไม่ได้หรอคะ" เสียงหวานเอ่ยออดอ้อนผู้เป็นยายให้อยู่ด้วยกันต่อ อย่างน้อยการมีคุณตาคุณยายอยู่ด้วยเขาก็คงไม่กล้าทำอะไรบ้า ๆ กับเธอ
"ไว้วันหลังแล้วกันนะลูก วันนี้ยายต้องรีบกลับ ที่ร้านเกิดปัญหา"
"งั้นก็ได้ค่ะ เทคแคร์นะคะ" เมื่อเป็นเรื่องงานเธอก็ไม่อาจจะยื้อได้อีกต่อไป จึงส่งรอยยิ้มตาหยีให้คุณตาคุณยาย พร้อมกับเข้าไปกอดอย่างออดอ้อน แล้วก็ไม่ลืมที่จะหอมแก้มแถมให้อีกฟอดใหญ่
"พอแล้ว ๆ กลับเข้าบ้านได้แล้ว อยู่ข้างนอก ยิ่งดึกอากาศยิ่งหนาวเดี๋ยวไม่สบายเอา"
"ก็แสนดี รักคุณตากับคุณยายมาก ๆ นี่คะ" ทั้งชีวิตนอกจากพ่อวินท์แม่ขวัญที่ไทย ที่เธอรักมากแล้ว ก็มีคุณตาคุณยายนี่แหละ ที่เธอรักและเป็นคนในครอบครัวที่เธอหลงเหลืออยู่
"จ้ายายรู้แล้ว ยายก็รักแสนดีเหมือนกัน ยายฝากดูน้องด้วยนะวีร์ ถ้าน้องดื้อก็จัดการได้เลย"
"คุณยาย แสนดีไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะคะ ดื้อเด้ออะไรกัน"
"จ้าไม่เด็ก ก็ไม่เด็ก"
"งั้นยายกับตาไปแล้วนะ"
หลังจากรถเคลื่อนตัวออกไปแล้ว ภัครมนก็ได้แต่ยืนมองจนลับสายตา ก่อนจะหันตัวเข้าบ้าน เพราะเธอเริ่มรู้สึกหนาวอย่างที่คุณยายบอกแล้ว
"คะ คุณ! เข้ามาในห้องฉันทำไม ออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ" ร่างบางที่อยู่ในชุดคลุมอาบน้ำโวยวายขึ้นมาทันที เมื่ออกมาจากห้องน้ำแล้วเห็นขรินทร์นั่งอยู่ปลายเตียง
"มาหาเมีย" เขาตอบหน้าตาย
