บท
ตั้งค่า

บทที่ 2

“แต่แกก็จะเปิดร้านอาหารไทยไม่ใช่เหรอจ๊ะ จะห่วงทำไม พ่อครัวแม่ครัวก็คนไทย แม้แต่เครื่องปรุงก็สั่งตรงจากที่นี่ ไม่อร่อยก็ให้รู้ไปสิ”

“เออ...ลืม” รุ้งไพลินลืมเรื่องนี้ไปจริงๆ ส่วนคนฟังได้แต่ส่ายหน้าให้ ก่อนที่สีหน้าของภัสสรจะสลดลงไปบ้าง

“คราวนี้แหละ ฉันจะเหงาแทนเพราะไม่รู้จะกินข้าว ดูหนัง ช้อปปิ้ง เม้าท์มอยกับใคร”

“โทมัสไง”

“บ้า...โทมัสก็อยู่อิตาลีกับเจ้านาย สามีของแกนะสิ”

“อยู่แต่ก็บินมาหากันได้”

“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ” สีหน้าของภัสสรดูเศร้าอย่างบอกไม่ถูก ท่าทางนั่งเขี่ยส้มตำทำให้รุ้งไพลินวางช้อน หยิบน้ำมาดื่ม ก่อนจะถามขึ้น

“แกคิดอะไรอยู่น้ำ”

“คือ...แกจะคิดว่าฉันบ้าไหม ถ้าฉันอยากให้โทมัสย้ายมาอยู่เมืองไทยถาวร ที่บ้านเขาจะคิดยังไง เขาจะคิดยังไง” ก่อนจากกันภัสสรกับโทมัสโซ่สัญญาว่าจะรักและเฝ้ารอกันและกัน รอวันที่จะได้มาพบกันอีกครั้ง ภัสสรอยู่ได้ด้วยคำสัญญาที่เธอเชื่อมั่นนั้น แต่แค่ไม่กี่วันที่จากกันเธอกลับอยากพบหน้าชายหนุ่มจนเหม่อเป็นประจำ

“ไม่บ้า...แล้วแกเคยคุยเรื่องนี้กับโทมัสหรือยัง”

“ยัง...ไม่กล้า เพราะฉันกับเขาพึ่งจะคบกัน อยู่ๆ จะไปกำหนดนั่นนี่ในชีวิตเขาเพื่อให้ทำตามที่ฉันต้องการก็ใช่เรื่อง” สิ่งที่ภัสสรพูดก็จริงรุ้งไพลินเห็นด้วย

“เอานะ ใจเย็นๆ ฉันว่าถึงวันนั้นมันต้องมีทางออก” รุ้งไพลินยิ้ม เพราะรู้ว่าภามสามีนั้นวางแผนบางอย่างไว้ แต่ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องบอกให้ภัสสรรู้เท่านั้นเอง รอให้ถึงวันนั้น คนที่เหมาะจะพูดควรเป็นโทมัสโซ่มากกว่าใคร

“อีกไม่กี่วันแกก็จะบินไปอยู่อิตาลีกับคุณภามถาวรแล้ว ฉันคงคิดถึงแกแย่แน่เลยรุ้ง” น้ำเสียงของภัสสรรวมถึงสีหน้าแววตานั้นดูเศร้าลงไปถนัดตาอีกครั้ง

“คิดถึงก็บินไปหาสิจ๊ะเพื่อน โดยเฉพาะวันที่ฉันคลอด แกต้องไปนะน้ำ” รุ้งไพลินเอื้อมมือมากุมมือของภัสสรไว้ เพราะถ้าเลือกได้เธอก็อยากอยู่ที่เมืองไทย อยู่ในสภาพแวดล้อมอันคุ้นเคย แต่ภามมีงานและผู้คนต้องรับผิดชอบอยู่อิตาลี เธอจึงต้องตามสามีไปอยู่ที่นั่น รวมถึงดูแลงานโรงแรมและร้านอาหารของครอบครัวเธอเช่นกัน

“รู้...วันนั้นฉันจะล็อกคิวไว้เลย”

“ดีมากเพื่อนรัก” ว่าที่คุณแม่ยิ้มหวาน ก่อนจะเอ่ยชวนภัสสรทานอาหารต่อซึ่งเธอก็ไม่ขัด สองเพื่อนรักใช้เวลาระหว่างนี้อยู่ด้วยกัน เมื่อทานอิ่มก็ไปเดินซื้อของก่อนที่ภามจะตามมาสมทบกับภรรยา เพราะเธอบอกแล้วว่าจะมาทานอาหารกับภัสสร อันที่จริงเขาจะมาด้วยแต่รุ้งไพลินขอไว้ เพราะเธอจะมากินส้มตำกับสารพัดเมนูที่เขาทานไม่ค่อยได้ หนำซ้ำเธอยังรู้ว่าที่เขาทานด้วยทุกครั้งก็เพื่อตามใจ

“อ๊ะๆ...ที่เดินหล่อมาแต่ไกลนั่นสามีใครนะ”

“สามีฉัน” รุ้งไพลินเอ่ยรับทันที ทำเอาภัสสรยิ้ม ไม่นึกจริงๆ ว่าการที่เพื่อนรักบินไปทำงานที่อิตาลีคราวที่แล้วจะได้พบเนื้อคู่ตุนาหงัน

“สวัสดีค่ะคุณภาม”

“สวัสดีครับคุณน้ำ ขอบคุณที่วันนี้ออกมาทานข้าวกับรุ้งแทนผมนะครับ” เสียงทุ้มๆ น่าฟังของคนหล่อเอ่ยขึ้น

“เรื่องเล็กนะคะ คุณภามมาก็ดีเลย งั้นน้ำขอตัวกลับก่อนแล้วกันนะคะ” ภัสสรส่งมือรุ้งไพลินที่กุมกันไว้ขณะเดินซื้อของให้ภาม ซึ่งชายหนุ่มก็แบมือรับมือนุ่มๆ ของภรรยามากุมไว้ต่ออย่างเต็มใจ

“จะกลับแล้วเหรอน้ำ”

“อื้อ...มีงานต้องรีบกลับไปเคลียร์นะ ที่สำคัญเย็นนี้รับงานเดินแบบไว้ด้วย” อันที่จริงงานเดินแบบที่ว่าภัสสรไม่ค่อยอยากรับสักเท่าไหร่นัก แต่คนที่ขอให้ทำงานนี้เธอก็สนิทมากจึงตอบรับ เพราะเห็นว่าเป็นคนคุ้นเคย

“ขอบใจที่มากินข้าวเป็นเพื่อนนะ” ภัสสรพยักหน้าให้คำพูดนั้นของรุ้งไพลิน ก่อนที่เธอจะแยกตัวออกไป ปล่อยให้สองสามีภรรยาประคับประคองกันด้วยความรัก ลึกๆ ภัสสรแอบอิจฉารุ้งไพลินที่ตอนนี้มีภามอยู่ข้างกาย เพราะเธอเองก็อยากมีโทมัสโซ่มาอยู่ข้างๆ เหมือนกัน ยิ่งคิดก็ยิ่งคิดถึงคนที่อยู่อิตาลี คิดถึงจนอยากร้องไห้

“รุ้งอิ่มหรือยังครับ”

“อิ่ม...แต่ตอนนี้ย่อยแล้วค่ะ” รุ้งไพลินส่งยิ้มหวานให้สามี เมื่อครู่เธออิ่มจริงๆ แต่ตอนนี้เริ่มย่อยแล้ว

“แล้วอยากทานอะไร เดี๋ยวพี่พาไป”

“อืมม์...เราไปกินไอศกรีมกันดีไหมคะ ที่นี่รุ้งรู้จักร้านอร่อยๆ เยอะมาก”

“ครับ” ภามเอ่ยรับแบบไม่ลังเล สองสามีภรรยาเดินจับมือไปยังร้านไอศกรีมที่ว่า ก่อนจะสั่งมาทานด้วยกัน ผลัดกันป้อนจนลูกค้าหลายคนในร้านพากันอิจฉา แค่เห็นรุ้งไพลินทานอาหารทุกอย่างได้อย่างอร่อย ไม่มีอาการแพ้ท้องแบบนี้ภามก็โล่งอก เพราะเขานั้นไม่อยากเห็นรุ้งไพลินทรมานกับอาการแพ้ท้องเหมือนกัน แต่ขณะที่กำลังนั่งทานไอศกรีมอยู่นั้น อยู่ๆ รุ้งไพลินก็มีอาการเหม่อจนภามเอ่ยถาม

“ที่รัก...ไหนบอกไอศกรีมร้านนี้อร่อย เห็นนั่งเขี่ยจนละลายหมดแล้วนะครับ”

“รุ้งกำลังคิดน่ะค่ะว่าจะชวนน้ำไปอิตาลีพร้อมเราดีไหม”

“ทำไมจะไม่ดี ถ้าโทมัสรู้ต้องกระโดดโลดเต้นแน่” ภามเอ่ยอย่างรู้ทันลูกน้อง เพราะป่านนี้คงคิดถึงภัสสรทุกลมหายใจอยู่ก็เป็นได้

“นั่นนะสิคะ เพราะท่าทางยายน้ำเองก็คิดถึงโทมัสเอามากๆ”

“รุ้งก็ลองชวนคุณน้ำดูสิครับ เราจะได้บินไปพร้อมกัน”

“ได้ค่ะ แต่เรื่องนี้พี่ภามอย่าพึ่งบอกโทมัสนะคะ”

“ทำไมครับ” คนเป็นสามีเลิกคิ้วสูงถาม เพราะแววตาของรุ้งไพลินแบบนี้ต้องคิดทำอะไรสักอย่างแน่นอน

“ก็ถ้ายายน้ำไปได้จริงๆ จะได้ไปเซอร์ไพรส์โทมัสให้ตกใจเล่น” คนเจ้าแผนการยิ้มแป้น

“เจ้าแผนการนักนะเรา” ภามบีบจมูกโด่งรั้นของภรรยาอย่างเอ็นดู ก่อนจะตักไอศกรีมให้ทานแบ่งกันป้อนไปมาจนกระทั่งหมด สองสามีภรรยาจึงพากันกลับบ้านเตรียมตัวสำหรับการเดินทางไปอิตาลี รุ้งไพลินนั้นอยากใช้เวลาร่วมกับทุกคนในครอบครัวให้นานที่สุด ซึ่งภามก็เข้าใจภรรยา เขากับแม่ก็อยากมีเวลาที่เมืองไทยให้นานเช่นกัน

ส่วนคู่รักอีกคู่ที่ตอนนี้แม้ระยะทางจะทำให้พวกเขาห่างกัน แต่ด้วยเทคโนโลยีอันทันสมัย การติดต่อสื่อสารจึงง่ายเพียงแค่สัมผัส หนำซ้ำยังทำให้ทั้งสองมองเห็นใบหน้าของกันและกันได้อีกต่างหาก แรกๆ ภัสสรเกิดอาการเขิน แม้การมองหน้าโทมัสโซ่จะเป็นเพียงการมองผ่านหน้าจอโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ เล่นเอาเธอพูดไม่ออกมองหน้าชายหนุ่มอยู่นานกว่าจะเริ่มพูดคุย แต่ตอนนี้เริ่มชินอย่างเช่นที่คุยกับชายหนุ่มทางโทรศัพท์ในตอนนี้

“ทำไมหน้าถึงโทรมแบบนั้นล่ะคะ หนวดยาวเชียว” ภัสสรย่นจมูกให้ชายหนุ่มที่ตอนนี้มีหนวดเคราเต็มใบหน้า

“ดูโหดไหมครับ” น้ำเสียงโทนต่ำแต่ทุ้มน่าฟังของโทมัสโซ่เอ่ยถามพร้อมเก๊กท่าโหดให้ดูน่ากลัว แต่แทนที่ภัสสรจะกลัว เธอกลับหัวเราะซะนี่

“ไม่สักนิด”

“ว๊า...สงสัยต้องไว้ให้ยาวกว่านี้” โทมัสโซ่ดูจะผิดหวังนิดๆ

“ไม่ต้องแล้วค่ะ แค่นี้ก็โทรมจะแย่แล้ว ตกลงงานยุ่งมากเลยเหรอคะ” น้ำเสียงและแววตาของภัสสรบ่งบอกว่าห่วงโทมัสโซ่จนชายหนุ่มรู้สึกได้จึงส่งยิ้มให้เธอ

“ครับ...พอดีช่วงนี้ยุ่งๆ เลยไม่ค่อยได้ดูแลตัวเองสักเท่าไหร่ ต้องรีบสะสางงานก่อนเจ้านายจะกลับ” ในฐานะที่เป็นทั้งเพื่อนและลูกน้องคนสนิท เป็นมือขวาที่เก่งเรื่องงานจนหาตัวจับยาก ภามจึงไว้ใจโทมัสโซ่มากและโทมัสโซ่เองก็ไม่อยากให้ภามผิดหวัง ระหว่างที่ไม่อยู่จึงคอยดูแลทุกอย่างให้เรียบร้อย เพราะหลังจบคดีฆาตกรรมบิดาของภามได้แล้ว ทุกอย่างก็เริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel