Ep.3 ความทรงจำยังไม่จาง(3)
หญิงสาวแต่งหน้าบางๆ ทาลิปกลอสสีหวานและไว้ผมทรงบ๊อบเทม้าปัดบางๆ และยาวเลยใบหูมาหน่อย ทำให้เธอยิ่งดูหน้าเด็กกว่าอายุมาก หากไม่บอกว่าเธออายุสามสิบหกปีแล้วก็คงไม่มีใครเชื่อ เพราะรูปร่างหน้าตาและสไตล์การแต่งตัวของเธอ แม้จะดูในระยะใกล้ ผู้คนก็ต้องคิดว่าเธออายุยี่สิบต้นๆเป็นแน่ คงไม่มีใครคิดหรอกว่าเธอมีลูกหนึ่งแล้วและลูกของเธอกำลังจะเข้าชั้นม.หนึ่งแล้วด้วย
อิงทรายเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวมาสามปีนิดๆแล้ว และตอนนี้เธอก็โสดสนิท ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอไม่คิดเปิดใจให้ผู้ชายที่เข้ามาขายขนมจีบเธอเลย นั่นเพราะในใจของเธอ มี ‘เขาคนนั้น’ อยู่ในใจมาตลอด ไม่เคยลืมเลือน แม้ว่าวันเวลาจะเคลื่อนมานานเป็นสิบยี่สิบแล้วก็ตาม
เธอรู้ว่าเขาคนนั้นมีลูกมีเมียแล้ว และอยู่ไกลมาก ข้ามจังหวัดเลยทีเดียว
ที่สำคัญ เธอเคยทำผิดต่อเขามาก่อน เธอผิดสัญญา ผิดคำพูดกับเขา เธอทำร้ายเขาด้วยคำลวง และทิ้งเขาไปมีคนอื่นโดยที่เขาไม่ผิด
เขารอเธอมาตลอดแต่เธอกลับทำร้ายเขาอย่างเลือดเย็น ด้วยการไปคบกับเพื่อนสนิทของเขาที่ฝากฝังให้ดูแลเธอ
‘อนิรุจคือเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อคนนั้น แต่ผู้ชายคนนี้ก็กลายเป็นอดีตสามีของเธอไปแล้ว’
มีคำที่เธออยากจะอธิบายให้เขาคนนั้นฟังเป็นหมื่นแสนล้านคำ แต่มันคงไม่มีความหมายอะไร ในเมื่อตอนนี้ เขากับเธอคงไม่มีทางกลับคืนมาเริ่มต้นกันใหม่ได้
ที่สำคัญเธอคงไม่มีโอกาสได้อธิบายให้เขาคนนั้นได้ฟังแล้ว เพราะเขาคงแค้นเธอ โกรธเกลียดเธอ จนไม่อยากเจอเธออีกแล้วจนชั่วชีวิตของเขา
...เธอจำสายตาที่เขามองเธอในวันสุดท้ายก่อนจากกันเมื่อสิบกว่าปีก่อนได้ดี มันเต็มไปด้วยแววตัดพ้อรุนแรง เธอคิดว่าเขาคงแค้นเธอด้วย อย่างแน่นอน...
เธออาจโดนเขาสาปแช่งให้เจ็บปวดไม่ต่างกับเขาก็ได้ และเธอก็รู้ซึ้งถึงความเจ็บปวดนั้นแล้ว แม้ว่าจะไม่ได้ตั้งใจทำร้ายเขาจริงๆก็ตาม
...เธอไม่ได้ตั้งใจทำร้ายจิตใจเขาจริงๆนะ หลายเรื่องมันซับซ้อน ยากที่คนนอกจะเข้าใจ กับสิ่งที่เธอทำพลาดไป แล้วกลับไปแก้ไขไม่ได้อีกเลย...
ทำให้อิงทรายรู้สึกติดค้างอยู่ในใจเรื่อยมา และมันทำให้เธอไม่สามารถลืมเขาคนนั้นได้เลย
ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกัน เธอถึงตัดใจจากเขาไม่ลง ทั้งที่เธอควรจะคิดถึงพ่อของลูกด้วยซ้ำ แต่เธอกลับคิดถึงแต่เขาคนนั้นคนเดียวเรื่อยมา
โดยเฉพาะเวลานี้ที่ได้มาอยู่ในสถานที่แห่งความทรงจำ
ความทรงจำเหล่านั้น ระหว่างเธอกับเขาคนนั้น ก็กระจ่างชัดขึ้นมาในหัวใจแทบจะทุกฉากทุกตอน
ถามว่าหากเจอเขาตัวเป็นๆ เธอจะกล้าเข้าไปทักทายเขาไหม คำตอบคือ ‘ไม่กล้าแน่นอน’
เธอคงไม่กล้าเข้าใกล้เขาอีก คงไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับเขา เพราะเธอรู้สึกเหมือนว่า ตนเองทำผิดต่อเขามากมาย
‘แล้วถ้าหากว่าบังเอิญเจอเขาที่นี่ล่ะ ถ้าเขาเดินเข้ามาหาเธอล่ะ เธอจะกล้ายืนอยู่นิ่งๆ แล้วให้เขาเดินเข้ามาใกล้ไหม’
แค่คิดก็ใจเต้นระรัวแล้ว
อิงทรายรีบสลัดความคิดฟุ้งซ้านที่แสนจะเพ้อฝันทิ้งไป ก่อนจะลุกขึ้นกดชักโครก แล้วเดินมาดูความเรียบร้อยของตนเองหน้ากระจกเงาบานใหญ่
เธอสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ สองสามครั้งก่อนจะเดินออกมาจากห้องน้ำ และเธอก็ต้องเดินผ่านไปทางเข้าห้องน้ำชายไปอีกหน
เธอเดินแบบก้มหน้าก้มตา ไม่ได้ดูทางข้างหน้าเลย เพราะคิดว่าคงไม่มีใครเดินผ่านมา เธอเดินไปตามทางที่ปูด้วยอิฐบล็อก ตั้งใจมองอิฐสีขาวอมเทาทุกอย่างก้าว เพื่อจะได้ไม่เหยียบพลาด
...แต่เธอก็พลาด เดินชนกับอะไรสักอย่าง...
“อุ๊บ!...”
หญิงสาวถึงกับเสียหลักที่ชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ของใครบางคนที่เดินออกมาจากห้องน้ำชายอย่างรีบเร่ง พอดิบพอดี
‘อะไรจะบังเอิญขนาดนั้น’
เธอเกาะแขนแข็งแรงเอาไว้มั่นเพราะกลัวล้ม แล้วเขาเองก็โอบประคองร่างบอบบางเอาไว้มั่นกันเธอล้มเช่นกัน และเขาก็รอจนกว่าเธอจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาเขา เพื่อที่จะเอ่ยคำขอโทษที่เขาเดินชนเธอเข้าอย่างจัง
