Ep.2 ความทรงจำยังไม่จาง(2)
“จริงเหรอคะ”
“จริงสิ พี่จะโกหกแล้วให้ทรายโดนด่าได้ยังไงล่ะ”
อิงทรายไม่อยากจะเชื่อนัก แต่ว่าที่ผ่านมาสุดเขตก็ไม่เคยพูดโกหกอะไรเธอเลย เขาจริงใจกับเธอเสมอมา เป็นเวลาเกือบปี
“ก็ได้ค่ะ”
แล้วอิงทรายก็ขึ้นไปซ้อนท้ายบิ๊กไบค์คันโก้ที่นั่งได้เพียงสองคนแบบอิงแอบแนบชิด ด้วยอาการขัดๆเขินๆ
“ขยับมาอีกสิครับทราย ที่ยังเหลือตั้งเยอะ”
“ค่ะ” เธอขยับเข้าไปอีกนิดจนสีข้างของเธอติดชิดกับแผ่นหลังของเขานิดหน่อยแล้ว
“จับเอวพี่ไว้ด้วยนะ จะได้ไม่ตก”
“ค่ะ”
เธอจับที่เอวของโชเฟอร์หนุ่มเอาไว้หลวมๆ แต่ทว่าพอเขาออกตัวขับเคลื่อนออกไป เธอกลัวตกก็เลยต้องเกาะเอวเขาเอาแน่นขึ้น ทำให้สุดเขตแอบอมยิ้ม แล้วพอขับรถไปได้ครึ่งทาง เขาก็เอามือเขามากุมมือเล็กเอาไว้
อิงทรายรู้สึกใจเต้นแปลกๆ และอบอุ่นหัวใจมาก แต่พอขับผ่านคนมากมายเธออยากจะชักมือกลับแต่ก็กลัวตก แล้วบางจังหวะคนเจ้าเล่ห์ก็แกล้งขับรถตกหลุมบ้าง หรือเบรคกะทันหันบ้าง ทำให้เธอต้องตัวแนบชิดติดหน้าคะมำไปกับแผ่นหลังเขา จนหน้าอกของเธอเบียดชิดแผ่นหลังของเขาตั้งหลายครั้ง
กว่าจะไปถึงบ้าน หน้าอกสองข้างของเธอก็แทบช้ำ เพราะถูกกระแทกยามที่คนตัวโตแสนเจ้าเล่ห์แตะเบรคแรงๆจนคนข้างหลังหัวทิ่มหลายครั้งต่อหลายครั้ง
“ขอบคุณมากนะคะที่มาส่ง”
“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นได้ไหม”
อิงทรายมองหน้าคนตัวสูงที่ยังนั่งคร่อมรถยิ้มๆ
“เปลี่ยนเป็นอะไรดีคะ”
“ก็...ยอมให้พี่บอกคนอื่นว่าทรายเป็นแฟนพี่ได้ไหม”
“ไม่นะคะ! ทราย...ทรายยังไม่อยากใช้คำนี้ตอนนี้ค่ะ”
“แล้วทรายจะอนุญาตให้พี่ใช้คำนี้กับทรายเมื่อไหร่ล่ะ”
“เมื่อทรายสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้แล้วค่ะ”
“สัญญานะ”
“ทำไมต้องสัญญาด้วยคะ”
“ก็ทรายคือคนพิเศษของพี่ไง พี่รอที่จะเป็นแฟนกับทรายมานานแล้วนะ สัญญากับพี่สิ ถ้าทรายสอบเข้ามหาลัยได้เมื่อไหร่ ทรายจะให้พี่บอกคนอื่นได้ว่าพี่กับทราย เราเป็นแฟนกัน”
อิงทรายนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งจึงได้พยักหน้ารับ
“ก็ได้ค่ะ ทรายสัญญา”
อิงทรายนั่งคิดถึงความหลัง อยู่ตรงม้านั่งหินอ่อน ในตำแหน่งเดิมที่เธอเคยนั่ง แต่ม้าหินอ่อนถูกเปลี่ยนใหม่แล้ว และสภาพแวดล้อมต่างๆรอบกาย ก็เปลี่ยนไปมาก เปลี่ยนแทบจะทุกอย่าง
นานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่ได้แวะมาเยี่ยมเยียนสถานที่แห่งนี้ โรงเรียนที่เธอกับเขาเคยเรียนด้วยกัน
แต่เธอมาที่นี่วันนี้ ก็เพื่อจะพาลูกสาวเพียงคนเดียวของเธอมาสมัครเรียนที่นี่ในวันมะรืน เธอจึงมาสำรวจสภาพของโรงเรียนก่อนว่า มันเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน
ซึ่งเมื่อเดินดูรอบๆแล้ว ก็พบว่ามันดูสะอาดเรียบร้อย และพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นมากๆ
วันนี้เธอขับมอเตอร์ไซค์มาคนเดียว เพราะโรงเรียนอยู่ไม่ไกลจากที่บ้านมากนัก ขับรถมาประมาณยี่สิบนาทีก็ถึง
เวลานี้โรงเรียนดูเงียบสงบ มีผู้ปกครองไม่กี่คนที่เดินเข้ามาสำรวจโรงเรียนเหมือนเธอ แต่ก็เดินห่างๆออกไป เด็กวัยรุ่นที่มาเดินเล่นก็มีบ้างประปราย
คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวคนสวยลุกขึ้นเพื่อจะไปเข้าห้องน้ำก่อนจะขับรถกลับบ้าน เธอไม่ขับรถเข้าไป เพราะอยากจะเดินดูดอกไม้ใบหญ้าไปตามทางเดินเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงห้องน้ำมากกว่า
ร่างเพรียวบางระหง มีทรวดทรงองเอวราวกับสาวแรกรุ่นราวกับไม่เคยผ่านการมีลูกมาก่อน เดินลัดเลาะไปตามทางเดินที่ปูด้วยอิฐบล็อกสองแถวเรียงรายไปจนถึงประตูหน้าห้องน้ำ
แต่ก่อนที่จะเดินผ่านไปทางห้องน้ำหญิง เธอก็ต้องเดินผ่านทางเข้าห้องน้ำชายไปเสียก่อน
เธอมองดูแล้วว่าไม่มีใครอยู่แถวๆห้องน้ำเลย มันดูเงียบวังเวงจนคิดว่าอาจจะมีอะไรโผล่มาหรือเปล่า แต่หญิงสาวก็ยิ้มทำใจดีสู้เสื้อ
‘กลางวันแสกๆแบบนี้คงไม่มีอะไรโผล่มาหรอกมั้ง’
หญิงสาวในชุดฮาวายสไตล์จั๊มสูทที่เผยไหล่เนียนและหน้าอกขาวอวบรำไร บนร้องเท้าแฟชั่นส้นเตี้ยโชว์เท้าเรียวที่ขาวสวยจรดเล็บที่ตกแต่งเคลือบเงามาอย่างดี
อิงทรายเป็นคุณแม่ที่ยังสวยบอบบางเช่นเดิม มีรูปร่างราวกับนาฬิกาทราย คล้ายกับสมัยมัธยมปลายไม่มีผิด จะต่างก็แค่ เธอดูสวยปราดเปรียวและมีเสน่ห์ชวนมองมากขึ้นเท่านั้น
