สนิทเกินผัว
[Kungking Talk]
ทฤษฎีที่ 3
เพื่อนกันไม่กอดกันแบบนี้
เวลา 23.00 นาที
"อื้อ ไอ้ขุน!"
ฉันตื่นขึ้นมาพร้อมกับความตื่นตกใจ เมื่อรับรู้ได้ถึงอะไรบางอย่างกำลังรั้งที่เอวคอดเอาไว้แน่น แถมอ้อมแขนแกร่งของมันยังสอดเข้าใต้ซอกคอของฉัน
กลับกลายเป็นว่าฉันกำลังนอนให้ผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเพื่อนสนิทกอดอยู่ จะตกใจทำไมเพราะใจมันก็ชอบอยู่แล้วปะเอาดีๆ ดิ๊
'เอาสิ มึงกอดกู กูกอดกลับนะ'
ก็นะเดี๋ยวมันรู้ว่าอยากให้มันกอด แต่นอนต่ออีกหน่อยจะเป็นอะไรไป ฉันรีบขยับใบหน้าซุกไซ้แผงอกของขุนศึก พร้อมกับยกอ้อมแขนกอดรัดตัวมันเหมือนกัน ทำเหมือนนอนหลับไม่ได้สติต่อไป ทั้งที่ตื่นจนไม่รู้จะตื่นอีท่าไหนแล้ว
'เอาจริงดิ'
แต่อยู่ในใจกลับรู้สึกแปลกๆ จะให้กอดมันแบบสนิทใจได้ยังไงในเมื่อเราสองคนยังอยู่ในสถานะเพื่อน ถึงแม้ฉันจะรู้สึกกับมันไปแล้วก็เถอะ
"มึงหนาวมากขนาดนั้นเลยเหรอ?"
เสียงแหบพร่าดังอู้อี้ออกมาเหนือหัวของฉัน ทำให้คนที่อยู่ในอ้อมกอดของมันสะดุ้งตัวตื่น รีบขยับตัวออกจากการกอดมันไปอย่างรวดเร็ว
"ไอ้ขุน มึงมากอดกูทำไมเนี่ย?"
"ก็มึงบ่นว่าหนาว แล้วก็เข้ามากอดกูเองอะ"
"ไม่จริง! ใครจะคิดพิศวาสมึงขนาดนั้น?"
"แต่เมื่อกี๊มึงกอดกูอยู่นะกริ๊ง"
ยังมีหน้าหันมาอมยิ้มกรุ้มกริ่มใส่ฉันอีก ถึงจะมีใจแต่พอเอาเข้าจริง กำแพงหนาถูกยกขึ้นมาปิดกั้นใจขังตัวเองที่กำลังดิ้นตายอยู่ในนั้นเหมือนเดิม เพียงเพราะคำว่าเพื่อนค้ำคออยู่ เมื่อไหร่มันจะยอมทุบไม้ค้ำและเปิดสมรภูมิรบกันสักทีวะ
"อย่ามามองแบบนั้น ขนลุกไอ้สัตว์ เดี๋ยวผิดผีในห้องกู"
"ฮ่าๆ"
"ไม่ต้องมาขำ กลับไปนอนห้องมึงได้แล้วไป กูจะดูซีรีส์แล้ว"
"กูดูด้วย"
ปกติก็เป็นแบบนี้กันประจำ นอนดูซีรีส์ด้วยกันตลอด แต่ที่แปลกเพราะครั้งนี้คือฉันตื่นมาแล้วเจอมันกอดฉันอยู่ ซึ่งมันต่างจากทุกครั้งที่มันนอนค้างที่ห้อง ใจมันเต้นสั่นระริกระรี้เอาตรงๆ ก็ชอบแหละ แต่ฉันก็แอบกังวลกลัวนะเอาจริงๆ
"เออ เรื่องที่จะไปเที่ยวกันเสาร์อาทิตย์นี้มึงจะไปปะ?"
อยู่ในขณะที่ซีรีส์กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม เสียงของขุนศึกก็ดังแทรกขึ้นมา ดึงความสนใจของฉันหันกลับไปมองมันที่นั่งอยู่ข้างๆ บนโซฟาตัวเล็กที่อยู่ในห้องรับแขก ใจดำเกิน จะไม่ปล่อยให้ซีรีส์จบก่อนหรือยังไง
"ถามอะไรตอนนี้วะ?"
"ก็กูพึ่งนึกได้ เดี๋ยวลืมก่อน"
"เดี๋ยวค่อยให้คำตอบได้มั้ยล่ะ กูดูซีรีส์แป๊บ"
"ไม่ดิตอบมาเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวก็ลืม"
นิ้วยาวมันเร่งจับบนหัวของฉัน และหมุนให้หันหน้ากลับมามองมัน กับสายตาที่มันมองมาที่ฉัน ไม่บอกก็รู้ว่าไอ้ห่านหน้าหวานตัวนี้มันกำลังกวนตีนฉันอยู่ กวนตีนได้เวล่ำเวลาตอนซีรีส์กำลังวิ่งไล่จับตัวร้ายเนี่ยนะ
"อ้าว! สรุปเมื่อกี้ไอ้ตัวบงการมันคือใคร เพราะมึงคนเดียวเลยไอ้ขุน"
"เอ้า!"
สรุปคือฉันก็ต้องพลาด ดูไม่ทันว่าใครคือผู้บงการตัวร้ายในเรื่อง มันน่าไหมล่ะ โมโหละนะ คืนนี้คงต้องหยุมกันอีกสักตั้งหน่อยเป็นไง
"มึงไอ้เชี่ยขุน"
"เฮ่ยๆ โอ๊ยๆ เจ็บนะกริ๊ง"
เช้าวันต่อมา
เวลา 09.00น.
"รีดเสื้อให้กูหน่อยดิ นึกว่ารีดไว้แล้วลืมอะ"
"แหม! ไอ้สัตว์นอนก็มานอนกับกู เสื้อก็ให้กูรีดให้อีก ไม่มาเป็นผัวกูเลยล่ะขุน"
"กลั้นใจเอาตอนนี้เลยไหมล่ะ จะได้จบๆ
คราวนี้มันเอาจริง ไอ้หน้าหวานมันตั้งท่าเดินเข้ามาหาฉันที่นั่งรีดชุดนักศึกษาอยู่ด้วยสีหน้าจริงจัง พร้อมกับถอดเสื้อนักศึกษาออกเหวี่ยงมันทิ้งลงพื้น ให้สายตาฉันแทะเล่นก่อน เอ้า! บทจะเอาง่ายๆ ก็จะเอาง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอมันจะกล้วยหอมจอมซนเกินไปปะ
"หยุด!!"
"เฮ่ย! อีกริ๊ง"
เตารีดร้อนๆ พ่นไอน้ำฟู่ๆ ออกมาตรงขึ้นคั่นกลางระหว่างตัวฉันกับมัน ทำให้ขุนศึกรีบเบรกเท้าเอาไว้ทัน พร้อมกับกรีดร้องเสียงหลงเหมือนหมาโดนตอนไข่เชียว ไม่ร้องได้ยังไง ก่อนที่หน้าหวานๆ ราวกับใบหน้าผู้หญิงของมันจะเสียโฉมเข้าให้นะสิ
"ถ้ากูหมดสวยมาทำไงวะ? คนมันยิ่งสวยๆ ซะด้วย"
"หล่อไหมไอ้สัตว์ เล่นอะไร ทะลึ่งนะมึงอะ"
ฉันบ่นให้มันอุบใหญ่ นี่ถ้ามันไม่ระวังขึ้นมาแล้วแก้มมันมาโดนเตารีดร้อนๆ ขึ้นมาจะทำยังไง เป็นแผลเป็นขึ้นมาหมดหล่อของจริง ขุนศึกคงหายซ่าก็คราวนี้แหละ
หมัม!!
"อ๊ะ อ๊ายยย ไอ้ขุนหยุดนะ!"
มันคงมันเขี้ยวฉันแหละ ขุนศึกกดฟันคมกัดลงที่แก้มขวาของฉันเหมือนหมาบ้าและมันกัดแรงมาก
ทำให้ฉันตกใจหนักกว่าเดิม รีบตีมือมันที่เกาะกุมใบหน้าฉันอยู่ ให้ปล่อยออกรัวๆ เพราะตอนนี้น้ำหูน้ำตาฉันทะลักไหลหลั่งออกมาไม่ขาดสายด้วยความเจ็บปวด นี่มันหมาว้อชัดๆ วัคซีนตัวไหนก็เอาไม่อยู่นะทรงนี้
"อึก อือ ไอ้สัตว์เจ็บนะเว่ย อือออ"
"เฮ่ยกริ๊ง ร้องไห้เลยเหรอ?"
"ไอ้เหี้ยขุน อึอ เจ็บนะ อือ"
แต่คราวนี้มันทำเกินเพื่อนไปจริงๆ สมองยังไม่ทันประมวลผลว่ามันกำลังล้ำเส้นเพื่อนไปหรือเปล่า
แต่ด้วยความเจ็บและตกใจ ฉันรีบดีดตัวลุกขึ้นจากเก้าอี้ และตรงดิ่งเข้าไปส่องหน้าตัวเองในกระจกทันที
"มึงดูดิเป็นรอยเลย อึก อือ"
รอยฟันของขุนศึกที่ประทับตีตราไว้บนแก้มขวาของฉัน เป็นรอยแดงที่มาพร้อมกับรอยฟกช้ำเป็นสันนูนอย่างชัดเจน เละยิ่งกว่าโดนพิทบูลขย้ำมาเสียอีก
"เฮ่ยกริ๊งกูขอโทษ ไม่ได้ตั้งใจ"
"ไม่ได้ตั้งใจป๊าเขตแดนมึงสิไอ้สัตว์ กัดแรงมาก แก้มกูต้องช้ำมากแน่ๆ อึก ฮือ"
เอ่ยชื่อพ่อมันสักหน่อย เผื่อคนอย่างมันจะสำนึกได้จริงๆ ว่าทำให้ฉันเจ็บตัว มองหน้าตัวเองในกระจกกับสภาพหน้ายับยู่ยี่จากการร้องไห้ มันโคตรทั้งน่าเกลียดและทุเรศขี้มูกตัวเองที่ตอนนี้ผสมผสานกับหยดน้ำตาไปแล้วเรียบร้อย เค็มดีอีกเฮ้อ! เอาจริงๆ ไม่ได้เจ็บจนจะตายขนาดนั้นหรอก แค่ห่วงตัวเองจะไม่สวยเฉยๆ
"ขอโทษจริงๆ กริ๊ง"
ขุนศึกเดินตรงดิ่งเข้ามาหาฉัน พร้อมกับจับหน้า และก้มลงมาใกล้ๆ แบบนี้หัวใจวายนะขุนเอาดีๆ นะ ก่อนที่มันจะจ้องมองหน้าฉันใกล้ๆ ค่อยๆ เป่าลมร้อนลงที่แก้มข้างขวาของฉันเป็นการปลอบใจ ก็ได้แหละ แต่ได้กระจิริดหนึ่ง
"กูไม่ได้ตั้งใจ เผลอเล่นแรงไปหน่อย"
นิ้วยาวไล่เช็ดคราบหยดน้ำตาออกให้ และดึงฉันเข้าไปกอดเอาไว้แน่น คลอเคลียกับกลิ่นแผงอกหอมกรุ่นเนื้อเน้นๆ ไร้ซึ่งเสื้อปกปิดเหมือนทุกครั้ง
กลิ่นสาบผู้ชายเตะเข้าจมูกดังโป๊ก! ตายอย่างสงบศพสีชมพูพริ้ง ขอให้ต่อจากนี้จงเป็นสุข เป็นสุขเถอะนะกรุ๊งกริ๊ง!
"อื้อ! ปล่อยกู"
"ไม่ปล่อย มึงให้อภัยและหายโกรธกูก่อนกริ๊ง"
"ไม่! ปล่อยกู"
พอได้กอดก็กอดจังเลยนะ ฉันก็ทำทรงดิ้นไปงั้นแหละ ที่จริงก็อยากให้มันกอด เป็นเพื่อนกันมาเกือบ 4 ปี นี่ครั้งแรกที่มันกอดฉันแน่น
มากกว่าเพื่อนจะกอดกันแบบนั้น ใช้ตีนไก่ในน้ำยาขนมจีนร้านเจ๊ลั่นทมขึ้นมาปิดสองตา ก็ดูออกว่าไอ้หน้าห่านนี้มันไม่ได้กอดฉันเหมือนเพื่อนทั่วๆ ไปเขากอดกันแน่ๆ
"ไม่ปล่อย"
"ขุน ปะ ปล่อย"
"ไม่!"
"อะ ไอ้ขุนปล่อย สะ เสื้อกูไหม้!!"
กะจะโรแมนติกสักหน่อย หาเรื่องให้กรุ้งกริ๊งคนสวยปวดประสาทอีกแล้ว วันนี้มันวันซวยอะไรของฉันวะ มีแต่เรื่องให้เจ็บตัว แถมต้องเสียเงินอีกต่างหาก ว่าแล้วก็รีบผลักร่างสูงของไอ้ห่านฟ้าตัวนี้ออกให้ไว ก่อนจะรีบแจ้นเข้าไปยกเตารีดที่ทับเสื้อฉันจนส่งกลิ่นเหม็นไหม้คละคลุ้งไปทั่วทั้งห้อง พร้อมกับรอยดำขนาดมหึมาตีตราหน้าว่าหมดสิ้นแล้วความหวังจะได้เสื้อกลับคืนมา คอนโดจะปล่อยน้ำลงมาลูบหัวที่กำลังร้อนระอุของฉันอยู่หรือเปล่าวะ
"เฮ้ย!!"
"อีเหี้ยขุน เสื้อกูไหม้แล้วเนี่ย ไอ้…"
"กูขอโทษวะกริ๊ง"
คราวนี้มันคงสำนึกผิดทัน รีบยกมือทั้งสองข้างพนมนิ้วบรรจงไหว้ว่าที่เมียในอนาคตอย่างฉันงามๆ สักทีสองที เมื่อมันเห็นสีหน้าที่กำลังโมโหร้ายสุดจะแดงก่ำยิ่งกว่ายมบาล ควันออกหูพรึบๆ ของฉัน ถึงกลับหน้าถอดสี เป็นซีดเผือดยิ่งกว่าห่านโดนต้มเสียอีกนะมึง!
"เดี๋ยวกูซื้อเสื้อให้ใหม่"
"มึงงงงงงงงงงง!!"
ความโมโหแทรกขึ้นกลางหฤทัย มีที่ไหนคนอย่างฉันจะยอม วันนี้ไอ้หน้าหมานี้ไม่เจ็บตัว เอาไม้หน้าสามมาทุบหัวคนอย่างกรุ๊งกริ๊งได้เลย
"ดะ เดี๋ยว..."
"ออกไปไกลๆ ส้นตีนกูเดี๋ยวนี้ ไอ้เหี้ยขุน"
"อย่านะกริ๊ง อย่ากริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง เฮ้ยยยยย!!"
ขวดฟ็อกกี้คิดตี้ลูกรักลอยละลิ่วไปตามร่างของขุนศึกที่กำลังถอยหลังห่างจากฉัน ออกไปยังบานประตู
ปั๊ก!!
"อ่าาาาา เจ็บนะกริ๊ง"
แม่นกว่าฉันไปไม่มีใครเกินแล้ว นี่อุตส่าห์ไม่ขว้างแรงนะ และไม่ตั้งใจจะขว้างด้วยนะ เหรอวะ? ยังโดนหัวมันจังๆ ดังปั๊ก! สนั่นห้อง
ผีในห้องผลักใส่แน่ๆ งานนี้ ก็สงสารอยู่แหละ แต่ก็สมน้ำหน้ามันมากกว่า ถ้ามันหัวโนมาทำไงวะ ก็เจ๊าๆ กันกับที่มันกัดแก้มฉันแล้วกันเพื่อน
"ออกไปเลยนะไอ้ฉิบหาย แหมทำตัวสนิทเกินผัวกูไปแล้วมึงอะ"
ปัง!!
โมโหก็โมโห อยากจะหยุมมันมากกว่านี้แต่มันหนีออกจากห้องไปได้เร็วกว่าเท้าสองข้างของฉัน จะตามมันไปได้ทัน
แถมปิดประตูห้องใส่หน้าฉันเสียงดังลั่นทั้งชั้นอีกต่างหาก ทดเอาไว้ก่อนนะ เดี๋ยวเจอพายุทอร์นาโดซัดอีกรอบแน่ๆ เริ่มก่อตัวรออยู่เขตชายฝั่งแล้วตอนนี้ ไอ้หน้าหวาน!
Talk
ทฤษฎีล้ำเส้นเพื่อน หรือทฤษฎีล้ำเส้นตายกันแน่วะ เอาดีนะไอ้ขุนศึก55555
