บทที่ 1 บาปที่ไม่ได้ก่อ
โศกนาฏกรรมเมื่อตอนกุลนิษฐ์อายุแปดขวบ พ่อและแม่ของเธอประสบอุบัติเหตุรถยนต์ตกไหล่ทางพลิกคว่ำเสียชีวิตคาที่พร้อมกันทั้งสองท่าน มีเพียงเธอคนเดียวที่รอดมาได้ในครั้งนั้น ความจำในช่วงก่อนแปดขวบกุลนิษฐ์หายไปพร้อมกับคำว่า ‘ครอบครัว’
ดุษฎี ยุทธโยธิน เป็นปู่แท้ ๆ ของเธอ ท่านมีลูกชายคนเดียวคือพ่อของกุลนิษฐ์ ในตอนนั้นธุรกิจโรงแรมของตระกูลกำลังไปได้ดีด้วยความทุ่มเทมุมานะของสองพ่อลูก
พ่อกุลนิษฐ์เรียนจบนอก และกลับมาฟื้นฟูกิจการของครอบครัว ดุษฎีหวังเป็นอย่างมากกับลูกชายคนนี้เพราะเลี้ยงมาด้วยตัวคนเดียวภรรยาเสียไปตั้งแต่ลูกชายยังเด็ก
ในตอนที่อายุมากขึ้น เขาไม่มีหวังอื่นใดนอกจากลูกชายเพียงคนเดียว และเมื่อพ่อของกุลนิษฐ์มาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ทุกอย่างที่วาดฝันกันมาเกือบครึ่งชีวิตก็พังทลายลงในพริบตา
ดุษฎีสูญสิ้นทุกอย่าง และนอกจากภาระและหนี้สินต่าง ๆ ที่จะต้องแบกรับด้วยตัวคนเดียว หนึ่งในนั้นก็คือกุลนิษฐ์ที่เป็นลูกสาวของลูกชายอีกด้วย
คนเป็นปู่เศร้าโศกเสียใจและยิ่งรู้ว่าต้นเหตุของเรื่องราวน่าเศร้านั่นเป็นเพราะหลานสาวที่รักอย่างกุลนิษฐ์ร้องงอแงอยากจะออกไปกินไอศกรีมที่ห้างสรรพสินค้าทั้งที่ฝนตกหนักจนคนเป็นพ่อและแม่ต้องตามใจ
ตามคำบอกเล่าของพยานที่ขับรถสวนเลนส์ถนน วันนั้นฝนตกหนักมาก พ่อของเธอขับรถออกไปท่ามกลางสายฝน และก็เกิดอุบัติเหตุห่างจากบ้านไม่กี่กิโล
รถพุ่งไปชนบังเกอร์ข้างทางตัวเด็กหญิงวัยแปดขวบกระเด็นออกมาจากตัวรถกลิ้งไปตามถนน ส่วนพ่อแม่ช่างน่าเศร้าตกลงไปในหุบเหวลึกกว่าจะกู้ร่างขึ้นมาได้ก็ใช้เวลาเกือบครึ่งเดือน
กุลนิษฐ์อยู่ที่โรงพยาบาลนานเป็นเดือนเพราะต้องรักษาตัวจากอาการสมองบาดเจ็บ และภาวะสูญเสียความจำจากการกระทบกระเทือนทางอารมณ์
มันน่าแปลกในตอนที่ทุกคนสูญเสียและร้องไห้ราวกับโลกถล่มลงมาตรงหน้า กุลนิษฐ์ได้แต่มองทุกคนด้วยความรู้สึกไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนต้องร้องไห้ด้วย
อ้อ…คนที่เป็นพ่อและแม่เธอตายไปแล้ว ตายด้วยน้ำมือของเธอ
‘แกมันตัวซวย! ตัวซวย!’
‘นิดต้องทำยังไงคุณปู่ถึงจะรักนิด…รักนิดเหมือนเดิม’
‘ต้องเก่งให้ได้เหมือนลูกชายฉัน!! ถ้าแกทำได้ฉันก็จะยอมรับแกเป็นหลาน!’
‘แกอยากให้ฉันยกโทษให้แกใช่ไหม แกทำได้ไหม! เก่งเหมือนพ่อแกให้ได้!’
ดุษฎีในสายตาของทุกคนที่พบเห็น แม้อายุอานามจะมากขนาดนี้ ท่านเป็นชายชราผมสีดอกเลาที่ยังคงความดูดีแบบชายหนุ่มรุ่น ๆ ด้วยรูปร่างสูงโปร่งไม่ปล่อยเนื้อปล่อยตัว
รูปลักษณ์ภายนอกดูดีกับนิสัยที่อุทิศตัวเพื่อครอบครัว ดุษฎีเป็นคุณปู่ผู้แสนอบอุ่นดูแลหลานสาวกำพร้าเพียงลำพัง แต่ใครจะรู้ว่าเบื้องหลังของปู่หลานคู่นี้มันก็มีแต่คราบน้ำตาและความเจ็บปวด
‘ถ้าแกสอบไม่ได้คะแนนเต็ม แกก็อย่ากลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีก!’
กุลนิษฐ์คือหลานสาวเพียงคนเดียวของดุษฎี ท่านรักและไว้ใจหญิงสาวที่สุด เธอผู้เป็นดั่งทุกอย่างที่เหลืออยู่ในชีวิตเขา ทุกแรงกดดัน ทุกความปรารถนา เก็บกักและสั่งสมอยู่ในตัวตนของกุลนิษฐ์
ยิ่งหวังในตัวลูกชายที่จากโลกนี้ไปมากเท่าไหร่ ก็จะมาทับถมเอาคืนกับหลานสาวมากขึ้นเท่านั้น เงารัก เงาใจ เงาของลูกชายเพียงคนเดียวที่เฝ้าคิดถึง
เด็กหญิงกุลนิษฐ์ผู้ถูกเลี้ยงมายังกับไข่ในหิน คนเป็นปู่ไม่เคยทุบตีเธอทางร่างกาย แต่สำหรับหัวใจฉกรรจ์ไปด้วยบาดแผล
กุลนิษฐ์ต้องอยู่กับแรงเสียดสีในทุกวัน มันเป็นระยะเวลายาวนาน...มันนานจนหญิงสาวไม่คิดว่าในโลกสีเทา ๆ ใบนี้จะมีสิ่งไหนที่ทำให้เธอเจ็บปวดได้อีก
บางคนบอกว่าชีวิตของกุลนิษฐ์ช่างโชคดี บางคนบอกว่านี่คือเวรกรรม บางคนบอกว่าเธอเสแสร้งแกล้งจำไม่ได้ทั้ง ๆ ที่เธอจำได้ทุกอย่าง เพียงแค่เธอจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นในคืนนั้น ครอบครัวก็จงเกลียดจงชัง
กุลนิษฐ์จำความรู้สึกทั้งรักทั้งเกลียดของคนเป็นปู่ได้ดี ท่านร้องไห้และดื่มเหล้าทุกวัน และเมื่อดื่มแล้วก็จะด่าทอแต่เธอ หญิงสาวเติบโตขึ้นมาท่ามกลางแรงอารมณ์ขึ้น-ลงของท่าน
จากเด็กสาวผู้อ่อนโยนเอาแต่ใจ เมื่อพบเจอความแตกสลายซ้ำ ๆ ก็กลายเป็นคนแข็งกระด้างในที่สุด กุลนิษฐ์มองโลกทุกอย่างเป็นสีเทา และใช้ชีวิตอยู่บนทางสีขาวที่เรียบง่ายแต่ไม่อ่อนโยน
จนกว่าทุกอย่างจะจบลง…เธอเพียงรอให้ถึงเวลาที่เหมาะสมก็เท่านั้นเอง