บท
ตั้งค่า

บทที่ 9 วันสิ้นปีเหมือนสิ้นใจ (2) 

“อ้อ หลานขอใช้โอกาสนี้แจ้งอาสะใภ้หน่อยเจ้าค่ะ เมื่อเช้าตอนหลานจะเลือกชุดใส่สำหรับวันนี้ ชุดตัวหนาที่ลายงดงามส่วนใหญ่มีขนาดหลวมไปกว่าหลานแทบทุกตัวเลยเจ้าค่ะ หลานหยิบมาใส่ได้น้อยตัวมาก ก่อนหน้าหลานเห็นน้องสามน้องสี่มีบ่าวทำชุดมาวัดขนาดตัวไปทว่าหลานรอเท่าไหร่ก็ไม่มีใครมาวัดตัวเสียที จนหลายวันก่อน มีเสื้อผ้าใหม่สำหรับใส่ในอากาศหนาวมาส่งหีบหนึ่งทั้งที่ไม่วัดตัว หลานยังแปลกใจอยู่เลย ส่งบ่าวไปแจ้งก็ถูกตอบกลับมาว่าอาสะใภ้ยุ่งมากจึงรอจนป่านนี้เจ้าค่ะ”

ใบหน้าของหยางเชาหลินแข็งค้างไปแล้ว ใครจะคิดกันเล่าว่าการที่นางตั้งใจไม่อยากให้หลานที่อยู่ดีดีก็มีเค้าความงามที่ถูกถ่ายทอดจากพี่สะใภ้ใหญ่ที่ล่วงลับไปแล้ว แต่ก่อนมีผิวและหน้าไม่น่าดูก็พอจะช่วยเลี้ยงดีดีได้หรอก

ตอนนี้กลับดูท่าจะโดดเด่นเกินบุตรสาวของตนจนน่าตกใจ จึงหวังใช้โอกาสนี้ลดโอกาสทัดเทียมบุตรสาวตนเสีย

แต่ตอนนี้หยางเชาหลินต้องรีบแก้ต่างก่อน

“อา อาสะใภ้คงหลงลืมไปบ้าง ช่วงนี้มีชุดพิธีการของท่านอาเจ้าที่ต้องจัดการเพิ่มมาอีกเลยผิดพลาดไปกระมัง เดี๋ยวหลังจากวันนี้อาให้บ่าวไปวัดตัวคุณหนูรองนะ แล้วจะให้รีบส่งชุดใหม่ไปให้...”

เหยียนเฟยพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย ทว่าสิ่งนี้คือการเริ่มต้นเท่านั้น การที่ชุดของนางใส่ได้หรือไม่นั้นไม่สำคัญเท่าไร ที่นางเกริ่นเรื่องนี้มาเพราะต้องการใช้เข้าเรื่องที่สำคัญกว่าต่างหากเล่า!

“ขอบคุณท่านอาสะใภ้มากเจ้าค่ะ สิ้นปีแล้วใกล้ปีใหม่ท่านอาสะใภ้มีงานให้ทำมากมายจริงๆ ไหนจะต้องตัดชุดใหม่ให้ทุกคนในตระกูลเฉิน สิ้นปีแล้วยังต้องตัดชุดใหม่ให้บ่าวในจวนอีก ไหนจะรางวัลที่ต้องคำนึงเป็นอย่างดีว่าควรมอบให้เหล่าบ่าวอย่างไรถึงจะพอดี พอเลยพ้นปีไป จวนของเราตกแต่งงดงามเพียงนี้ก็เป็นเพราะอาสะใภ้ที่ตรากตรำทำงานอย่างหนัก ทว่าอีกไม่กี่วันญาติฝ่ายอาสะใภ้ก็เห็นว่าจะเดินทางมาเยี่ยมเยียน คงต้องทั้งจัดที่ในจวน ทั้งเตรียมงานเลี้ยงฉลองปีใหม่ พอบ่าวของอาสะใภ้บอกว่าท่านเตรียมทุกอย่างจนเหนื่อยหลานก็ไม่อยากจะรบกวนเจ้าค่ะ

การที่ลืมส่งบ่าวมีวัดตัวหลานนั้นเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย แก้ไขได้ไร้ผลกระทบใหญ่ตามมา หลานซาบซึ้งในความตรากตรำของอาสะใภ้เสียจริง...”

แน่นอนสิ่งเหล่านี้น้อยคนจะรู้ว่าการเป็นฮูหยินประมุขนั้นต้องทำงานหนักเพียงใด แม้แต่อาสะใภ้สายรองคนอื่นยังไม่รู้ละเอียดเท่าที่เหยียนเฟยเอ่ยเลย ฟังเท่านี้ยังรู้สึกว่าหยางเชาหลินทำงานหนักจนหากสังเกตที่ใต้ตาก็มีความคล้ำหมองขึ้นมาทันใด

แต่ชะตานี้ฮูหยินคนไหนก็อยากได้นัก จึงมีความอิจฉาแฝงมาในความรู้สึกของสตรีด้วย

ทว่าบุรุษอย่างอารองที่ออกไปทำงานตอนเช้า กลับมาตอนเย็นพอได้ยินที่เหยียนเฟยไล่เรียงหน้าที่ออกมาก็พาให้รู้สึกสงสารฮูหยินของตนจนหันมองด้วยสายตาซาบซึ้งใจ

คนถูกมองก็พาให้ขวยเขินจนแอบขอบคุณเหยียนเฟยที่เอ่ยแทนใจอย่างไม่รู้ตัว

“ท่านแม่ อย่าลืมพักผ่อนให้มากๆนะขอรับ งานอื่นใดให้ผู้อื่นทำได้ก็แบ่งเบาไปบ้างก็ดี”

จิ้งหลินพูดด้วยน้ำเสียงเต็มไปด้วยความเป็นห่วงจากใจจริง เขาที่วันๆไม่อยู่ที่กรมก็เข้าเก็บตัวในห้องหนังสือไม่รู้ความลำบากของมารดาจริงๆ

“ข้าเห็นทุกคนมีความสุขก็หายเหนื่อยแล้วล่ะ ขอบใจหลานที่เป็นห่วง”

บรรยากาศซาบซึ้งอยู่มาสักพักหนึ่งจนน่าจะเพียงพอแล้ว เหยียนเฟยก็เอ่ยแทรกต่อ

“เช่นนั้นหลานขออาสาแบ่งเบาภาระของอาสะใภ้ก็แล้วกันเจ้าค่ะ อย่างไรอาสะใภ้ก็มีงานต้องจัดการอีกมากหลานว่าสินเจ้าสาวของมารดารวมถึงร้านค้าและที่ดินของบิดาที่ท่านย่าฝากอาสะใภ้ให้ช่วยดูแลให้ หลานว่าจะขอเอากลับมาดูแลเองเจ้าค่ะ หากอาสะใภ้ต้องเตรียมงานฉลองปีใหม่พร้อมกับดูแลบัญชีทั้งหมดของอารองเอง ของส่วนกลางแล้วยังมีของหลานอีกเกรงว่าสุขภาพท่านอาจะย่ำแย่ได้ อย่างไรอีกไม่ถึงหนึ่งปี หลานก็ถึงวัยปักปิ่นแล้ว หลานว่าจะไม่รบกวนอาสะใภ้ให้เหน็ดเหนื่อยแล้วเจ้าค่ะ”

ในดวงตาของหยางเชาหลินหดเกร็งชั่วครู่ นางมองเหยียนเฟยอย่างคนแปลกหน้าที่กำลังแย่งสมบัติตน ทว่าเวลาผ่านไปชั่วครู่สายตาก็พลันอ่อนโยนอย่างเช่นมารดามองบุตรสาวแล้ว

“เรื่องนี้อาสะใภ้ชินแล้วไม่ลำบากเท่าใดนัก อย่างไรฮูหยินผู้เฒ่าก็ไว้ใจอาสะใภ้ยิ่ง จะให้อาทิ้งคำสั่งเสียนั่นได้อย่างไรกัน...”

“จริงของอาสะใภ้เจ้าค่ะ แต่หลานคิดตามคำของน้องสาวเอ่ยก่อนหน้าแล้ว หากหลานไร้ความสามารถเยี่ยงสตรีเช่นนี้ ทั้งยังบริหารดูแลจวนไม่เป็น ไม่เคยฝึกฝนการดูแลร้านรวงต่างๆหลานกลัวว่าบ้านสามีในอนาคตจะไม่ต้อนรับคนเฉกเช่นหลานเจ้าค่ะ...

แต่หากได้ฝึกฝนผ่านการดูแลร้านและที่ดินของสินเจ้าสาวมารดาและทรัพย์สินของบิดาเวลาเพียงเท่านี้ย่อมชำนาญได้ง่ายยิ่ง อีกทั้งหากหลานทำสิ่งใดพลาดไปก็คงไม่รู้สึกผิดมากนักเพราะเป็นของหลานเอง ความรู้ในการดูบัญชีเบื้องต้นอาสะใภ้ก็สอนหมดแล้วเหลือก็แต่ประสบการณ์จริงเท่านั้นเอง...”

เหยียนเฟยคิดมาแล้วว่าแม้นนางขอเอาทรัพย์สินกลับมาต่อหน้าคนในตระกูลเฉินก็ตาม อาสะใภ้รองย่อมไม่ยอมง่ายๆหรอก นางต้องหาเหตุผลร้อยแปดพันเก้ามาสนับสนุนให้นางยังเป็นคนดูแลเช่นเดิม

ทว่าเหยียนเฟยก็ไม่ย่อท้อหรอก นางก็เตรียมการมาดีเช่นกัน คอยดูเถอะ

“เรื่องนั้นอาสะใภ้ย่อมหวังดีกับคุณหนูรองอยู่แล้ว หลังจากนี้เอาเป็นว่าอาจะให้บ่าวส่วนตัวสอนการบริหารกับบัญชีร้านจริงเพิ่มขึ้นอีกหน่อย และฝึกฝนเรื่องการคำนวณให้ชำนาญเพิ่มอีก พอหลานเข้าใจดีแล้วอาสะใภ้จะให้หลานฝึกหัดกับร้านของบิดาเจ้าก็แล้วกัน”

นั่นก็หมายความว่ายังไม่ให้เหยียนเฟยดูแลร้านตนเองนั่นล่ะ ขนาดกล่าวต่อหน้าคนหมู่มากยังไม่ให้นางเลย ลับหลังไปอย่าหวังว่าจะได้เห็นแม้รายการเดินบัญชีของจริง...

“หากอาสะใภ้เป็นกังวลเพียงเรื่องนี้ ความรู้เรื่องบัญชีและตัวเลขหลานชำนาญหรือไม่ถามอารองก็รู้แล้วเจ้าค่ะ ท่านอารองว่าอย่างไรเจ้าคะ?”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel