บท
ตั้งค่า

บทที่ 10 ญาติของอาสะใภ้รองมาเยี่ยมเยียน 

“หากอาสะใภ้เป็นกังวลเพียงเรื่องนี้ ความรู้เรื่องบัญชีและตัวเลขหลานชำนาญหรือไม่ถามอารองก็รู้แล้วเจ้าค่ะ ท่านอารองว่าอย่างไรเจ้าคะ?”

สายตาคาดหวังของเหยียนเฟยถูกส่งไปยังประมุขตระกูลที่นิ่งฟังเรื่องในจวนที่ตนไม่เคยสนใจเลยจนคนถูกอ้างถึงสะดุ้งหน่อยๆ เมื่อตั้งสติว่าตนกำลังถูงจ้องมองจากหลายสายตาจึงเอ่ยปากตอบตามสิ่งที่เขารู้ดีอย่างไม่คิดอะไรมาก

“อาเฟยมีพรสวรรค์เรื่องคำนวณยิ่ง อีกทั้งยังสามารถจัดการบัญชีช่วยข้ามาแล้ว...”

ที่เขาพูดไปนั้นเกิดจากการที่เขาค้นพบพรสวรรค์ของหลานผู้นี้เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า ในระหว่างที่หลานที่ไม่เคยสนิทกันมาก่อนขอร้องให้เขาช่วยดูอักษรที่นางเขียนนั้นเอง เขาได้เห็นรูปแบบการจัดการบัญชีของสมุดทรัพย์สินส่วนตัวของนาง

ความรู้สึกแรกคือประหลาดใจที่นางใช้รูปแบบบางอย่างจัดการบัญชีรายรับรายจ่ายจนดูง่ายมาก คนไม่เคยร่ำเรียนก็สามารถอ่านออกได้ อีกทั้งแบบสรุปรายเดือนรายปีก็รวมได้ง่ายอีกด้วย พอถามเจ้าของจึงรู้ว่าสิ่งนี้นางคิดค้นวิธีนี้ขึ้นมา หลังจากได้รับทรัพย์สินที่มีมูลค่าจากท่านย่า และได้เรียนการทำบัญชีอาสะใภ้ก็พบว่ามันดูน่าสับสนเกินไป

นางเรียกรูปแบบการจัดการบัญชีนี้ว่า ตารางจัดการรายรับรายจ่าย

เขาได้เอ่ยขอให้นางอธิบายหลักการและวิธีการทำจนเข้าใจถ่องแท้ จึงได้ขอวิธีนี้ของนางไปใช้สอนลูกศิษย์ในสำนักศึกษาด้วย

ทว่านางมิได้ให้เขาทันทีทันใด นางบอกว่าวิธีนี้นางคิดยังไม่สมบูรณ์ หากเขาจะนำไปเผยแพร่ให้คนอื่น อยากให้เขานำไปให้คนที่ชำนาญเรื่องนี้ดูก่อน หลายๆคนยิ่งดีจะได้เห็นจุดที่ควรแก้ไข หากให้ดูคนเดียวมีแต่จะมองไม่เห็นจุดบอดของวิธีการนี้

หลังจากนั้นอาจารย์ผู้ไม่เคยหวังเลื่อนขั้นกลับมีผลงานใหญ่อย่างการคิดค้นตารางทำบัญชีรายรับรายจ่าย ที่สามารถช่วยทั้งราชสำนักจัดการเงินได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ รูปแบบตารางที่ได้ประมุขตระกูลเฉินออกแบบนี้ถูกนำเสนอขึ้นให้ฮ่องเต้แคว้นดูในเร็ววัน จนได้รับคำชื่นชมอย่างล้นหลาม ตารางบัญชีรายรับรายจ่ายถูกบันทึกเข้าไปในแบบเรียนของสำนักศึกษาไม่พอ ประมุขตระกูลเฉินยังได้เลื่อนขั้นจากอาจารย์ชั้นทั่วไปขึ้นสู่ตำแหน่งรองเจ้าสำนักศึกษาอีกด้วย

แน่นอนว่าผลงานนี้เขาได้มาเพราะหลานที่เขาไม่เคยสนใจตรงหน้า ในเมื่อนางขอให้ช่วยยืนยันเขาก็มิได้เสียอันใดเพียงแต่บอกตามความจริงเท่านั้น

อีกทั้งฝีมือการคำนวณของนางยังมีอะไรให้เขาเรียนรู้อีกมาก หากได้นางบริหารร้านค้าของตนเองก็ไม่ใช่เรื่องลำบากอันใดกับนางแน่นอน

“เอ่อ แต่เพียงคำนวณเก่งนั้นไม่พอสำหรับการบริหารร้านใหญ่ๆแน่เจ้าคะ ขะ...”

“เช่นนั้นให้หลานบริหารเหล่าสินเดิมของมารดาก่อนท่านอาสะใภ้คิดว่าอย่างไรเจ้าคะ”

เหยียนเฟยอยากได้ทุกอย่างกลับมาก็จริงแต่ดูแล้วคงไม่ได้มาง่ายๆ โดยเฉพาะเหล่าแหล่งสร้างกำไรของบิดาที่จุนเจือจวนอยู่ ณ ปัจจุบัน วันนี้เหยียนเฟยจึงคิดเพียงขอเอาบางส่วนกลับมาได้ก็ยังดี

“อาเฟยโตแล้ว เจ้าก็ให้นางช่วยแบ่งเบาภาระให้ตนเองไม่เหนื่อยหน่อยก็แล้วกัน หากเจ้าไม่เข้าใจอันใดก็ให้มาปรึกษาอาสะใภ้ของเจ้าได้ตลอดเวลาเข้าใจไหม...”

เหยียนเฟยแย้มยิ้มก่อนพยักหน้ารับคำกล่าวอันเป็นที่สิ้นสุดของประมุขตระกูล ไม่เสียแรงที่นางวางแผนช่วยอารองอย่างยากลำบาก

เท่าที่ศึกษานิสัยของอารองมานั้น อารองเป็นคนบ้าการหาความรู้แปลกใหม่มาก ไม่ผิดจากบัณฑิตที่น่ายกย่อง ทว่าเขาเดินทางสายกลางเกินไป นอกจากการใฝ่รู้ใฝ่ค้นหาสิ่งใหม่ๆในเรื่องเกี่ยวกับตำราแล้วก็ไร้ข้อดีอื่นเลย

เขามีความสามารถมากเช่นนี้แต่ไยอายุเท่านี้แล้วยังเป็นเพียงอาจารย์ธรรมดาเงินเดือนน้อยคนหนึ่งเล่า!

เป็นเพราะนอกจากตำราเขาก็ซื่อบื้อเกินใครอย่างไรเล่า! อารองของนางเคยเล่าให้ฟังว่าในอดีตเขาเคยคิดค้นวิธีการเขียนอักษรอย่างไรให้งดงามโดยใช้เวลาฝึกน้อยแล้ว ทว่าโชคไม่เข้าข้างสุดท้ายก็มีสหายร่วมอาชีพเดียวกันคิดค้นได้พร้อมกัน ผลงานนั้นจึงธรรมดาไปเลย

เมื่อเหยียนเฟยได้ฟังเช่นนั้นนางพอเดาได้ทันทีว่าแท้จริงแล้วสหายของอาแสนซื่อขโมยผลงานไปต่างหาก ครานี้นางตั้งใจแสดงวิธีจัดการบัญชีด้วยการทำตารางรายรับรายจ่ายให้อารองเห็นด้วยสองเหตุผล

หนึ่งคือนางอยากให้อารองประทับใจนางอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ในอนาคตเหยียนเฟยจะมีคนใหญ่ในตระกูลให้พึ่งพิงบ้างอย่างเช่นตอนนี้

สองคือหวังให้วิธีการทำตารางรายรับรายจ่ายช่วยอารองของนางเจริญก้าวหน้าในอาชีพการงาน เหยียนเฟยจึงแนะนำอารองแสนซื่ออ้อมๆว่าควรนำเสนอตารางอันนี้อย่างไรให้ไม่ถูกขโมยผลงานไปอย่างไม่รู้ตัวอีก

ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่เหยียนเฟยคาดไม่ถึงและจนตอนนี้นางก็ยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่า นามของนางถูกผู้คนในราชสำนักเอ่ยถึงยามมีคนถามหาที่มาของตารางหน้าตาประหลาดนี้

อารองที่แสนซื่อก็คือซื่ออย่างเสมอต้นเสมอปลายจริงๆ เขาเอ่ยบอกถึงที่มาตารางนี้อย่างตรงไปตรงมา ไม่เว้นแม้กระทั่งว่าเขาได้ความคิดการใช้ตารางหน้าตาประหลาดนี้จากผู้ใด...

“หลานต้องขอรบกวนคำแนะนำจากอาสะใภ้แล้วเจ้าค่ะ เดี๋ยวหลังจากมื้อกลางวันนี้หลานจะส่งบ่าวไปรับบัญชีรายการร้านและบัญชีที่ดินของมารดาทั้งหมดมาไว้ที่หลาน หลังจากนี้อาสะใภ้จะได้ลงแรงกับการเตรียมของต้อนรับปีใหม่อย่างสบายใจเจ้าค่ะ”

รอยยิ้มเต็มหน้าของเหยียนเฟยในตอนนี้ช่างสร้างความเจ็บปวดใจให้หยางเชาหลินยิ่งนัก ความรู้สึกของนางในตอนนี้เหมือนถูกคนควักไตหนึ่งข้าง ปอดหนึ่งข้างออกไปจากกาย

แม้นยังใช้ชีวิตอยู่ได้เพราะร้านค้าเหล่านั้นก็ไม่ได้สร้างกำไรมากมายเท่าใดนัก แต่เมื่อไม่มีแล้ว เงินที่นำมาใช้ซื้อของส่วนตัวก็คล่องตัวน้อยลงจนน่าใจหาย...
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel