บทที่ 49 เซตอาวุธจ้าวสมุทร

เวลาล่วงไปอีกกว่า 3 ชั่วโมง ในที่สุดฟูเหลาก็สามารถเพิ่มระดับจนแตะที่ 40 ได้สำเร็จเพราะได้ความช่วยเหลือจากผู้เล่นในกิลด์มนุษย์เทพยุทธ์ ทำให้ระดับของฟูเหลา ขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งโดยปกติแล้วผู้เล่นจะใช้เวลาประมาน 2 วันในโลกแห่งความจริงเพื่อเลื่อนระดับจนมาถึงระดับ 40 โดยจำเป็นจะต้องเล่นตลอด 24 ชั่วโมงเท่านั้น แต่เพราะฟูเหลาได้รับความช่วยเหลือต่างๆนานามาตั้งแต่เข้าเกมทำให้เขาเป็นผู้เล่นไม่กี่คนที่ระดับ 40 ภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมงในโลกแห่งความจริง

“หลังจากระดับ 40 นี่แหละนายได้เหนื่อยจนคลานเป็นหมาแน่…ฉันใช้เวลาในโลกจริงเกือบเดือนกว่าจะเพิ่มระดับจนทะลุเพดานระดับ 41 มาได้ ช่วงระดับ 40 จนถึง 41 จะมีเพดานค่าประสบการณ์ที่สูงมาก ต้องใช้เวลานานพอสมควรเชียวล่ะกว่าจะขึ้นมาจนถึงระดับของฉันในตอนนี้..”

ตี๋อ้วนพูดบอก

“ไม่ต้องห่วง..หลังจากนี้ฉันมีแผนจะทำธุรกิจ..คงใช้เวลาพักใหญ่กว่าจะเริ่มเก็บระดับอีกครั้ง..”

ฟูเหลายิ้มอย่างภูมิใจ

คิระเดินออกมาจากถ้ำพร้อมกับผู้เล่นที่เหลือทั้งหมดเพื่อเตรียมเริ่มภารกิจที่ใช้เวลามาเนินนานในการเตรียมการ โดยเมื่อนับจำนวนผู้เล่นกิลด์มนุษย์เทพยุทธ์ที่รวมคิระกับฟูเหลาแล้วจะมีจำนวนถึง 105 คน คิระที่มีตำแหน่งสูงสุดในตอนนี้แบ่งกองกำลังออกเป็น 3 กลุ่มโดยมีคิระเป็นผู้นำกลุ่มที่ 1 นินนินเป็นผู้นำกลุ่มที่ 2 และปราชญ์แดงเป็นผู้นำกลุ่มที่ 3

“เอาล่ะ..ฟังนะ ภารกิจของเรามีความเสี่ยงมาก..ผู้เล่นคนไหนเสียชีวิตระหว่างที่อยู่ในท้องสัตว์อสูรตัวนี้เมื่อตาย จะกลับไปเกิดใหม่ที่นครวาเรียส..เพราะฉะนั้นถ้าพวกนายไม่อยากโผล่ไปแล้วถูกจับเป็นทาสที่นครวาเรียสก็ห้ามตายเด็ดขาด..เซตอาวุธซีรี่จ้าวสมุทรจะอยู่ในเส้นทางลึกที่คาดว่าเมื่อเดินลงไปน่าจะเป็นกระเพาะหรือไม่ก็หัวใจของสัตว์อสูรตัวนี้ รูทางเข้าจะอยู่ใต้บึงกว้างก่อนหน้านี้ที่เราต้องข้ามมา เมื่อเราดำลงไปยังจุดที่ลึกที่สุดจะเจอช่องที่ว่านั่น..ให้ทุกคนดำลงไปในช่องได้เลยเมื่อหัวของพวกนายทะลุผ่านช่องไปมิติพิเศษจะทำให้พื้นที่กลับด้าน นายจะพบว่าตัวเองโผล่ขึ้นไปเหนือน้ำ จากนั้นเมื่อนายผ่านช่องนั้นไปทั้งร่างแล้วให้พวกนายว่ายน้ำไปรอรวมตัวกันบนบกก่อนได้เลย…”

คิระพูดอธิบาย

“แล้วลงไปใต้บึงนั่นเราจะไม่โดนสัตว์อสูรใต้น้ำงาบหรอคิระ?”

ฟูเหลาพูดถามขึ้นด้วยความสงสัย

“ไม่ต้องห่วง..เขี้ยวประหารมีสัญลักษณ์ของเผ่าเงือก..เขามีทักษะที่สามารถไล่สัตว์อสูรออกจากระยะที่ตัวเองอยู่ได้ราว 20 เมตร รอบๆตัว เป็นเวลา 5 นาที เพราะฉะนั้นเราจะใช้วิธีไปกันทีละกลุ่มโดยมีเขี้ยวประหารเป็นคนนำทาง..”

คิระเรียกผู้เล่นที่ชื่อเขี้ยวประหารออกมายืนด้านหน้าเพื่อให้ทุกคนทำความรู้จักเอาไว้ในฐานะสมาชิกคนหนึ่งของกิลด์ที่มีสัญลักษณ์จากเผ่าพันธุ์อื่นไว้ครอบครอง

“ต่อนะ..พอพวกเราทั้งหมดขึ้นฝั่งไปได้..ภายในทางที่เราเข้าไปจะมีสัตว์อสูรอยู่เป็นจำนวนมากและทุกตัวล้วนระดับไม่ต่ำกว่า 45 ทั้งหมด พวกเราห้ามแตกกลุ่มเด็ดขาด เพราะไม่รู้ว่าภายในจะมีตัวอะไรอยู่บ้าง เมื่อเดินทางไปอีกราวๆ 4 กิโลเมตรจะเจอทางแยกสามเส้นทางซึ่งตรงนี้พวกเราจะต้องแยกกันไปเป็นกลุ่ม..”

‘เส้นทางค่อนข้างลำบากทีเดียวแฮะ…แสดงว่าไอเทมชิ้นนี้จะต้องมีมูลค่ามากพอสมควร’

ฟูเหลาวิเคราะห์ในใจ

“แต่ในเส้นทางแยกทั้งสามนี่แหละที่เป็นปัญหากับพวกเรามาเกือบ 4 ปี..”

“ทำไมล่ะ?”

ฟูเหลาเอ่ยถามขึ้นอีกครั้งด้วยท่าทีสงสัย

“เส้นทางทั้งสามมีเวลาจำกัดเมื่อผ่านไปราวๆ 5 ชั่วโมง จะมีน้ำกรดไหลทะลักเข้ามายังทางเข้าของเส้นทางทั้งสามแน่นอน พวกเราไม่รอดแน่หากยังไม่สามารถผ่านตรงนั้นไปได้ ส่วนด้านหน้าที่เราผ่านไปไม่ได้ก็เพราะมีสัตว์อสูรลึกลับระดับ 60 ปกป้องเส้นทางอยู่ แถมเส้นทางทั้งสามเมื่อถูกน้ำกรดไหลท้วมเส้นทางแล้วน้ำกรดจะเกาะตัวอยู่ยังเส้นทางนั้นราวๆ 3 เดือน ครั้งล่าสุดที่เราไปเราเสียกำลังคนไปเยอะพอสมควรเพื่อจะหาทางออกจากเส้นทางทั้งสามได้..”

ปราชญ์แดงพูดตอบ

“แล้วตอนนน้ำกรดท้วมนายใช้วิธีอะไรผ่านออกมาได้ล่ะ?”

ฟูเหลาถามต่อ

“พอน้ำกรดไหลเข้ามาในเส้นทางสัตว์อสูรลึกลับจะจำศิลแล้วกลายเป็นหินทำให้กรดไม่กัดกร่อนมัน ในตอนนั้นผู้เล่นของเราใช้ร่างกายมาบังพวกเราก่อนที่จะสลายไปพร้อมกับน้ำกรดที่หยุดไหลเมื่อมันไหลเข้ามาได้เพียง 3 นาทีเท่านั้น ผู้เล่นของเรา 90 คนสลายหายไปต่อหน้าต่อตาเพื่อปกป้องพวกเราที่เหลือในตอนนี้...”

นินนินพูดขึ้นบ้าง

“จากนั้นเราก็ทิ้งอาวุธระดับต่ำลงพื้นเพื่อทำเป็นที่ยืนแล้วให้เราเดินออกจากถ้ำไปได้..ครั้งนั้นพวกเราเสียหายไปหลายล้านยูนิตเลยล่ะ ฮ่าๆ”

คิระหัวเราะเสียงดังแต่แฝงไปด้วยความรู้สึกผิด ฟูเหลารับรู้ได้จากคำพูดและท่าทีของทุกคนในตอนนี้ว่าภารกิจในครั้งนี้ช่างเป็นอะไรที่สำคัญต่อพวกเขามากอย่างแน่นอน

“ไอเทมที่พวกเราจะไปเอานี่มันดียังไงกันแน่ทำไมพวกนายถึงกล้าเสี่ยงขนาดนี้เพื่อมัน?”

ฟูเหลายังคงถามต่อ เพราะเขาไม่คิดว่าการที่กิลด์มนุษย์เทพยุทธ์ยอมเสียทรัพยากรมากมายขนาดนี้จะไม่คุ้มแน่ หากไอเทมที่ได้มีเพียงไม่กี่ชิ้น

“อาวุธเซ็ทจ้าวสมุทร..พวกเราเคยได้แผนที่ภารกิจนั้นมาเนื้อหาภายในคือมีสมบัติมากมายและมีอาวุธจำนวน 13 ชิ้น ทั้ง 13 ชิ้นจะอยู่ในรูปแบบโดนผนึกซึ่งจะมี 1 ชิ้นเป็นไอเทมศักดิ์สิทธิ์ แค่ข้อความแบบนี้พวกเราก็พร้อมที่จะเสี่ยงแล้วล่ะเพื่อน..”

คิระพูดยิ้มๆ

“ใช่!! พวกเราผู้เล่นเผ่ามนุษย์ต่างเล่นเผ่ามนุษย์ด้วยความชอบและความท้าทายที่ผู้เล่นเผ่าอื่นหมายตามีเราเป็นเป้าหมายให้ฆ่า พวกเราก็ต้องต่อสู้ดิ้นรนจนสามารถพาเผ่ามนุษย์ขึ้นมายืนผงาดได้บ้าง..นี่แหละคือวิถีของนักเล่นเกมที่ต้องการเอาชนะ!!”

ตี๋อ้วนพูดด้วยความฮึกเหิม

“เอาล่ะ!! รีบไปดีกว่า..พวกเราต้องรีบไปให้ถึงไวๆ ทุกๆ 2 เดือนบึงนั่นจะเกิดปรากฎการณ์พิเศษทำให้ผู้คนเห็นเส้นทางลงไปยังช่องใต้น้ำ พวกเราจึงต้องรีบชิงลงมือก่อนที่ผู้เล่นคนอื่นที่เข้ามาจะรู้..”

ทั้ง 105 คนต่างรีบเดินทางไปยังบึงน้ำตามที่คุยกันไว้ทันที ผู้เล่นทุกคนต่างกินใบอากาศเข้าไปเพื่อให้ตัวเองเคลื่อนไหวใต้น้ำได้ ก่อนที่จะเริ่มแยกออกเป็น 3 กลุ่มโดยกลุ่มของนินนินได้นำลงไปใต้น้ำก่อน เขี้ยวสังหารเอ่ยใช้ทักษะบางอย่างขึ้น เขาเปล่งเสียงความถี่ออกจากลำคอก่อนจะดำลงไปเพื่อนำทางไปยังช่องใต้บึงน้ำด้านล่างกลุ่มที่ 3 เข้าไปยังช่องใต้น้ำโดยไม่มีปัญหาอะไร เขี้ยวสังหารรีบเร่งฝีเท้าเพื่อว่ายน้ำกลับขึ้นมาบนฝั่งก่อนจะดำลงไปนำกลุ่มที่ 2 ต่อจนสำเร็จ

ฟูเหลาตื่นเต้นเล็กน้อยเพราะนี่จะเป็นอีกครั้งที่เขากำลังทำภารกิจพิเศษ เขี้ยวสังหารรีบกวักมือเรียกผู้เล่นที่เหลือเพราะตอนนี้เขาเหลือเวลาไม่มากแล้วและถ้าทักษะของเขาหมดไป อาจเกิดอันตรายได้ ทั้ง 35 คนที่เหลือต่างกระโดดลงน้ำเพื่อว่ายน้ำไปด้านล่าง ร่างกายของฟูเหลาแปลสภาพอีกครั้งด้วยผลจากทักษะของเผ่าเงือกที่ได้จากสัญลักษณ์ เขามองไปรอบๆ บึงน้ำแห่งนี้ค่อนข้างดูน่ากลัวไม่ใช่น้อย น้ำเบื้องบนช่างเป็นเหมือนเปลือกนอกอันสวยงามแต่ใต้น้ำกลับมีสีเขียวขุ่นๆและมีเศษหินเล็กหินน้อยลอยอยู่รวมถึงมีหินแหลมคมที่งอกขึ้นมาตามพื้นอีกด้วย ฟูเหลาสังเกตเห็นสัตว์อสูรขนาดใหญ่ที่ว่ายไปมาอยู่ไกลๆโดยไม่ได้คิดอะไร สัตว์อสูรหลายตัวไม่สามารถว่ายเข้ามาในเขตเสียงที่เขียวสังหารเป็นคนใช้ได้ พวกมันได้แต่ว่ายอยู่นอกระยะไกลๆซึ่งฟูเหลาใช้ทักษะของเผ่าแวมไพร์จึงสังเกตเห็นได้ไม่ยาก

“อีกไกลรึเปล่า?”

ฟูเหลาเอ่ยถามขึ้น

“อีกไม่ไกลมากแล้วครับ..”

เขียวสังหารพูดตอบ

“เวลาของทักษะใกล้หมดรึยังเขี้ยวสังหาร”

คิระถามขึ้นบ้าง

“5..4…3…2..1..หมดแล้วครับ..”

วู๊บ!!!

เมื่อทักษะหมดไปอาณาเขตเสียงก็หายไป ผู้เล่นทั้งหมดต่างรีบว่ายลงไปใต้น้ำอย่างรวดเร็วเพราะกลัวการโจมตีจากสัตว์อสูรใต้น้ำ

โฮ๊กกกก!!!!!!!!!!!!!

เสียงโหยหวนดังกึกก้องจนผู้เล่นทุกคนต้องหันหลังกลับมามอง

“สัตว์อสูรกิลโกสระดับ 50 เตรียมโจมตี!!”

เสียงจากระบบดังขึ้น สัตวอสูรที่มีรูปร่างคล้ายเผ่ามนุษย์เงือกสีเทา แต่มีขนาดใหญ่เท่ากับรถบรรทุก 6 ล้อ ใบหน้าของมันดูดุร้ายมีดวงตาสามดวงเรียงติดกัน ฟันซี่ใหญ่ที่น่ากลัวช่วงตัวส่วนบนมีลักษณะคล้ายมนุษย์แต่มีกล้ามเนื้อขนาดใหญ่มีกรงเล็บแหลมคมยาว 50 เซนติเมตร ช่วงล่างเหมือนปลาไหลที่มีหางยาวปลายหางมีลักษณะเหมือนแมงป่องที่มีหนามแหลมงอกออกมา

“บัดซบ!! มันไม่น่าอยู่แถวนี้ได้เลยนี่หว่า!!!”

เขี้ยวสังหารพูดด้วยความตื่นกลัว

‘ตายห่าแล้ว!!เราลืมไปว่าสร้อยของเรามีทักษะโง่ๆที่เรียกสัตว์อสูรใต้น้ำนี่หว่า!! เงียบไว้ๆๆอย่าบอกใคร!!’

ฟูเหลาพูดกับตัวเอง

“รีบว่ายลงไปยังช่องแคบเร็ว!! ถ้าผ่านช่องไปได้พวกเราก็ไม่ต้องปะทะมัน”

คิระรีบสั่งการ

ผู้เล่นกิลด์มนุษย์เทพยุทธ์ต่างรีบดำน้ำว่ายลงไปด้านล่างทันที ฟูเหลาและคิระเองก็ทำเช่นเดียวกัน เนื่องจากผู้เล่นที่ไม่มีคามเกี่ยวข้องหรือเป็นเผ่าเงือกจะถูกลดค่าสถานนะต่างๆลงมาก การต่อสู้ในน้ำจึงเป็นเรื่องที่เสียเปรียบ

“เร็ว!! อีกแค่ 3 เมตรเท่านั้น!!”เขี้ยวสังหารตะโกน สัตว์อสูรกิลโกสว่ายน้ำตามลงมาอย่างรวดเร็ว ฟูเหลาหยุดว่ายก่อนจะหันหลังไปหากิลโกส

“คิระถ้าให้สัญญาณ นายยืดดาบมารับฉันหน่อย!!”

ฟูเหลาตะโกนบอก

“นายจะทำอะไร!!”

ฟูเหลาไม่พูดตอบ เขารีบเคลื่อนร่างเข้าหาสัตว์อสูรตรงหน้าก่อนจะหลบกรงเล็บที่ฟาดเข้ามาหมายฉีกร่างของฟูเหลาอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มไม่รอช้ารีบปล่อยฝ่ามือใส่ช่วงท้องสัตว์อสูรกิลโกสทันที

“ปีศาจแรงผลักดัน!!”

พึ่ม!!! ร่างของสัตว์อูรกิลโกสถูกดีดไปด้านหลังราว 10 เมตรทันที

“คิระ!!!”

สิ้นคำพูด คิระรีบใช้สะบัดดาบของเขายืดออกไปเกี่ยวร่างของฟูเหลาทันที ทั้งคู่รีบดำว่ายลงไปตามผู้เล่นคนอื่นก่อนที่ทั้งคู่จะเข้าช่องแคบได้ทัน และหนีสัตว์อสูรกิลโกสได้อย่างฉิวเฉียด