บทที่ 23 ความผิดพลาดอันใหญ่หลวง
บึม!!! ใจกลางเมืองเริ่มต้นเริ่มเกิดการปะทะขึ้นอย่างรุนแรง เพราะหลังจากการประกาศกฎการประมูลไอเทมชิ้นที่สองของฟูเหลา ผู้เล่นที่ได้รับเมล็ดแครอทสวรรค์ไป เป็นเพียงผู้เล่นธรรมดาๆเผ่าเอลฟ์ที่ทางระบบสุ่มเลือกให้เป็นผู้ชนะการประมูลเนื่องจากไอเทมที่ผู้เข้าร่วมการประมูลเสนอเป็นชนิดเดียวกันทั้งสิ้นทำให้ GM ตัดสินใจใช้ระบบสุ่มเลือกเพื่อความเท่าเทียม ผลที่ได้ก็คือเมล็ดแครอทสวรรค์ไปตกอยู่ที่ผู้เล่นระดับ 40 คนนั้น แล้วหลังจากที่เขาได้รับเมล็ดแครอทและทำการส่งตำราสัตว์อสูรตามข้อตกลง งานประมูลถือเป็นอันสิ้นสุด ผู้เล่นจากหลากกิลด์ต่างพุ่งเป้ามาที่ชายหนุ่มคนนี้ ด้านบุรุษกุหลาบแดงก็เช่นเดียวกันหลังจากทำการแลกเปลี่ยนเรียบร้อยพวกเขาก็ตกเป็นเป้าหมายและโดนโจมตีจากกิลด์มารสยบฟ้าทันที จนต้องรีบล่าถอยออกไปเพื่อหนีจากงานประมูล
“ฆ่ามันให้ได้!!ไม่ก็แย่งแครอทสวรรค์มันมา!!”
ฟ้าหลงยุคประกาศกร้าว ปัก!! ไซเดอร์ที่พุ่งมาจากด้านหลังชกเข้าที่เบ้าหน้าซีกซ้ายของฟ้าหลงยุคจนหน้ายู่และกระเด็นไปกว่า 3 เมตร
“บัดซบ!! ”
ฟ้าหลงยุคคำรามเสียงดัง เขาหยิบดาบเล่มใหญ่ที่คาดไว้บนแผ่นหลังขึ้นมาเตรียมต่อสู้ ดาบของเขาเป็นไอเทมระดับ 6 พิเศษ ซึ่งมีความสามารถถึง 2 อย่าง และยังมีพลังโจมตีที่สูงมากแถมยังเป็นไอเทมเฉพาะดินแดนของดาร์กเอลฟ์เท่านั้นอีกด้วย
“หึหึ ดาบโทสะแห่งดาร์คเอลฟ์ ดูน่าเกรงขามสมคำร่ำลือจริงๆ”
ไซเดอร์พูดก่อนจะใช้ทักษะร่างจำแรงกลายร่างส่วนหัวและส่วนแขนและมือทั้งสองข้างให้กลายเป็นหมี ถุงมือที่เขาใส่มีกรงเล็บยาวงอกออกมาช้าๆ ซึ่งมันก็เป็นอาวุธระดับ 6 พิเศษเช่นเดียวกันกับอาวุธของฟ้าหลงยุค
“แกจะมาขวางฉันทำไม!!”
ฟ้าหลงยุคตะโกนถาม
“ถามอะไรโง่ๆ!!แครอทนั่นมันต้องเป็นของพวกเรา!!”
สิ้นคำพูดไซเดอร์กระโจนเข้าหาฟ้าหลงยุคอย่างรวดเร็ว ฟ้าหลงยุคหันไปสั่งการลูกน้องให้รีบตามกิลด์กุหลาบพิษไปก่อนที่ตนเองจะหันมาเบื้องหน้าแล้วเข้าปะทะกับไซเดอร์ บึ้ม!!
“แล้วแกจะได้รู้..ว่าดาบเล่มนี้น่าเกรงขามตามที่แกพูดไหม!!!”
ด้านบนของสเตเดี้ยม กลุ่มผู้เล่นปริศนาภายใต้ผ้าคลุมสีดำ 10 คน ยืนมองลงไปยังเบื้องล่างที่เกิดการต่อสู้ พวกเขาเฝ้ามองผู้เล่นในแต่ละกิลด์ที่กำลังสู้เพื่อแย่งชิงไอเทมเพียง 2 ชิ้น อย่างกับปลาที่กำลังตอดขนมปังตามลำคลอง ผู้เป็นผู้นำของกลุ่มส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะเคลื่อนร่างหลบออกมาจากงานประมูล
“คนจัดงานประมูลนั่นน่าสนใจจริงๆ..”
เสียงของผู้เล่นหนุ่ม ที่วิ่งนำหน้าคนอื่นพูดขึ้น
“น่าสนใจยังไงครับพี่..”
หนึ่งในผู้เล่นใต้ผ้าคลุมสีดำถามขึ้น
“นายคิดดูละกัน..งานประมูลครั้งนี้เขาได้ทั้งเงิน 50 ล้านค่าผู้ชม ได้กองทัพทาสกว่า 350 คน แถมเขายังสามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้ร่วมงานได้จากการเสนอของเข้าประมูล นี่ยังไม่นับรวมเรื่องที่เขาทำให้คนทั่วทั้งโซลเวิลด์มารวมกันได้ และตีกันจนตายไปเป็นพันๆหมื่นๆคน ผู้ที่ทำอะไรแบบนี้ได้ แสดงว่าเขาไม่ธรรมดาแน่นอน..อีกอย่างที่มันเป็นแบบนี้ก็เพราะกฎบ้าๆของเขา ที่บอกว่าใครสามารถนำตำราสัตว์อสูรที่เหมาะสมมาแลกกับเมล็ดนี้ได้ก็เอาเมล็ดไปเลย..ทุกคนก็รู้อยู่แล้วตำราสัตว์อสูรในอารีน่ามันมีอยู่เล่มเดียวแถมไม่ได้มีค่ามากขนาดนั้นด้วย ทุกคนล้วนก็มีกันคนละเล่ม..ถึงได้แย่งกันแล้วก็ไล่ฆ่ากันแบบที่เห็น...”
ชายภายใต้ผ้าคลุมพูดอธิบาย
ไซเดอร์ในร่างครึ่งคนครึ่งหมีมีพละกำลังเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 25% เขาวาดแขนใช้กรงเล็บฟันใส่ฟ้าหลงยุคจนร่างของฟ้าหลงยุคกระเด็นไปติดกับกำแพงของสเตเดี้ยม ตูม!!
“ฮ่าห์!! ฝีมือแกตกไปนะฟ้าหลงยุค!!”
ไซเดอร์แสยะยิ้ม
ฟ้าหลงยุคพยุงร่างของตัวเองด้วยดาบออร่าสีดำของเขา ซึ่งออร่ามันได้แผล่ซ่านไปทั่วบริเวณ หูของฟ้าหลงยุคเริ่มแหลมยาวขึ้นผมสีดำแปรเปลี่ยนเป็นสีขาว
“อยากตายนักใช่ไหม!!”
ฟุบ!! ร่างของฟ้าหลงยุคมาปรากฏตรงหน้าไซเดอร์ ดาบใหญ่สีดำที่มีรวดลายบนใบดาบเป็นคลื่นเหมือนเปลวเพลิง ถูกฟันลงมาจากด้านบน ชิ้ง!! ไซเดอร์ใช้กรงเล็บจากมือทั้งสองข้างผสานกันต้านทานดาบของฟ้าหลงยุคไว้ได้ ทันใดนั้นเองฟ้าหลงยุคก็สลายไปแล้วปรากฏทางด้านซ้ายของไซเดอร์พร้อมกับฟาดดาบลงมาอีกครั้ง ชิ้ง ชิ้ง ชิ้ง !! ไซเดอร์ยังคงรับการโจมตีทั้งหมดของฟ้าหลงยุคไว้ได้ แต่ก็ต้องเซถอยหลังไปเรื่อยๆให้กับทักษะการใช้ดาบของฟ้าหลงยุคที่มีชั้นเชิงอันสูงส่ง
“ความมืดผ่าแสง!!”
ฟ้าหลงยุคเรียกใช้ทักษะ ใบดาบถูกเคลือบด้วยเพลิงสีดำ มือทั้งสองจับด้ามดาบแล้วฟันลงมาในแนวนอน เปลวเพลิงสีดำปล่อยคลื่นความร้อนออกมาโจมตีไซเดอร์จนกระเด็นเซไปด้านหลัง ตูม!!!
“ก็ดีแต่ปากล่ะว้ะ!!”
ฟ้าหลงยุคยั่วยุ
“แล้วเราจะได้เห็นดีกันไอ้ขี้ก้าง!!”
การต่อสู้ปะทุขึ้นรุนแรงจนไม่สามารถหยุดยั้งได้อีกต่อไป เกาะเริ่มต้นถูกสั่งให้อยู่ในช่วงเวลาสงครามทันที ฟูเหลาและเพื่อนๆที่วิ่งออกมาจากสเตเดี้ยมได้ไม่นานนักก็ถึงท่าเรือ พวกเขาไม่รอช้ารีบกระโดดขึ้นเรือที่กำลังออกจากอ่าวอย่างเร่งรีบก่อนที่เสียงระเบิดครั้งใหญ่จะดังขึ้นตรงบริเวณที่เคยจัดงานประมูลเมื่อสักครู่ บึม!!
“บ๊ายบาย..เกาะเริ่มต้น..”
ฟูเหลาที่ขึ้นเรือมาแล้วโบกมือพร้อมกับท่าทางสะอึกสะอื้นให้กับเกาะเริ่มต้น
ปัก!!
“โอ้ย!!”
โอเกอร์ทนความกวนโอ้ยของฟูเหลาไม่ได้จึงเพ่งกะบาลไปหนึ่งที
“เล่นอะไรของแกว่ะฟูเหลา..?”
โอเกอร์ทำหน้าดุๆ
“เอาหน้า..พวกมันเห็นอวดแข่งกันรวย..ในการเป็นพ่อค้าเนี่ย เห็นคนรวย คนอวดรวยไม่ได้ไง เลยต้องแบบว่าอยากให้โชว์กำลังทรัพย์กันหน่อย ฮ่าๆๆ”
ชายหนุ่มหัวเราะเสียงดัง
“มันโชว์กำลังทรัพย์ตรงไหนกันว่ะ..”
เทพอัศนีทำหน้างงๆ
“เอ็งนี่โง่หรืออะไรว้ะเพื่อน..กำลังทรัพย์ที่ว่ามันหมายถึงกำลังทางทรัพยากรไง..ทำสงครามกันขนาดนี้เพื่อแย่งไอเทมอันเดียวเนี่ยคิดว่าจะสูญเสียกันไปเท่าไหร่ล้ะ ลองดูดิ!!”
โอเกอร์ชี้ไปยังเกาะเริ่มต้นที่กำลังลุกเป็นไฟให้เทพอัศนีดู
“เออแหะ..น่าจะชิพหายกันถ้วนหน้า...”
ยาจกซูหลินมองกลุ่มคนตรงหน้าด้วยใบหน้า มึนๆ
‘เรามาทำอะไรที่นี่...’
ยาจกซูหลินคิดในใจ ก่อนจะมองไปรอบๆแล้วเอะใจอะไรบางอย่างขึ้น
“เออ..พวกเราจะไปไหนกันหรอครับ?”
ยาจกซูหลินเอ่ยถาม
“ไปอารีน่าไง..เออว่าแต่นายยาจกซูหลินใช่ไหม?”
ฟูเหลาเอ่ยถาม
“ใช่ครับ..เอ่อ..”
ยาจกซูหลินจะพูด..
“ฉันอยากคุยกับนายเรื่องแผนที่ภารกิจลับนั่นสักหน่อย..”
ฟูเหลาเปิดประเด็น ก่อนจะเดินนำเพื่อนทั้งหมดและยาจกซูมานั่งตรงโต๊ะบนเรือที่ตั้งอยู่ใกล้ๆจากจุดที่เขายืน
“มีอะไรรึเปล่าครับ..”
ยาจกซูหลินถาม
“บอกรายละเอียดของแผนที่นั่นได้ไหม?”
“ขอโทษนะครับ..ผมคงบอกพวกคุณไม่ได้”
ยาจกซูหลินปฏิเสธ
“ถ้าฉันขอซื้อมันต่อนายจะคิดราคาเท่าไหร่..”
ฟูเหลาถามตรงๆเพราะภารกิจลับในเกมส่วนใหญ่มันต้องหายากมากอยู่แล้ว การที่เขาเจอมันในที่แบบนี้เขาควรรีบคว้าเอาไว้
“ผมไม่สามารถขายให้ได้ครับ..”
ยาจกซูหลินลุกจากเก้าอี้ก่อนจะพยายามหาทางลงจากเรือ
“ถ้าเราเสนอซื้อแผนที่นาย และให้นายร่วมทำภารกิจด้วยนายจะสนใจรึเปล่า..”
ฟูเหลาเสนอขึ้น ยาจกซูหยุดคิดสักพัก
“เราจะยังไม่ทำภารกิจนั่นตอนนี้ เราจะทำหลังจากที่พวกฉันเดินทางไปอารีน่าแล้ว และเสร็จธุระจากที่นั่น แต่ฉันขอจ่ายนายตอนนี้ครึ่งหนึ่งของราคาที่นายจะเสนอขายฉัน...”
โอเกอร์และเพื่อนๆของเขาทำท่าจะค้านเพราะข้อเสนอของฟูเหลามันเสี่ยงเกินไป ถ้าชายตรงหน้ารับเงินแล้วหนีไป พวกเขาอาจจะไม่เจอชายตรงหน้านี้อีกก็ได้ แต่ฟูเหลาทำมือห้ามเอาไว้เพื่อรอดูปฏิกิริยาของยาจกซูหลิน
“ไม่ต้องหรอกครับ..เราจะคุยเรื่องนี้กันอีกที..แต่ก่อนอื่นตอบผมหน่อยนี่เรือของพวกคุณหรอ..”
ยาจกซูหลินหันหน้ามาถาม
“จะบ้าหรอพวกฉันจะมีปัญญาไปซื้อเรือได้ไงล้ะ..”
เทพอัศนีตอบ
“งั้นเราขึ้นเรือใครละครับ..”
ยาจกซูหลินพูดขึ้น ฟูเหลาและเพื่อนๆหันไปมองรอบๆเรือซึ่งมันก็เป็นไปตามที่ยาจกซูหลินพูด..
“จริงด้วยเรือลำนี้ไม่ใช่เรือของ NPC นี่หว่าทีนี่ไม่มีทั้ง NPC ไม่มีทั้งเส้นทางการเดินเรือที่ปกติกัปตันเรือที่เป็น NPC จะติดเอาไว้..สงสัยเรารีบกันเกินเลยขึ้นเรือมาผิด..”
โอเกอร์พูด
“แต่เรือมันก็แล่นแล้วนี่หว่า..”
เทพอัศนีพูดลอยๆ
“คงเป็นระบบขับเคลื่อนแบบล็อคเส้นทาง..ไม่ก็มีใครอยู่ในห้องใต้เรือเนี่ยแหละ..”
เทพคันศรออกความเห็น ยาจกซูหลินที่พยายามมองหาผู้เล่นหรือ NPC สังเกตเห็นสัญลักษณ์บางอย่างได้ก่อนที่เขาจะน่าซีด
“ชิพผายแล้ว !!เรือโจรสลัด!!”
