บท
ตั้งค่า

12

12

“ก็ได้ๆ เฮ้อ…คนจะอาบน้ำให้สบายตัวซะหน่อย มาขัดอยู่ได้” เธอลุกขึ้นแล้วก้าวลงจากถังน้ำใบใหญ่อย่างกระแทกกระทั้น และไอ้ความกระแทกกระทั้นก็ทำให้ขาที่เหยียบอยู่บนเก้าอี้ข้างถังเกิดเสียหลักลื่นล้มก้นจ้ำเบ้าลงกับพื้น

“โอ๊ย” แน่นอนว่าเสียงร้องลั่นของเธอดังมากพอที่จะทำให้คนข้างนอกนั่งเฉยไม่ได้

“ลู่อวี๋…เกิดอะไรขึ้น” ความเป็นห่วงทำให้เขาผลักประตูเข้ามาอย่างรวดเร็ว

“ว้าย! อย่าเข้ามานะ” เธอร้องห้าม แต่ดูเหมือนจะไม่ทันการ เมื่ออีกฝ่ายหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเธอแล้วตอนนี้ และดูเหมือนเขาเองก็ชะงักค้างไปแล้วด้วย

“กรี๊ด…!” คนที่เปิดเปลือยทุกส่วนสัดร้องลั่นพร้อมกับพยายามเอามือปิดตรงนั้นตรงนี้เป็นพัลวัน และตอนนั้นเองที่เสียงของเธอดึงสติเขากลับมา…ให้รีบวิ่งไปปิดประตู ด้วยกลัวว่าจะมีใครมาเห็นเข้า แล้วก็เป็นดังคิด

“เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะคุณหนู” ถงอีอีเคาะประตูด้วยความร้อนใจ หลังได้ยินเสียงกรีดร้องของนายสาว

“ไม่มีอะไร เจ้ามีอะไรก็ไปทำต่อเถอะ ทางนี้ข้าจัดการเอง” คนที่ยังยืนอยู่หน้าประตูเป็นฝ่ายตอบแทน

“ไม่ ท่านนั่นแหละออกไป แล้วให้อีอีเข้ามา อีอีเข้ามาช่วยข้าก่อน” คนที่ยังนั่งแหมะอยู่ที่เดิมแหวเสียงเขียว ก่อนตะโกนขอความช่วยเหลือออกไป

“เอ่อ…ให้ข้าเข้าไปได้หรือไม่เจ้าคะคุณชาย” แน่นอนว่าคนที่เป็นแค่สาวใช้ย่อมไม่กล้าเข้ามาโดยพลการเป็นแน่

“ไม่ได้ จะไปไหนก็ไป” คนถูกไล่ได้แต่ก้มหน้าและเดินจากไป

“ท่านนั่นแหละจะไปไหนก็ไป ว้าย! คนบ้าอย่าหันมานะ” เธอแหวเสียงเขียว เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูทำท่าจะหันกลับมา

“เช่นนั้นแล้วข้าจะช่วยเจ้าได้อย่างไร” เขายืนตัวแข็งทื่อแทบไม่กล้าขยับ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเป็นห่วงอาการคนที่ลื่นล้มอยู่ดี

“ไม่ต้องช่วย ข้าช่วยตัวเองได้ เอ่อ…ข้าหมายถึงข้าช่วยเหลือตัวเองได้” หลังทบทวนคำพูดสองแง่สองง่ามของตัวเอง เธอก็รีบเปลี่ยนทันที

“เช่นนั้นเจ้าก็รีบลุกเถิด เปลือย เอ่อ…ข้าหมายถึง ไม่ใส่อาภรณ์เช่นนั้น เอ่อ…ข้ากลัวว่าเจ้าจะหนาว” เขาอึกอัก พยายามหาคำพูดให้อีกฝ่ายกระดากน้อยที่สุด แต่กลับกลายเป็นตัวเขาเองที่กำลังประดักประเดิด เพราะรู้ดีว่าเบื้องหลังตนนั้นอยู่ในสภาพไหน

“นึกว่าข้าไม่อยากลุกรึไง แต่มันลุกไม่ขึ้น โอ๊ย!” คนที่พยายามจะลุก จำต้องร้องลั่น เพราะทันทีที่ขยับ ข้อเท้าก็เจ็บจี๊ดจนลุกไม่ขึ้น และเสียงร้องนั้นก็ทำให้เขาไม่สนอะไรอีก

“ไม่ อย่ามองนะ” เธอพยายามเอามือพรางนั่นพรางนี่ให้สาละวนไปหมด เมื่อคนที่กระหวัดแขนไปหยิบผ้าผืนใหญ่กำลังเดินตรงมาหา

ผ้าผืนใหญ่ถูกตวัดคลุมร่างเปลือยเปล่า ก่อนร่างนั้นจะถูกช้อนอุ้มขึ้นมาในอ้อมกอด แน่นอนความกระดากอย่างที่สุดทำให้เธอต้องหลับตาแน่น ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าสบตากับเจ้าของวงแขน เห็นแบบนั้นเขาจึงอดยิ้มไม่ได้

“หนาวหรือไม่” เสียงทุ้มๆ ของเขาทำเธอพยักหน้าหงึกหงัก ในขณะที่ยังหลับตาแน่น

“แล้วแบบนี้อุ่นดีหรือไม่” เขาถามอีกครั้งพลางกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น ในขณะที่เธอยังคงพยักหน้าเช่นเดิม

“เช่นนั้นให้ข้าแต่งตัวให้ก่อนดีหรือไม่” อีกครั้งที่เธอพยักหน้า ก่อนจะนึกขึ้นได้

“ฮื่อ…” เธอลืมตามองพร้อมกับส่ายหน้าเป็นพัลวัน หลังได้ทบทวนคำพูดของอีกฝ่าย กระทั่งนัยน์ตาที่กำลังเบิกโพลงก็ยิ่งเบิกกว้างขึ้นอีก เมื่อพบว่าตัวเองเข้ามาอยู่ในห้องแล้ว และเหนือสิ่งอื่นใด เธอกำลังนั่งอยู่บนตักของเขา เตียงของเขา ในที่ของเขา…ที่มีเพียงแค่เราสองคนด้วย

“เอ่อ…ข้าไม่เป็นไรแล้ว ท่านออกไปเถอะ” ด้วยสถานการณ์และสภาพที่ไม่เอื้ออำนวยตอนนี้ ทำให้เธอแทบไม่กล้าขยับ แต่ครั้นจะให้อยู่แบบนี้ต่อไปก็คงไม่ดีแน่

“แต่เจ้ายังเจ็บขาอยู่ หากข้าออกไปใครจะอยู่ช่วย”

“ข้าช่วยตัวเองได้ เอ่อ…หมายถึงช่วยเหลือตัวเองได้น่ะ” ด้วยความอยากให้อีกฝ่ายออกไปโดยเร็ว เธอจึงโพล่งออกมาทันควัน แต่พอได้ทบทวนก็รีบแก้ต่างคำพูดสองแง่สองง่ามของตัวเองอีก

“ถึงเจ้าอยากจะช่วยตัวเองจริงๆ ข้าก็คงไม่ยอม” เขาพึมพำเบาๆ

“ท่านว่าอะไรนะ” คนที่ได้ยินไม่ชัดโน้มลงมาถามใกล้ๆ

“ข้าบอกว่าข้าอยากช่วยเจ้า” เขาโน้มลงมากระซิบเสียงกระเส่า ทำเอาคนถามถึงกับต้องรีบผงะถอย

“มะไม่เป็นไร ตะแต่ถ้าท่านอยากช่วย ช่วยตามอีอีเข้ามาให้ข้าจะดีกว่า” เธออึกอักประดักประเดิดกับความใกล้ชิดที่มากเกินไป

“อีอีจะช่วยอะไรได้”

“อย่างน้อยนางก็เป็นสตรีเช่นเดียวกับข้า หากนางจะเห็นเอ่อ…ของข้าก็คงไม่เป็นไร” เธอบอกเสียงอ่อยด้วยความรู้สึกกระดากเต็มที

“ไม่ได้ จะให้ใครเห็นของเจ้าไม่ได้ ถึงเป็นสตรีก็มิได้” เขาโพล่งออกมาด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไปราวกับคนละคนกับก่อนหน้า

“เอ้า! งั้นจะให้ท่านเห็นได้รึไงเล่า” เธอโพล่งถามอย่างเหลืออด ในขณะที่เขากลับตอบมาหน้าตาเฉย

“มันก็ขึ้นอยู่กับเจ้า”

“งั้นก็เชิญท่านออกไปเถอะเจ้าค่ะ เพราะข้าก็ไม่ยอมให้ท่านเห็นของข้าด้วยเหมือนกัน เชิญ” เธอบอกพลางผายมือไปที่หน้าประตู โดยลืมไปว่าตัวเองยังนั่งทับเขาอยู่

“จะให้ข้าไปได้อย่างไร ในเมื่อเจ้ายัง…” เขาหยักยิ้มพลางหลุบตามองหน้าตักของตัวเอง ทำให้เธอจำต้องมองตาม ก่อนจะรีบผละลงจากตักนั้นด้วยความตกใจ

“ว้าย!” ด้วยความรีบร้อนบวกกับผ้าคลุมพะรุงพะรัง ทำให้เธอล้มหงายลงไปบนเตียง พาลให้ผ้าผ่อนที่คลุมไว้เลิกขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ และเชื่อเถอะสัญชาตญาณของมนุษย์ย่อมต้องเผลอมองเป็นธรรมดา

ห้องทั้งห้องอยู่ในภวังค์ความเงียบ เมื่อต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมปริปาก ไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้ากันด้วยซ้ำ กระทั่งเขาเป็นฝ่ายเอ่ยทำลายความเงียบ

“หิวหรือไม่”

“เอ่อ…อื้อ หิวแล้ว” เธอปดคำโต แน่นอนว่าตอนนี้เธอแทบกินอะไรไม่ลงเลยล่ะ

“งั้นก็รีบแต่งตัวเถิด จะได้ออกไปกินข้าวกัน” เขาบอกโดยมิได้หันมามอง ด้วยยังวางหน้าไม่ถูก

“งั้นท่านก็ออกไปสิ ข้าจะได้แต่งตัว” ดูเหมือนว่าเธอเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน

“อืม งั้นข้าจะรออยู่หน้าห้อง หากต้องการความช่วยเหลือก็เรียกได้เลย” ทันทีที่เขาเดินออกไป เธอก็รีบเดินกะโผลกกะเผลกไปหยิบเสื้อผ้ามาใส่ ครั้นพอเสร็จเรียบร้อยจึงเดินไปเปิดประตู

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel