บท
ตั้งค่า

11

11

คนที่นั่งอยู่บนตักด้วยท่าทางหมิ่นเหม่ทำหน้ากระอักกระอ่วน ครั้นจะดิ้นมากๆ ก็กลัวว่าร่างกายจะเสียดสีกันเกินงาม จึงได้แต่พึมพำประโยคเดิมออกมา

“ปล่อย”

“ไม่ ข้าไม่ปล่อย ข้าไม่มีวันปล่อยเจ้าไปเป็นอันขาด อยู่กับข้านะลู่อวี๋ อยู่กับข้าจนกว่า…” เสียงเขาเว้าวอน แต่แล้วจู่ๆ ก็หยุดชะงัก ทำเอาคนฟังถึงกับขมวดคิ้ว แน่นอนว่าเธออยากรู้

“จนกว่าอะไร”

“ช่างเถอะ” ดูเหมือนคำนี้ของเขาจะทำให้ความอยากรู้ของเธอทวีคูณขึ้นมาอีก

“ช่างได้ไง ช่างไม่ได้ ท่านมาทำให้ข้าอยากรู้ แล้วจู่ๆ จะทิ้งข้าไว้กลางทางเนี่ยนะ ข้าไม่ยอมหรอก” คนถูกคาดคั้นเอาคำตอบลอบยิ้มทันที

“ถ้าไม่ยอม ก็อยู่เพื่อหาคำตอบกับข้าที่นี่ อยู่กับข้าได้ไหมลู่อวี๋” เขาจับจ้องมาที่เธอด้วยสายตาเว้าวอนอีกครั้ง

“เอ่อ…คือ” เธออึกอักและสับสนกับคำขอนี้ โดยเฉพาะเมื่อคนขอค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมาใกล้ๆ และก่อนที่หน้าจะชนกัน เธอก็รีบยกมือขึ้นมาดันหน้าเขาเอาไว้ แล้วรีบขืนตัวออกมาด้วยความประดักประเดิด

“ข้าว่า…ข้าไปอาบน้ำดีกว่า” คนที่กำลังประหม่ารีบหันหลังให้ แต่ก่อนจะทันได้ก้าวออกไป เรียวแขนก็ถูกฉุดกลับไป จนเธอเสียหลักล้มแหมะลงไปนั่งบนตักเขาอีกครั้ง

สองคนสบตากันนิ่ง กระทั่งสายตาเขาเหลือบไปเห็นความแวววาวตรงลำคอ พลันคิ้วทั้งสองข้างก็ขมวดมุ่น พร้อมกับมือที่ยื่นไปจับ

“สร้อยนี่” เขาพึมพำขณะจับจ้องจี้รูปปลาที่อยู่ในมือ ก่อนจะพูดต่อ

“หรือว่าจริงๆ แล้วเผ่าพันธุ์ของเจ้าจะเป็นปลาจริงๆ”

“นี่อย่าบอกนะว่าท่านคิดว่าสร้อยเส้นนี้เป็นสัญลักษณ์แทนเผ่าพันธุ์ของข้า”

“หรือไม่ใช่” เห็นเขาเลิกคิ้วด้วยสีหน้ายียวน เธอก็ยิ่งเลือดขึ้นหน้า

“ก็ไม่ใช่สิ นอกจากจะไม่ใช่สัญลักษณ์อะไรนั่นแล้ว สร้อยนี่ยังไม่เกี่ยวอะไรกับวงศ์ตระกูลฉันเลยด้วย เนี่ย…ใช้เงินซื้อมา แล้วก็ซื้อมาแพงมากด้วย” เธอบอกอย่างเหลืออด พร้อมกับดึงจี้จากมือเขาแล้วชูขึ้น แต่หลังจากได้ทบทวนคำพูดของตัวเอง เธอก็พลันได้คิด

“เอ๊ะ! เดี๋ยวนะ ทำไมสร้อยนี่เป็นอย่างเดียวที่ทะลุมิติมากับฉันได้ล่ะ ขนาดเสื้อผ้าฉันยังไม่ได้มาสักชิ้นเลยนี่นา” เธอก้มมองสร้อยที่สวมอยู่อย่างพยายามจะหาเหตุผล และก่อนจะได้คำตอบ จู่ๆ สร้อยเส้นนั้นก็ถูกเขาถอดออกไป

“เอ๊ะนี่ ทำอะไรของท่านเนี่ย” เธอพยายามจะคว้าสร้อยของตัวเองคืน แต่ก็ถูกอีกฝ่ายเอาไปเหน็บไว้ที่ข้างเอว ครั้นจะให้ล้วง ใจเธอก็ยังไม่กล้าพอ

“ระหว่างที่ยังหาคำตอบไม่ได้ ข้าจะเก็บสร้อยเส้นนี้ไว้เอง”

“แต่นั่นมันของข้านะ แล้วมันก็เป็นของชิ้นเดียวที่ติดตัวข้ามาด้วย” เธอพยายามจะโต้แย้ง

“ก็ในเมื่อเจ้าพูดเองว่าสร้อยนี่ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับวงศ์ตระกูลของเจ้า เช่นนั้นให้ข้าเก็บไว้ก็คงไม่เป็นไร นอกซะจากว่าเจ้าจะยอมรับว่าสร้อยนี่คือสัญลักษณ์แทนเผ่าพันธุ์ของเจ้า ข้าถึงจะคืนให้” เขาเลิกคิ้วอย่างเป็นต่อ

“ใจคอท่านจะให้ข้าเป็นปลาให้ได้เลยใช่ไหม ได้! งั้นท่านก็เก็บเอาไว้ให้ดีแล้วกัน เผลอเมื่อไหร่ข้าเอาคืนแน่” เธอขู่ฟ่อก่อนหันหลังให้

“แล้วนั่นเจ้าจะไปไหน”

“ก็ไปอาบน้ำไง ถ้าไม่ใช่เพราะท่าน ป่านนี้ข้าก็อาบเสร็จไปนานแล้ว ไม่ต้องกัดฟันไปอาบทั้งหนาวๆ แบบนี้หรอก ป่านนี้ข้างนอกจะหนาวแค่ไหนแล้วก็ไม่รู้ เครื่องทำน้ำอุ่นก็ไม่มี แค่คิดก็ขนลุกไปหมดแล้วเนี่ย” เธอว่าพลางถูแขนตัวเองแรงๆ

“งั้นก็ไม่ต้องไป” เขาบอกเสียงเรียบ ทำเอาอีกคนถึงกับหันขวับ

“จะบ้าเหรอ ให้ใส่ชุดพะรุงพะรังไปเดินตลาดมาทั้งวันจนตัวเหนียวไปหมด แล้วมาบอกว่าไม่ต้องอาบเนี่ยนะ แล้วคืนนี้ข้าจะนอนยังไง”

“ก็ไม่ได้บอกว่าไม่ให้อาบนี่ แค่บอกว่าไม่ให้ไป”

“ก็นั่นแหละ มันจะต่างกันตรงไหน ถ้าไม่ไปแล้วจะอาบยังไง”

“ก็อาบที่นี่ไง”

“ที่นี่?” เธอถามเสียงสูง

“ใช่ เจ้าคงยังไม่รู้ว่าที่นี่มีอ่างไม้ใบใหญ่ หากเจ้าอยากอาบจริงๆ ข้าจะให้เสี่ยวไป๋ไปตักน้ำมาให้” ด้วยเพราะที่แห่งนี้อยู่ติดลำธาร อ่างไม้ที่ว่านั่นจึงไม่ถูกนำออกมาใช้ แต่วันนี้คงต่างออกไป

“แล้วทำไมต้องไปรบกวนให้เสี่ยวไป๋ต้องเหนื่อยด้วยล่ะ ข้าเดินไปอาบเองไม่ง่ายกว่าเหรอ”

“ไม่ล่ะ ข้ายังไม่วางใจ” เขาเสียงเข้มอีกครั้ง

“ไม่วางใจเรื่อง?” อีกครั้งที่เธอเสียงสูง

“ก็เรื่องที่เจ้าเป็นสาวเป็นแส้ ไม่ควรไปอาบน้ำที่โล่งแจ้งเช่นนั้นอย่างไรเล่า” แน่นอนว่านี่เป็นแค่เหตุผลบางส่วนเท่านั้น

“ข้าถึงได้เลือกที่จะไปอาบด้านหลังไง ตรงนั้นเป็นที่ลับตา อีกทั้งลำธารแห่งนี้ก็ยังอยู่ในเขตของท่าน ฟังจากที่อีอีเล่า ตระกูลฝูของท่านทั้งยิ่งใหญ่และมีอำนาจ คงไม่มีใครกล้าบุกรุกเข้ามาหรอกมั้ง” เสียงเธอประชดกลายๆ

“ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรอยู่ดี” เห็นเขายืนกรานสีหน้าจริงจัง เธอจึงรีบเปลี่ยนท่าทีบ้าง

“แต่ข้าอยากอาบที่ลำธารนั่นนี่นา น้ำใสไหลเย็นเห็นตัวปลา อีกทั้งธรรมชาติก็ร่มรื่นเย็นสบาย” ด้วยไม่อยากเป็นภาระให้เสี่ยวไป๋ต้องลำบากไปด้วย กอปรกับจะได้หลบเลี่ยงจากคนตรงหน้าด้วย เธอจึงพยายามอย่างยิ่งยวด

“เช่นนั้นก็คงไม่มีทางเลือก…ข้าจะไปกับเจ้าด้วย” ไม่พูดเปล่า แต่ยังเดินมาจับที่ข้อศอกแล้วดันเธอให้เดินไปพร้อมกัน

“เฮ้ย! ไม่ได้ ท่านจะไปกับข้าไม่ได้ ท่านจะดูข้าอาบน้ำได้ยังไง ข้าเป็นสตรีนะ” เธอโวยพร้อมกับขืนตัวเอาไว้อย่างสุดกำลัง

“เช่นนั้นเจ้าก็ต้องอาบที่นี่ หาไม่แล้ว…ข้าก็คงต้องไปด้วย” สุดท้ายเธอก็ได้แต่กัดฟันกรอด ด้วยไม่สามารถต่อกรกับเจ้าบ้านที่เอาแต่ใจอย่างเขาได้

“เห็นเราเป็นนักโทษรึไงวะ แค่จะอาบน้ำยังตามมาเฝ้าถึงหน้าห้อง แต่จะว่าไปได้อาบที่นี่ก็สบายเหมือนกันแฮะ อย่างน้อยก็ไม่ต้องไปยืนต้านลมให้หนาวยะเยือก” คนที่กำลังแช่น้ำอุ่นๆ ในถังไม้ทรงกลมใบใหญ่ครางแผ่วๆ ด้วยความรู้สึกสบาย กระทั่งเสียงขัดความสุขดังขึ้น

“ลู่อวี๋” คนที่นั่งเฝ้าอยู่หน้าห้องส่งเสียงเรียกเป็นระยะๆ ประหนึ่งกลัวว่าคนข้างในจะหายไป

“โอ๊ย! อะไรนักหนาเนี่ย คนจะอาบน้ำก็เรียกอยู่ได้” เธอตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิดแกมโมโห

“อากาศเย็นมากแล้ว ข้าว่าเจ้าขึ้นมาเถอะ เจ็บป่วยขึ้นมาจะแย่” ก็อย่างที่บอกเขายังไม่วางใจที่จะให้เธออยู่ใกล้น้ำนานนัก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel