บท
ตั้งค่า

10

10

“ว้าย!” เธอตกใจที่จู่ๆ อีกฝ่ายก็หันกลับมา จึงทำให้ต้องรีบหันอีกทาง แต่เพราะไม่ทันระวัง กอปรกับพื้นด้านล่างยังเป็นโขดหินลื่นๆ เธอจึงเสียหลักหงายหลังลงไป โชคดีที่เขาตวัดแขนมาคว้าเอวบางไว้ได้ทัน จากที่จะล้มลงไปในน้ำ ก็พากันล้มลงไปบนโขดหินก้อนใหญ่แทน

ทั้งคู่สบตากันนิ่งนาน เขาที่ล้มหงายลงไปบนโขดหิน ในขณะที่เธอก็ล้มทับลงมาบนตัวเขาอีกที แต่ทันใดนั้นบางอย่างที่กำลังเบียดเสียดอยู่ที่แขนก็ทำให้เขาผงะนิ่งพลางกลืนน้ำลาย

เอื๊อก…

ใช่! เมื่อเสื้อเธอมันทั้งบางและเปียกชื้น จนแทบจะพรางอะไรไม่ได้เมื่อถูกน้ำ จึงไม่แปลกที่เขาจะสัมผัสได้ถึงอกอวบที่กำลังบดเบียดท่อนแขน กระทั่งความรู้สึกก็ดึงดูดสายตาให้ต้องก้มมอง

เอื๊อก… อีกครั้งที่เขาเผลอกลืนน้ำลาย สองตาราวถูกสะกดให้มองนิ่งที่อกอวบซึ่งกำลังดุนดันเสื้อตัวบาง และความนิ่งเงียบไปนานของเขาก็ทำให้เธออดสงสัยไม่ได้ จนต้องมองตามสายตาคู่นั้น

“เฮ้ย!” เธออุทานพร้อมกับรีบดันตัวขึ้นแล้วหันหลังให้

“คนบ้า ทำไมยังไม่ไปอีกเล่า รีบๆ ไปเลย” เธอไล่ขณะที่ยังคงเอามือกอดอกเพื่ออำพรางอกอวบ

“อะเอ่อ…ข้าว่าข้ารออยู่แถวนี้ดีกว่า เผื่อว่าเจ้าต้องการอะไร” เขาบอกเสียงอึกอัก

“ไม่ต้องการ ไม่ต้องการอะไรเลย ต้องการแค่ให้ท่านออกไปเท่านั้น ไกลได้เท่าไหร่ยิ่งดี ไปเถอะ ข้าขอร้อง” อากาศที่เริ่มเย็นลงเรื่อยๆ ทำให้เธอแทบอ้อนวอน

“ไม่ได้ ข้ายังไม่วางใจ”

“ไม่วางใจเรื่อง?” เสียงเธอแทบเป็นเสียงตะโกน

“หากเจ้าลงน้ำแล้วกลายเป็นปลาว่ายหนีหายไป ข้าจะทำเช่นไร” เขาบอกด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“โอ๊ย! ถ้ามันง่ายขนาดนั้น ฉันก็กลับบ้านได้ตั้งนานแล้วสิ เฮ้ย! แต่ก็ไม่แน่นี่” หลังจากโวยวาย จู่ๆ เธอก็พลันฉุกคิดขึ้นได้

“ตอนมา ก็แค่ตกน้ำแล้วกลายเป็นปลาแล้วมาโผล่นี่ หรือว่าตอนกลับเราจะลองตกน้ำดูอีกสักที เผื่อว่าจะโผล่กลับไปที่เดิม ตกท่าไหนดีวะที่ดูเหมือนอุบัติเหตุที่สุด” เธอจ้องเขม็งไปที่ลำธารอย่างพยายามใช้ความคิด กระทั่งคิดได้ในที่สุด

“เอาวะ ปิดตาตกมันนี่แหละน่าจะเนียนสุด” คิดได้ดังนั้น เธอก็ปิดตาทิ้งตัวลงไปแบบไม่เสียเวลาคิดอีก

“เฮ้ย!” เธอโวยลั่นหลังพบว่าตัวเองไม่ได้ตกอย่างที่คิด มิหนำซ้ำยังถูกคนข้างๆ คว้าเอวมากอดไว้แน่นอีก

“ทำอะไรของท่านเนี่ย ปล่อยข้า” เธอพยายามดิ้นออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย แต่รายนั้นนอกจากจะไม่ปล่อย ยังตวัดแขนอุ้มเธอไปวางบนโขดหินในท่าที่เธอนั่งคร่อมอยู่บนตักเขา

“ปล่อย” ใบหน้าที่ห่างกันแค่คืบทำให้เสียงห้ามของเธอเบาหวิว ต่างกับเขาที่เสียงหนักแน่น อีกทั้งสีหน้าก็ยังจริงจัง

“ไม่มีทาง เจ้าสัญญาแล้วว่าจะไม่ไปไหน”

“แต่มันอาจจะเป็นหนทางที่ทำให้ข้าได้กลับบ้านนะ ปล่อยข้าเถอะ ข้าอยากกลับบ้าน” เสียงเธอเว้าวอน แต่ถึงกระนั้นก็มิอาจทำให้เขายอมใจอ่อน

“เจ้าไม่สงสัยบ้างรึว่าเพราะเหตุใดเจ้าถึงต้องมาที่นี่ มาเจอข้าที่นี่ แล้วไม่สงสัยบ้างรึว่าเหตุใดต้องเป็นข้า” คำถามที่ชวนให้ฉุกคิดทำให้คนที่ดิ้นขลุกขลักก่อนหน้าถึงกับหยุดกึก

“มะหมายความว่าไง” เธอครางถามด้วยหัวคิ้วที่ขมวดมุ่น

“ก็หมายความว่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเรา มันไม่ใช่ความบังเอิญ แต่มัน…ถูกลิขิตไว้แล้ว” คนฟังถึงกับตาโต

“เป็นไปไม่ได้” เธอครางพลางทำหน้าประหนึ่งไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน

“หากไม่เชื่อ เจ้าก็ต้องอยู่เพื่อพิสูจน์ หาคำตอบให้ได้สิว่าเพราะอะไร” หลี่ลู่อวี๋ได้แต่ส่ายหน้าไปมา แน่นอนว่าถึงจะอยากรู้มากแค่ไหน แต่ถ้าเทียบกันแล้ว เธอยังอยากกลับบ้านมากกว่าอยู่ดี

“ไม่อยากรู้เหรอว่าทำไมต้องเป็นที่นี่ ทำไมต้องเป็นแม่น้ำสายนี้ แล้ว…ทำไมต้องเป็นเจ้ากับข้า อยู่เพื่อหาคำตอบด้วยกันเถิด ถือว่าข้าขอร้อง” เขาบอกพลางดึงมือเธอมากุมไว้

“ตะแต่ว่า…” ให้ตายสิ! สายตาเว้าวอนของเขาทำเอาความตั้งใจก่อนหน้าของเธอถึงกับสั่นคลอน

“จะว่าข้าว่าเห็นแก่ตัวก็ได้ แต่ข้ารอเจ้ามาทั้งชีวิตแล้ว ข้าจะไม่ยอมปล่อยเจ้าไปง่ายๆ เด็ดขาด” สิ้นเสียงเขาก็ลุกขึ้นยืน โดยที่ยังอุ้มกระเตงเธอไว้แบบนั้น

“ว้าย! เดี๋ยวสิ ที่ท่านพูดหมายความว่ายังไง โอ๊ยนี่…จะพาข้าไปไหน ปล่อยข้านะ” ท่าอุ้มชวนหวาดเสียว เมื่อสองขาของเธอถูกจับให้ไขว้เกี่ยวกันไว้ที่สะโพกสอบ ในขณะที่สะโพกผายของเธอก็ถูกสองแขนของเขาช้อนรองเอาไว้

ท่ามกลางเสียงร้องโวยวาย กอปรกับสองมือที่กำลังรัวกำปั้นทุบอกแกร่ง แต่ก็ไม่ทำให้เขายอมหยุด มิหนำซ้ำยังพาเธอเดินดุ่มๆ เข้าไปภายในบ้านท่าเดียว

“ฝูฟาหยางปล่อยข้า” เธอดิ้นขลุกขลัก ขณะถูกกอดอุ้มเข้าไปในบ้าน

“หยุดดิ้น อยากให้สองคนนั้นเห็นรึไงว่าเจ้าอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย” แน่นอนว่าเธอไม่อยากให้ใครเห็นสภาพเสื้อตัวบางที่แทบปิดอะไรไม่มิดของตัวเอง อาการดิ้นรนขัดขืนก่อนหน้าจึงหยุดกึก มิหนำซ้ำยังพยายามจะซุกหน้ากับอกแกร่งของเขาด้วยความกระดากอีก โดยเฉพาะเมื่อมีเสียงของเสี่ยวไป๋ดังขึ้น

“เกิดอะไรขึ้นเหรอขอรับคุณชาย” เสี่ยวไป๋ที่เห็นว่าหญิงสาวถูกอุ้มเข้ามา จึงอดถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ แต่มันกลับทำให้หญิงสาวที่ถูกอุ้มกระวนกระวายยิ่งกว่าเดิม

“รีบเข้าข้างในสิ เร็วเข้า” เธอกระซิบข้างหูอีกฝ่าย โดยหารู้ไม่ว่าสัมผัสแผ่วๆ ของตัวเองที่กำลังคลอเคลียข้างกกหู กำลังปลุกเสือที่เคยจำศีลให้ตื่นเพริด โดยเฉพาะเมื่อเนื้อสมันตรงหน้าช่างหอมหวนชวนให้ลิ้มลอง แต่ด้วยสถานการณ์ยังไม่เอื้ออำนวย เสือวัยกลัดมันจึงได้แค่เพียงก้มลงไปสูดกลิ่นหอมๆ ของเนื้อสมันพร้อมกับกระซิบเสียงกระเส่า

“กอดข้า” แน่นอนคนที่กำลังวิตกกังวลเรื่องความไม่เรียบร้อยของตัวเอง ไม่มีเวลามาคิดวิเคราะห์หาเหตุผล มีแต่จะรีบทำตามอย่างว่าง่าย

“อืม…” คนถูกกอดครางอย่างพอใจ ก่อนจะพาเธอก้าวฉับๆ ไปจากตรงนั้น ทิ้งให้ทั้งเสี่ยวไป๋และถงอีอีได้แต่หันมามองหน้ากันอย่างงงๆ

“ปล่อย” หลังจากถูกพามาอยู่ในห้องตามลำพัง เธอก็พยายามจะดันตัวออกมา แต่รายนั้นนอกจากจะไม่ปล่อย ยังทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง โดยที่มีเธอนั่งอยู่บนตัก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel