บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 8

วไลพรในฐานะแม่เจ้าบ่าวเชิญแขกที่มีเพียงหยิบมือเพราะงานจัดกันฉุกละหุกก็ค่อยๆ ทยอยเข้ามารดน้ำสังข์อวยพรบ่าวสาวที่หมอบคู่กันทีละคนสองคน จนถึงคิวพ่อแม่ของบ่าวสาวที่เข้ามาให้พร

‘ขอให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขนะลูก ดูแลน้องให้ดี และรีบๆ มีหลานให้แม่อุ้มไวๆ’ วไลพรแอบขึงตาใส่ลูกชายที่แอบเบ้ปาก อยากจะหวดเต็มแก่แต่ก็เกรงจะขายหน้า

‘หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะลูก ตากฤตแต่งงานแล้วถือเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ต้องมีความรับผิดชอบให้มากนะ’ อีกครั้งที่เจ้าบ่าวทำหูทวนลมตีหน้านิ่งต่อพรที่บิดาให้ จนมาถึงคิวมารดาของเจ้าสาวซึ่งเป็นผู้ใหญ่คนเดียวของฝ่ายหญิง

‘น้าฝากลูกสาวด้วยนะจ๊ะพ่อกฤต น้องยังเด็กทำผิดพลาดอะไรไปบ้างก็ตักเตือนกันได้นะพ่อคุณ’ ยังดีที่คราวนี้คนเป็นเจ้าบ่าวมีแก่ใจพยักหน้ารับคำอย่างเสียไม่ได้ ทั้งๆ ที่ใจไม่อยากรับฝากเลยซักนิด แต่ที่ทำไปก็ด้วยจำใจรักษามารยาทล้วนๆ

‘หนูชาลูก ขอให้เข้าใจสิ่งที่พ่อกับแม่ทำลงไปในครั้งนี้ ทุกอย่างก็เพื่อความสุขและอนาคตของลูก แม่ดีใจที่เห็นหนูได้อยู่ในที่ปลอดภัยกับคนที่พ่อกับแม่ไว้ใจมอบสิ่งมีค่าที่สุดในชีวิตให้ ต่อไปลูกต้องเชื่อฟังสามี ดูแลเขากับพ่อแม่สามีให้เหมือนที่หนูคอยดูแลปรนนิบัติพ่อกับแม่มาตลอดนะลูกนะ จำไว้ว่าทุกคนที่นี่จะเป็นครอบครัวใหม่ของลูก อย่าลืมพระคุณของท่านทั้งสองที่มีต่อครอบครัวเรา แม่กับพ่อรักลูกมากนะจ๊ะ’ ปลายหางเสียงสั่นเครือของมารดาทำให้คนเป็นลูกสาวใจหายอย่างบอกไม่ถูก ดวงตาคู่งามมีหยาดน้ำใสๆ คลอคลองแต่เจ้าตัวก็ก้มลงกราบและซ่อนน้ำตาแห่งความอาดูรไว้ กิริยานั่นทำให้คนหมอบใกล้ๆ กลอกตาแอบค่อนขอดอย่างรำคาญในใจ

‘ดัดจริต!’

เมื่อพิธีรดน้ำจบลง ร่างสูงลุกขึ้นดึงมงคลที่สวมศีรษะออกทันที ก่อนบิดขี้เกียจอย่างไม่แคร์สายตาใคร

‘เสร็จพิธีแล้วใช่ไหม ผมไปได้หรือยังครับ’ คำนั้นราวกับตบหน้าใครต่อใครในงาน โดยเฉพาะหญิงสาวผู้เป็นนางเอกของงานครั้งนี้ที่เหมือนโดนฉีกหน้าท่ามกลางสายตาแขกเหรื่อที่มาร่วมงานทุกคน แต่ทว่าแทนที่จะเอะอะโวยวายอาละวาดออกมาตามที่เจ้าบ่าวคาดหวัง แต่ตรงข้ามเจ้าหล่อนกลับดูนิ่งสงบราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น มารดาเจ้าบ่าวต่างหากที่เดือดร้อนแทน

‘พูดอะไรของแกเนี่ยตากฤต’ วไลพรกัดฟันกระหนาบ ถ้ามีไม้เรียวในมือรับรองว่าจะฟาดลูกชายตัวดีไม่ยั้งแน่ ฐานที่ทำให้พ่อแม่อับอายขายขี้หน้า

‘ยังไปไหนไม่ได้ เพราะแกต้องมาจดทะเบียนสมรสก่อน นายทะเบียนมารอแล้วไปเถอะ’ เป็นคุณเกียรติบิดาเจ้าบ่าวที่ตัดบทก่อนที่ลูกชายตัวแสบจะออกฤทธิ์อาละวาดได้

กับมารดายังพอขัดขืนได้ แต่กับบิดาแล้วกฤตภาคย์ยังคงเกรงใจกันอยู่บ้าง จึงต้องจำยอมทำตามอย่างเสียไม่ได้

‘เซ็นชื่อเสียสิจ๊ะหนูน้ำชา’

เสียงมารดาของเขาเอ่ยบอกสาวน้อยวัยสิบแปดเจ้าของเรือนร่างอ้อนแอ้นน่ารักน่าเอ็นดูในชุดไทยสีงาช้างดูสง่างาม ชุดที่เพิ่งไปถอยกันมาจากร้านตัดชุดวิวาห์หรูบนห้างดังพร้อมเขาเมื่อวานนั่นประไร

‘หนูน้ำชา’ สะดุ้งไหวกายนิดๆ ใบหน้ารูปไข่ของเจ้าหล่อนแม้จะตกแต่งด้วยเครื่องสำอางมียี่ห้อจนดูงามละม่อมสมเป็นเจ้าสาว แต่ก็ค่อนข้างซีดและดูจืดชืดในสายตาของคนเป็นเจ้าบ่าวอยู่นั่นเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel