ต่าต๋า ต้าเป่า
เดือนตุลาคม ปี1976 เมืองเหอเฟย มณฑลอานฮุย
ลี่จูรู้สึกถึงอากาศที่เย็นชื้นและกลิ่นดินจาง ๆ รอบตัว อากาศหนาวเหน็บจนเธอรู้สึกเสียดแทงผิว ถึงจะรับรู้สิ่งรอบตัวทว่าไร้เรี่ยวแรงจนไม่สามารถขยับตัวหรือลืมตาขึ้นมาได้ เธอได้แต่คิดในใจว่าชาติที่แล้วเธอช่างตายได้อย่างน่าเวทนาจริง ๆ
"แม่... แม่จ๋า ตื่นสิแม่..."
เสียงของต่าต๋าดังขึ้นใกล้ ๆ น้ำเสียงที่เจือความหวาดกลัวอย่างชัดเจน เธอได้ยินชัดเจนถึงเสียงสะอื้นเล็ก ๆ ดังมาจากข้างตัวเธอ
"แม่อย่าทิ้งพวกเราไปนะ..."
อีกเสียงของต้าเป่าดังตามมา เสียงสั่นเครือของเด็กเล็ก ๆ ที่ฟังดูไร้หนทางช่างน่าสงสารไม่น้อย
ลี่จูพยายามจะขยับตัว แต่ร่างกายของเธอกลับหนักอึ้ง ราวกับเธออยู่ในร่างที่ไม่ใช่ของตัวเอง เธอรู้สึกถึงความเจ็บปวดและอ่อนล้าทั่วร่าง นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงขยับตัวไม่ได้ ระหว่างนั้นความทรงจำยิบย่อยของเธอก็ถาโถมเข้ามาจนเธอจดจำทุกอย่างได้ทั้งหมด
"แม่จ๋า... แม่..." เสียงเด็กทั้งสองยังคงร้องเรียกไม่หยุด
เสียงสะอื้นของเด็ก ๆ ยังดังอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ลี่จูในร่างใหม่ของเธอกำลังพยายามรวบรวมพลังเพื่อจะลืมตาขึ้น ความเจ็บปวดและอ่อนล้าที่ถาโถมมาทำให้เธอยังคงขยับตัวไม่ได้ ราวกับถูกตรึงไว้ด้วยพลังที่มองไม่เห็น
เสียงฝีเท้าที่หนักดังเข้าใกล้มาเรื่อย ๆ ตามมาด้วยเสียงบานประตูไม้เก่าที่ถูกผลักออกอย่างแรงจนเกิดเสียงดัง
ปัง!
"ลี่จู! นังขี้เกียจเอ๊ย!"
เสียงตวาดดังก้องมาจากปากของหญิงชราร่างผอมผิวหน้ากร้านจากแดด นางเดินกราดเข้ามาในห้องด้วยสีหน้าเดือดดาล จนต่าต๋าและต้าเป่าที่กอดร่างของแม่อยู่สะดุ้งสุดตัว
"พวกแกทำอะไรกันอยู่?!"
แม่จ้าวตะคอกใส่ พร้อมทั้งจ้องมองไปที่ร่างของลี่จูที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นด้วยสายตาโกรธแค้น
"แม่... แม่ไม่สบาย..."
ต่าต๋ากล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ พลางกางแขนพยายามปกป้องร่างของแม่เอาไว้
"ไม่สบายอะไรกัน? นังนี่มันแค่ขี้เกียจจะทำงานมากกว่า! วันนี้ไม่ยอมออกไปทำกับข้าว แล้วพวกฉันจะกินอะไร! ดีแต่หลบอยู่ในห้องทำตัวเป็นพวกไร้ประโยชน์ ไอ้พวกขี้เกียจสันหลังยาว!"
ในตอนนั้นเองเสียงของผู้หญิงอีกคนก็ดังแทรกขึ้น หลี่ยั่วถง สะใภ้คนโตของบ้าน เดินตามแม่จ้าวเข้ามาพร้อมด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหมั่นไส้
"คุณแม่คะ ขืนปล่อยให้นังนี่ทำตัวแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เราก็ต้องลำบากเพราะมันแน่ ๆ ฉันบอกแล้วว่าเราควรส่งมันไปทำงานหนัก ๆ ให้หลาบจำเสียบ้าง จะได้รู้ว่าในบ้านนี้ไม่มีที่ให้คนขี้เกียจ!"
แม่จ้าวหันมาพยักหน้าอย่างเห็นด้วย
"นังลี่จู! ตื่นขึ้นมาซะ ถ้าหล่อนยังคิดจะนอนนิ่งแบบนี้ ฉันจะไล่หล่อนกับลูกออกจากบ้าน!"
แม่จ้าวก้าวไปกระชากแขนของลี่จู แต่เด็กชายทั้งสองรีบเข้ามาขวางไว้ ต้าเป่ากางแขนปกป้องแม่พลางพูดด้วยเสียงสะอื้น
"อย่าทำแม่ของผมนะ! แม่ไม่สบายจริง ๆ! ปล่อย ฮื้อออ ปล่อยผม ผมจะไปหาแม่"
หลี่ยั่วถงมองเด็กชายด้วยสายตารำคาญ ก่อนจะคว้าตัวต้าเป่าลากออกไปนอกห้อง ถึงต้าเป่าจะร้องไห้เสียงดังลั่น แต่หลี่ยั่วถงกลับไม่มีท่าทีจะหยุด
"มานี่ไอ้เด็กดื้อ! ฉันจะสั่งสอนให้แกจำไว้ว่าอย่ายุ่งเรื่องของผู้ใหญ่!"
เพี๊ยะ เพี๊ยะ
"อย่านะ! อย่าทำร้ายพี่ชาย!" ต่าต๋าร้องไห้พลางพยายามดึงแขนพี่ชายกลับมาด้วยแรงอันน้อยนิด จนร่างเล็ก ๆ กระเด็นไปชนกับประตูห้อง
พลั๊ก!
ลี่จูในร่างที่อ่อนล้ารู้สึกเหมือนหัวใจของเธอแตกสลายเมื่อได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็ก ๆ เธอพยายามเรียกพลังทั้งหมดในตัวเองเพื่อขยับลุกขึ้น
"หยุด! พอได้แล้ว!"
เสียงของลี่จูดังขึ้นอย่างหนักแน่น สายตาของเธอที่มองทุกคนแข็งกร้าวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แม่จ้าวและหลี่ยั่วถงหันขวับมามองเธอด้วยความประหลาดใจ ต่าต๋าและต้าเป่าหันมามองแม่ของพวกเขาด้วยความดีใจ
ลี่จูยันตัวขึ้นนั่ง แม้จะรู้สึกเหมือนพลังในร่างของเธอเหลือเพียงน้อยนิด แต่ตอนนี้เธอต้องช่วยลูก ๆ ของเธอให้ได้ก่อน
"ฉันไม่ใช่คนขี้เกียจ! ฉันไม่สบายจนลุกไม่ขึ้นจริง ๆ คุณแม่ หลี่ยั่วถง พวกคุณไม่มีสิทธิ์มาทำร้ายลูกของฉัน!"
หลี่ยั่วถงเบ้ปากดูถูกลี่จู พลางเดินเข้าไปใกล้ ๆ เธอเพื่อดูให้เต็มตา
"โอ้โห... วันนี้กล้าพูดขึ้นมาแล้วสินะนังลี่จู! แต่จำไว้ว่าฉันใหญ่กว่าหล่อนในบ้านนี้!"
ลี่จูจ้องกลับด้วยแววตาแข็งกร้าว
"ใหญ่แค่ไหนก็ไม่มีสิทธิ์มารังแกลูกฉัน! ฉันจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายต่าต๋ากับต้าเป่าอีก"
แม่จ้าวที่กำลังโกรธจัดชี้นิ้วใส่ลี่จู นี่เป็นครั้งแรกที่ลี่จูกล้าต่อต้านนาง มันจึงทำให้นางรู้สึกเหมือนถูกหยามหน้า
"อย่ามาทำเป็นปากดี ถ้าอยากอยู่ในบ้านนี้ หล่อนต้องทำตัวให้มีประโยชน์! คอยรับใช้ฉันกับทุกคนให้ดี นึกถึงเงิน 2 หยวนที่ฉันเคยให้แกกับลูกเอาไว้เยอะ ๆ นังหมาป่าตาขาว!"
ใบหน้าของแม่จ้าวบิดเบี้ยวจนไม่น่ามอง นางยังคิดว่าตัวเองสามารถใช้เรื่องนี้ทวงบุญคุณจากลี่จูได้เช่นเคย แต่ใจหนึ่งนางก็อยากกดดันให้ลี่จูหนีออกไปจากบ้านหลังนี้ด้วยตัวเอง เพื่อจะได้มีข้ออ้างไว้บอกลูกชายคนเล็กว่าลี่จูหนีตามชายชู้ไป
"หึ! จริง ๆ แล้วคุณแม่ต่างหากที่ควรดูแลฉันกับลูก ๆ ให้ดี"
"นะ...นังลี่จู! แกกำลังพูดอะไรออกมา เรื่องอะไรฉันต้องไปดูแลพวกแก!"
"ก็พี่มู่เฉินฝากเงินมาเดือนละ 20 หยวน แต่ฉันกับลูกได้แค่เดือนละ 2 หยวน อีก 18 หยวนหายไปไหนละคะ"
ลี่จูรู้ว่าคำพูดและการกระทำของเธอจะทำให้แม่จ้าวโกรธมาก และอาจจะไล่เธอกับลูก ๆ ออกจากบ้านก็เป็นได้ แต่นั่นแหละคือจุดประสงค์ของเธอ หากจะให้เธอไปขอความช่วยเหลือจากหัวหน้าหมู่บ้านก็ไร้ผล เพราะหัวหน้าหลี่ก็คือพ่อของหลี่ยั่วถง
"กะ..แก แกอย่ามาพูดพล่อย ๆ นะ"
หลี่ยั่วถงกับแม่จ้าวมองหน้ากันพร้อมกับทำสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก
"เหอะ! พูดจริงหรือไม่จริงเธอก็น่าจะรู้คำตอบดีหนิ"
สีหน้าเอาเรื่องของลี่จูทำให้หลี่ยั่วถงรีบดึงแขนแม่จ้าวออกไปนอกห้องเพื่อปรึกษาหารือกัน เด็ก ๆ ทั้งสองได้โอกาสจึงรีบเดินเข้าไปหาแม่ของตัวเอง
"แม่.."
"ชู่ว์ เงียบไว้ก่อนลูก"
ลี่จูรีบใช้จังหวะที่แม่จ้าวกับหลี่ยั่วถงยังไม่เดินเข้ามารีบไปเก็บเงินกับเอกสารเข้ามิติ ก่อนที่คนพวกนั้นจะเห็น ถ้าทั้งสองพบเห็นคงไม่แคล้วยึดทุกอย่างของเธอไป ต่าต๋ากับต้าเป่ามองการกระทำของมารดาเงียบ ๆ
ดวงตะวันกำลังลับขอบฟ้า ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้มปนส้มอ่อน ๆ ลมหนาวพัดกระโชกผ่านทุ่งโล่งใกล้หมู่บ้านเล็ก ๆ ราวกับสะท้อนความอ้างว้างที่กำลังเกิดขึ้นภายในบ้านหลังหนึ่ง เสียงตวาดดังสนั่นของแม่จ้าวทำให้บรรยากาศภายในบ้านยิ่งอึดอัด
"ออกไปเดี๋ยวนี้! ฉันไม่อยากเห็นหน้าพวกแกอีก!"
แม่จ้าวตวาดลั่น มือที่ยกขึ้นชี้ตรงไปยังลี่จูและลูก ๆ ของเธอเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวเพื่อกลบเกลื่อนเรื่องเงิน นางกับลูกสะใภ้คนโตตกลงกันว่าจะไล่ลี่จูออกจากบ้าน ก่อนที่เธอจะรู้อะไรไปมากกว่านี้
"แม่ครับ! ตอนนี้มันมืดแล้ว พวกเขาจะไปอยู่ที่ไหน?"
มู่หยางลูกชายคนกลางของบ้าน พยายามพูดกับมารดาด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่มเพื่อขอความเห็นใจ สายตาของเขาจ้องมองน้องสะใภ้กับหลาน ๆ ด้วยความกังวลและเป็นห่วง
"แกหุบปากซะ! นังลี่จูมันสร้างปัญหาให้บ้านเรามานานเกินไปแล้ว! รีบไล่มันไปเลยแม่ อยู่ไปก็รกหูรกตา ถ้าแกอยากช่วยมันนัก แกก็ออกไปกับมันเลยสิ!"
มู่ไฉ ลูกชายคนโตของบ้าน สามีของหลี่ยั่วถงตวาดใส่มู่หยางอย่างดุดัน
มู่หยางชะงัก สีหน้าเต็มไปด้วยความผิดหวังและเจ็บปวด เขาเงียบไปเพราะรู้ว่าการขัดคำแม่จ้าวและมู่ไฉจะไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น
หลี่ยั่วถงในขณะนั้นเดินกลับเข้าบ้านด้วยท่าทางเย่อหยิ่ง และถือเสื้อผ้าของลี่จูและลูก ๆ ออกมาด้วยความสะใจ เธอโยนเสื้อผ้าและของใช้เพียงไม่กี่ชิ้นลงบนพื้นดินตรงหน้าประตูบ้าน
"นี่ของของแก! เอาไปให้หมด แล้วอย่ากลับมาเหยียบบ้านนี้อีก!"
ลี่จูยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดด้วยแววตาเจ็บปวด แต่เธอพยายามกลั้นน้ำตาและความโกรธไว้ เธอกอดลูกชายสองคนแน่นต่าต๋าและต้าเป่าที่ร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมแขนของเธอ
ทว่านี่เป็นเพียงการแสดงของเธอที่ต้องทำให้ชาวบ้านเห็นเพื่อเป็นหลักฐาน ถึงจะมีคนออกมามุงดูมากมาย ชาวบ้านต่างก็รับรู้ถึงการถูกกดขี่ข่มเหงของเธอ แต่ก็ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้ามาช่วย เพราะพ่อของหลี่ยั่วถงถือเป็นคนใหญ่คนโตในหมู่บ้านแห่งนี้
"คุณแม่... อย่างน้อยก็ให้พวกเราอยู่จนถึงเช้าก่อนได้ไหมคะ?" ลี่จูพูดด้วยเสียงสั่นเครือ แต่แม่จ้าวกลับหัวเราะเยาะ
"เช้าอะไร? พวกแกมันตัวซวย! ฉันไม่อยากเก็บคนขี้เกียจไว้ให้รกบ้าน!"
"แม่! แต่เด็ก..." มู่หยางพยายามพูดอีกครั้ง แต่ถูกมู่ไฉขัดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
"หยุดพูดมากได้แล้ว ถ้ารักมันนักก็ไปด้วยกันเลย!"
"แม่จ๋า เราจะไปอยู่ที่ไหน?"
ต่าต๋าถามด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ น้ำตาไหลอาบแก้ม ลี่จูก้มลงมองลูกชายของเธอ ดวงตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด แต่เธอกลับฝืนยิ้มออกมา
"ไม่ต้องห่วงนะลูก... แม่จะหาที่อยู่ใหม่ให้เราเอง"
แม่จ้าวหัวเราะเยาะในลำคอ
"หึ! ถ้าของในบ้านหายไปสักชิ้น ฉันจะแจ้งทางการให้มาจัดการพวกแก! ไปเลยไป๊ ไอ้พวกตัวเสนียด!"
ลี่จูไม่ตอบ เธอประคองลูก ๆ ขึ้นเดินไปยังของที่ถูกโยนกองอยู่บนพื้นดินด้วยมือที่สั่น เธอเก็บเสื้อผ้าขึ้นมาใส่ในห่อผ้าเล็ก ๆ ที่เธอพกมา เสียงลมหนาวพัดกระโชกผ่าน จนต่าต๋าและต้าเป่ากอดกันแน่นเพื่อต้านทานความหนาว
เมื่อเก็บของเสร็จ เธอหันหลังเดินออกจากบ้านโดยไม่มีคำพูดใด ๆ เสียงฝีเท้าของพวกเธอค่อย ๆ เบาลงไปพร้อมกับเงามืดที่กลืนกินท้องฟ้า ท่ามกลางสายตาของชาวบ้านที่มามุงดูและคนบ้านจ้าว
"แม่... พวกเราจะไปอยู่ที่ไหน?"
ต้าเป่าถามขึ้นอีกครั้ง น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ลี่จูก้มลงมากอดลูกทั้งสองไว้แน่น
"ลูกไม่ต้องห่วงนะ ต่อไปนี้แม่จะไม่ให้ใครมารังแกเราอีก แม่สัญญา..."
เธอมองไปยังเส้นทางเบื้องหน้าที่เต็มไปด้วยความมืด ท่ามกลางสายลมหนาวที่พัดผ่าน เสียงหมาเห่าหอนในระยะไกลยิ่งทำให้บรรยากาศดูน่ากลัวขึ้น แต่ลี่จูรู้ว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่น เธอต้องเดินต่อไปเพื่อหาที่ที่ลับตาคน
ถนนดินแคบ ๆ ที่เต็มไปด้วยหลุมขรุขระ สองข้างทางไปด้วยต้นไม้สูงใหญ่ ใบไม้พลิ้วไหวตามแรงลมราวกับจะซ้ำเติมความอ้างว้างของสามคนแม่ลูก พวกเขาเดินห่างออกจากบ้านเรือนออกไปเรื่อย ๆ เสียงหมาหอนทำให้บรรยากาศรอบตัวเริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ
บรู้วววววว
"แม่ครับ..ต่าต๋ากลัว"
"ต่าต๋าไม่ต้องกลัว พี่กับแม่ก็อยู่ตรงนี้ ไม่มีที่ไหนน่ากลัวเท่าบ้านนั้นแล้ว"
เสียงของพี่ชายอย่างต้าเป่าปลอบน้องชายตัวน้อยที่อยู่บนแขนของมารดา ลี่จูรู้สึกว่าตัวเองคิดไม่ผิดจริง ๆ ที่เลือกมาที่นี่
"ต่าต๋า ต้าเป่า แม่อยากให้ลูกทั้งสองหลับตา จนกว่าแม่จะบอกให้ลืมตาค่อยลืมตาขึ้นมา ทำได้ไหมลูก?"
หนูน้อยทั้งสองหันมองผู้เป็นแม่ผ่านแสงจากดวงจันทร์ที่ส่องสว่าง
"จ้ะแม่จ๋า/ครับแม่"
"งั้นหลับตาเลยลูก"
ทั้งสองคนทำตามที่แม่บอกอย่างว่าง่าย ลี่จูเห็นแบบนั้นจึงพาลูก ๆ ของเธอเข้าไปในมิติทันที หากเธอพาเด็ก ๆ กลับไปที่บ้านเดิมของเธอในตอนนี้ก็จะทำให้ทุกคนตกใจเปล่า ๆ
พรึบ!
