ซื้อของ
ลี่จูเหงื่อแตกพลั่กขณะที่สะดุ้งตื่นจากความฝันสุดสะเทือนใจ ดวงตาของเธอแดงก่ำและเต็มไปด้วยน้ำตาที่ไหลรินลงมาอย่างห้ามไม่ได้ เธอนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง สายตามองไปรอบห้องราวกับหวังจะหาคำตอบให้กับสิ่งที่เพิ่งเผชิญ แต่ทุกอย่างยังคงเงียบสงบเหมือนเดิม มีเพียงเสียงลมหายใจที่เหนื่อยหอบของเธอเท่านั้นที่ดังสะท้อนในห้อง
"นี่มันอะไรกัน... ทำไมฉันถึงต้องฝันแบบนี้... มันคืออะไร..."
ลี่จูพึมพำกับตัวเอง เบื้องลึกในใจเธอเต็มไปด้วยความสับสนและความหวาดกลัว ความฝันที่คล้ายความจริงเหลือเกิน ทั้งใบหน้าของเด็ก ๆ ที่เปื้อนน้ำตา เสียงร้องไห้ และความทุกข์ทรมานที่เธอรู้สึกได้ราวกับมันเกิดขึ้นจริง
"หากมันคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริง... ได้โปรดบอกฉันที อย่างน้อยให้ฉันเตรียมตัวเถอะ..."
เสียงของเธอสั่นเครือปนสะอื้น ทันใดนั้น เสียงของชายชราก็ดังขึ้นจากที่ไหนสักแห่งในห้อง เป็นเสียงที่นุ่มลึก ทรงพลัง และน่าเกรงขาม
"นั่นคืออดีตชาติของเจ้าไงล่ะ ลี่จู เจ้าอยากกลับไปแก้ไขอดีตหรือไม่?"
ลี่จูสะดุ้งหัวใจเต้นระรัว ขนลุกซู่ขึ้นมาทันที เธอกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้อง แต่กลับไม่พบใครเลย แล้วเสียงนั้นมาจากไหน
"ใครน่ะ! คุณเป็นใคร!? หมายความว่ายังไง?"
เธอถามออกมาด้วยความหวาดระแวง พลางมอบสำรวจไปรอบ ๆ ห้อง
"ข้าก็คือคนที่จะนำพาเจ้ากลับไปแก้ไขอดีตของเจ้า หากเจ้าต้องการ แต่หากเจ้าไม่ต้องการ เจ้าจะได้ไปยังแดนชำระบาป ก่อนจะถูกตัดสินว่าจะต้องไปที่ไหนต่อในอีกสองวันข้างหน้า"
ลี่จูรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบหยุดนิ่ง เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก ก่อนจะถามกลับด้วยเสียงแผ่วเบา
"มะ...หมายความว่า ฉันจะตายในอีกสองวันข้างหน้าน่ะเหรอ"
"ใช่ เวลาในชาตินี้ของเจ้ากำลังจะหมดลงในอีกสองวัน"
เสียงนั้นกล่าวย้ำด้วยน้ำเสียงราบเรียบ แต่หนักแน่น จนทำให้คนฟังเริ่มคิดหนักว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่
"..."
"แต่เจ้ายังมีโอกาส หากเจ้าต้องการแก้ไขอดีต เด็กสองคนนั้น ต่าต๋ากับต้าเป่ายังสามารถมีชีวิตที่ดีกว่านี้ได้ พวกเขาไม่สมควรต้องตายอย่างน่าเศร้าหรือถูกลิขิตให้จบชีวิตในคุกเช่นนั้น"
ลี่จูตัวแข็งทื่อเมื่อได้ยินชื่อเด็กทั้งสองในฝันของเธอ หลุดออกมาจากปากของเจ้าของเสียงลึกลับนั้น เธอไม่เคยเล่าเรื่องความฝันนี้ให้ใครฟัง แล้วชายชราคนนี้รู้ได้ยังไง
"คุณรู้ได้ยังไง... เด็กในฝันของฉันชื่ออะไร... คุณเป็นใครกันแน่?"
"ข้ารู้ทุกอย่าง เจ้าไม่ต้องเสียเวลาหาคำตอบให้วุ่นวาย เพียงแค่เลือกมาว่าเจ้าจะกลับไปแก้ไขอดีตหรือไม่"
"..."
"หากเจ้าเลือกกลับไป เจ้าจะได้มีโอกาสปกป้องลูก ๆ ของเจ้า และตัวเจ้าเองก็ไม่ต้องอ้างว้างโดดเดี่ยวเหมือนในชาตินี้ ข้าจะมอบมิติวิเศษสำหรับเก็บสิ่งของให้เจ้า"
ลี่จูนิ่งอึ้ง เธอพยายามทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ทุกอย่างดูเกินจริงจนยากจะเชื่อ
"มิติเหรอคะ? แล้วมันจะช่วยฉันยังไง?"
"ลองสวมกำไลหยกที่วางอยู่ตรงหน้าเจ้าสิ"
เจ้าของเสียงลึกลับกล่าวขึ้น ทันใดนั้นก็มีแสงเรืองรองปรากฏขึ้นบนโต๊ะข้างเตียงของเธอ พอแสงนั้นจางลง เธอก็เห็นกำไลหยกวงหนึ่งวางอยู่ตรงนั้น ดวงตาของลี่จูเบิกกว้าง เธอยกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ
"นิ..นี่มันกำไลหยกจริง ๆ เหรอ..."
เธอเอื้อมมือไปหยิบมันขึ้นมา กำไลเย็นเฉียบราวกับถูกเก็บไว้ในที่มืดเป็นเวลานาน
"ลองสวมดูเถอะ"
ลี่จูสูดลมหายใจลึกก่อนจะสวมกำไลเข้าไป ทันทีที่กำไลสัมผัสผิวของเธอ ความรู้สึกบางอย่างก็แล่นผ่านร่างของเธอ เธอรู้สึกเบาโหวง แต่ในขณะเดียวกันก็มั่นคงอย่างแปลกประหลาด
"เจ้าสามารถใช้มันเพื่อเข้าและออกจากมิติได้ เพียงแค่พูดว่า ‘เข้ามิติ’ หรือ ‘ออกมิติ’ และเจ้าจะสามารถเก็บสิ่งของไว้ในนั้นได้ ทุกสิ่งที่อยู่ในนั้นจะคงสภาพเดิม อย่างเช่น น้ำแข็งก็จะไม่ละลาย และสามารถพาคนที่เจ้าเชื่อใจเข้าออกในมิติได้"
ลี่จูได้ยินแบบนั้นก็เริ่มทดสอบด้วยความสงสัย ว่ามันจะเป็นจริงอย่างที่เจ้าของเสียงลึกลับพูดหรือไม่
"เข้ามิติ!"
ทันใดนั้น ลี่จูก็พบว่าตัวเองยืนอยู่ในพื้นที่ว่างเปล่าขนาดใหญ่ พื้นที่นั้นไม่มีจุดสิ้นสุด มันเงียบสงัดแต่กลับให้ความรู้สึกสงบ เธอสำรวจรอบตัวก่อนจะเอ่ยถามว่า..
"ฉันสามารถเอาอพาร์ตเมนต์ของฉันเข้าไปในนี้ได้ไหมคะ?"
"ย่อมได้ เจ้ายังสามารถไปซื้อสิ่งของจำเป็นเพื่อเตรียมตัวสำหรับยุคที่เจ้ากำลังจะไปได้ด้วย ข้าแนะนำให้เจ้าเตรียมอาหาร เครื่องมือ และสิ่งของที่จำเป็นต่อการเอาชีวิตรอดให้ครบถ้วน"
ลี่จูคิดถึงความแห้งแล้งในฝันและใบหน้าของลูก ๆ ที่อดอยาก เธอถามต่อ
"ถ้าอย่างนั้นคงต้องซื้อของเยอะเลยสิท่า"
"ไม่ต้องหรอก ของที่เจ้าหยิบออกมาจะเพิ่มขึ้นในวันถัดไป ปริมาณของมันจะกลับมาเท่าเดิมอีกครั้ง"
ลี่จูรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้นแรง เธอนึกถึงต่าต๋าและต้าเป่า ใบหน้าของเด็กน้อยที่เต็มไปด้วยน้ำตาทำให้เธอใจสลาย เธอจึงตัดสินใจได้ในทันที
"เอาว่ะ อยู่ก็ตาย ไม่สู้ไปตายเอาดาบหน้าสักครั้ง อย่างน้อยต่าต๋ากับต้าเป่าก็ต้องการแม่ ที่นี่ไม่มีใครให้ฉันต้องห่วงแล้ว... ฉันตกลงค่ะ"
เสียงนั้นเงียบไปชั่วครู่ ก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงพึงพอใจ
"ดี อีกสองวันข้าจะมารับเจ้า เตรียมตัวให้พร้อม หรือถ้าเสร็จก่อนก็เรียกข้าได้ตลอดเวลา"
เมื่อเสียงนั้นจางหาย ลี่จูก็พบว่าตัวเองกลับมาอยู่ในอพาร์ตเมนต์แล้ว เธอเหลือบมองนาฬิกาข้างเตียง พบว่าเป็นเวลาเกือบตีสาม เธอรีบลุกขึ้นมือถือมาเพื่อค้นหาข้อมูลการเอาชีวิตรอดจากความแห้งแล้ง รวมถึงรายการอาหารเสริมสำหรับเด็ก ๆ และจดรายการสิ่งที่ต้องซื้อด้วยความตั้งใจ
"ต่าต๋า...ต้าเป่า...แม่จะทำให้พวกหนูมีชีวิตที่ดีกว่านี้ให้ได้..."
เธอพูดเบา ๆ แต่แววตาของเธอกลับมุ่งมั่นและเตรียมพร้อมที่จะสู้เพื่อเด็กน้อยทั้งสอง
ยามค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเด็กที่ขาดสารอาหาร รูปภาพของเด็กผอมแห้งที่มีผิวซีดแห้งและตากลวงโบ๋ทำให้ลี่จูสะท้อนใจ เธอคิดถึงต่าต๋าและต้าเป่าที่เธอเห็นในความฝัน เด็กชายสองคนที่มีร่างกายผอมบาง เหลืองซีดแห้งกร้าน ท้องป่องจากการขาดโปรตีน
"แบบนี้เอง...ขาดแคลนอาหารอย่างหนัก นี่คงเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องเผชิญในยุคนั้น"
ลี่จูพูดพึมพำ น้ำเสียงสั่นไหวด้วยความรู้สึกสงสาร เธอรีบจดข้อมูลอาหารเสริมที่ช่วยบำรุงเด็ก ๆ และบันทึกยี่ห้ออาหารเสริมที่หาซื้อได้ในยุคปัจจุบัน
จากนั้นลี่จูจึงเปลี่ยนไปค้นหาวิธีการฟื้นฟูหน้าดินและการหาตาน้ำในพื้นที่แห้งแล้ง
"ต้องปลูกพืชอะไรบ้างถึงจะช่วยปรับสภาพดินได้… แล้วน้ำล่ะ ต้องขุดลึกแค่ไหนถึงจะเจอตาน้ำ?"
เธอพูดกับตัวเองพลางเลื่อนหน้าจออ่านข้อมูลอย่างตั้งใจ พร้อมจดบันทึกสิ่งสำคัญลงในสมุดโน้ต
เมื่อหาข้อมูลเสร็จ ลี่จูก็หยิบสมุดบัญชีธนาคารออกมาเปิดดู เธอนับเงินในบัญชีอย่างละเอียดก่อนจะถอนหายใจยาว
"มีเงินแค่สามแสนหยวน… ฉันจะซื้ออะไรได้บ้างเนี่ย? ถ้าพาเด็ก ๆ ออกจากบ้านนั้นแล้วจะพาพวกเค้าไปอยู่ที่ไหน" เธอพูดกับตัวเองด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
"โชคยังดีที่ยังมีผักสดหลายอย่างที่ร้าน ช่วยประหยัดได้บ้าง…"
ลี่จูเปิดสมุดโน้ตแล้วเริ่มจดรายการสิ่งของที่จำเป็นเช่น ของใช้และอาหารเสริมของเด็ก อาหารสด เครื่องปรุง ของใช้ เสื้อผ้า เครื่องมือทำการเกษตรและวัสดุก่อสร้าง
"ฉันต้องเตรียมให้พร้อมที่สุด"
แสงอาทิตย์อ่อน ๆ เริ่มสาดส่องเข้ามาในห้อง ดวงตะวันยามเช้าทำให้ลี่จูรู้ตัวว่าเวลาผ่านไปจนถึงหกโมงเช้าแล้ว เธอรีบลุกจากโต๊ะ เดินไปหยิบผ้าขนหนูเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำ สีหน้าของเธอแสดงถึงความเร่งรีบแต่ด้วยการวางแผนเอาไว้ก่อนแล้ว เธอจึงมั่นใจว่าต้องทันเวลาแน่นอน
ขณะที่อาบน้ำ ลี่จูคิดทบทวนถึงแผนการของตัวเอง น้ำอุ่นจากฝักบัวช่วยปลอบประโลมความเครียดในใจเธอชั่วขณะ
"ถ้าฉันจะไปเริ่มต้นใหม่ในอดีต ฉันต้องทำให้ดีที่สุด… อย่างน้อยต่าต๋าและต้าเป่าจะต้องไม่ลำบากแบบในฝันนั้น ลูกของฉัน อย่าฝันว่าใครจะได้แตะ"
หลังจากแต่งตัวเสร็จ ลี่จูก็หยิบกระเป๋าสตางค์และสมุดโน้ตติดตัวออกจากบ้าน
เธอเดินเข้ามาในร้านขายยาและของใช้สำหรับเด็กขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่หน้าตลาด ซึ่งเป็นจุดเด่นที่คนพบเห็นได้อย่างง่ายดาย
"กริ๊ง!"
เสียงกระดิ่งหน้าประตูดังขึ้น ดึงความสนใจจากเภสัชกรสาววัยกลางคนที่ยืนอยู่หลังเคาน์เตอร์ เธอมีรอยยิ้มอบอุ่นและดูเป็นมิตร
"สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยไหมคะ?" เภสัชกรเอ่ยทักเมื่อเห็นลูกค้าเดินเข้าไปในร้าน
"สวัสดีค่ะ ฉันมีเรื่องการดูแลเด็กอยากปรึกษาหน่อยค่ะ"
ลี่จูพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่สีหน้าบ่งบอกถึงความกังวล เภสัชกรจึงรีบพยักหน้ารับ แล้วเชิญให้เธอนั่งลงที่เก้าอี้ข้างเคาน์เตอร์
"ได้เลยค่ะ เล่าให้ฟังได้เลย"
ลี่จูหยิบสมุดโน้ตออกมา เปิดหน้าแรกที่เธอวาดภาพลักษณะของเด็กในความฝันลงไป แม้จะไม่ได้สวยงามเหมือนมืออาชีพ แต่ภาพนั้นก็ช่วยสื่อความหมายได้ดีพอสมควร
"เด็กคนนี้ค่ะ… เขามีผิวค่อนข้างเหลืองซีด ท้องป่อง และดูอ่อนแอมาก เวลาล้มป่วยก็ดูเหมือนจะหายช้า ฉันอยากรู้ว่ามีอาหารเสริมหรือวิตามินอะไรที่ช่วยให้เขาแข็งแรงขึ้นบ้างคะ?"
เภสัชกรหยิบแว่นตามาสวมก่อนจะมองภาพในสมุดอย่างตั้งใจ
"อืม... จากลักษณะที่เล่ามา เด็กน่าจะมีภาวะขาดสารอาหารและโปรตีนอย่างรุนแรงค่ะ คุณแม่พอจะทราบไหมคะว่าเขาได้รับประทานอะไรเป็นหลัก?"
ลี่จูนิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนตอบกลับด้วยสีหน้าเศร้าสลด
"น่าจะกินข้าวเป็นหลักค่ะ อาจมีผักบ้างเล็กน้อย แต่นม ไข่ หรือเนื้อสัตว์แทบไม่มีเลย"
เภสัชกรพยักหน้าเล็กน้อย สีหน้าเธอดูครุ่นคิดก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบผลิตภัณฑ์จากชั้นวางหลายชนิด
"ถ้าอย่างนั้น นี่คือสิ่งที่ฉันแนะนำค่ะ"
เภสัชกรวางผลิตภัณฑ์หลายอย่างลงบนเคาน์เตอร์ เริ่มจากวิตามินรวมสำหรับเด็ก อาหารเสริมโปรตีนชนิดผง และน้ำมันปลา
"ตัวนี้เป็นวิตามินรวมค่ะ มีส่วนผสมของธาตุเหล็กและสังกะสี ซึ่งช่วยในเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกันและบำรุงเลือด ส่วนตัวนี้เป็นโปรตีนชนิดผง เหมาะสำหรับเด็กที่ได้รับโปรตีนไม่เพียงพอในมื้ออาหารค่ะ"
เธอหยิบผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นขึ้นมาอธิบายอย่างละเอียดลี่จูฟังอย่างตั้งใจ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความหวัง
"แล้วเด็กที่อ่อนแอมาก ๆ ล่ะคะ ควรเสริมอะไรเพิ่มเป็นพิเศษไหม?"
"ถ้าเด็กอ่อนแอมาก ฉันแนะนำให้เสริมโอเมก้า 3 จากน้ำมันปลา หรือพวกวิตามินดีค่ะ เพื่อช่วยบำรุงสมองและกระดูก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มพลังงานให้เด็กมีแรงขึ้นด้วย วิตามินสำหรับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุก็มี"
เภสัชกรพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้ ลี่จูพยักรับแล้วสั่งซื้อของทันที นอกนั้นยังมีวิตามินบำรุงร่างกายของคุณแม่เตรียมตั้งครรภ์ และแคลเซียมบำรุงกระดูกและสายตาของผู้สูงอายุ ลี่จูจึงเลือกซื้อมาทุกอย่างเผื่อจำเป็นได้ใช้
"งั้นฉันขอซื้อตามที่คุณแนะนำอย่างละกล่องค่ะ"
"ได้เลยค่ะ แต่ขอแนะนำอีกนิดนะคะ เด็กที่มีอาการขาดสารอาหารแบบนี้ต้องได้รับอาหารที่สมดุลในทุก ๆ มื้อ หากเสริมวิตามินไปแต่ไม่ได้เปลี่ยนวิถีการกิน อาการอาจไม่ดีขึ้นเท่าที่ควรค่ะ"
"ขอบคุณมากค่ะ ฉันจะพยายามดูแลพวกเขาให้ดีที่สุด"
นอกจากอาหารเสริมของเด็ก ๆ ลี่จูยังได้ซื้อยาสามัญประจำบ้านและเครื่องมือทำแผลไปด้วย รวมไปถึงของเล่นที่เสริมพัฒนาการของเด็กจำพวกตัวต่อและบล็อกตัวเลข จากนั้นก็เดินไปโซนของใช้เด็กในร้าน เธอเลือกขวดนมสองขวด ผ้าอ้อมสำเร็จรูป นมผง นมกล่อง ผ้าขนหนู ผ้าอ้อมเด็ก ของใช้เสื้อผ้าเด็กเธอซื้อไปอย่างละ 2 ชิ้น
"เอาไปอย่างละนิดอย่างละหน่อย ยังต้องไปซื้อเสื้อผ้าอีก"
เธอพูดกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะเอาของทั้งหมดไปจ่ายค่าสินค้าที่เคาน์เตอร์
"ทั้งหมด 12,000 หยวนค่ะ สแกนตรงนี้ได้เลยนะคะ"
"เรียบร้อยค่ะ ขอบคุณมากนะคะสำหรับคำแนะนำ"
"ด้วยความยินดีค่ะ ขอบคุณที่มาอุดหนุนนะคะ"
ลี่จูหิ้วของพะรุงพะรังไปในที่ลับตาคน แล้วรีบเก็บเข้ามิติ ก่อนจะเดินไปซื้อเสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มในตลาดต่อ โชคดีที่ละแวกนี้มีทั้งร้านเสื้อผ้าสำเร็จรูป และร้านขายผ้าแบบเป็นเมตร ลี่จูไปถึงก็คว้านซื้อมาจนหมดเงินไปเกือบ 30,000 หยวน
