บท
ตั้งค่า

ตอนที่2. ลูกสาวของเพื่อนแม่

“บางช่วงน้ำท่วมถึงอกเลยนะ” เพื่อนซี้หัวเราะร่วนยื่นเสื้อชูชีพส่งให้ตุลา แม้น้ำช่วงที่พวกเขาไประดับแค่เอว แต่ตามระเบียบแล้วอย่างไรก็ต้องใส่เสื้อชูชีพ

“ปีนี้น้ำมากจริงๆ” ตุลารับเสื้อสีส้มมาสวม รถกระบะบรรทุกเรือมาจอดที่หน้าปากซอย พวกเขาปลดเรือลงไปในถนนที่ตอนนี้กลายสภาพเป็นคลองไปแล้ว เขาขึ้นเรือพร้อมเพื่อนและเจ้าหน้าที่มุ่งหน้าไปหอพักที่ต้องเข้าไปรับนักศึกษาซึ่งอยู่เกือบท้ายซอย

“ปริมาณน้ำมากที่สุดในรอบสี่สิบสี่ปี” อาร์มพูดแล้วทำสัญญาณมือบอกเพื่อนอีกลำว่าพร้อมเดินทาง หน่วยกู้ภัยได้รับการขอความช่วยเหลือให้เข้าไปรับคนที่ติดอยู่ในซอย พวกเขาทยอยอพยพชาวบ้านและนักศึกษาออกมาสองวันแล้ว สิ่งที่ยากที่สุดก็คือผู้สูงอายุที่ ‘ติดบ้าน’ แทบไม่ยอมออกจากบ้านหากไม่เพราะทางการประกาศเตือนว่าทางเขื่อนยังมีการระบายน้ำอย่างต่อเนื่อง กระทั่งมีข่าวลือว่าเขื่อนจะแตก นั้นแหละ... คนเฒ่าคนแก่จึงยอมออกมากันได้

“ได้ยินว่าน้ำท่วมครั้งนี้หนักกว่าปีพ.ศ.2521”

“ได้ยินมาเหมือนกัน แต่เกิดไม่ทันวะ” อาร์มหัวเราะ เขาเอาอาหารสุนัขใส่ถุงพลาสติกใบย่อมๆ มาหลายถุง เผื่อเจอหมาแมวที่ติดอยู่ตามบ้านจะได้ให้ไว้พอประทังชีวิต “คนพิเศษละสิถึงต้องมารับด้วยตัวเอง”

“หือ?” ตุลามัวแต่ถ่ายรูปสภาพน้ำท่วมหนัก เขาเห็นในภาพจากเพจข่าวท้องถิ่นแต่ไม่คิดว่าจะหนักหนาถึงเพียงนี้ “เมื่อกี้ว่าอะไรนะ”

“คนที่จะมารับไง คนพิเศษเหรอ”

“เปล่า” ตุลาส่ายหน้าไปมาแล้วหยิบมือถือขึ้นส่งข้อความอย่างเพิ่งนึกได้ “ลูกสาวของเพื่อนแม่”

“น่ารักไหม?” อาร์มถามยิ้มๆ

“ไม่รู้สิ ไม่ได้เจอตั้งหลายปี” ตุลาพยายามนึกถึงใบหน้ากลมๆ กับผมเปียสองข้าง เจอกันตอนนั้น...อายุเท่าไรกันนะ

“ถ้าน่ารักกูจีบนะ มึงไม่โสดก็อย่าขวางทางกูล่ะ”

“ใครว่ากูไม่โสด กูโสดแล้ว” ตุลาหัวเราะขณะพิมพ์ข้อความส่งไปทางไลน์ว่า ‘ใกล้จะถึงแล้ว’

“อ้าว! กูตกข่าวเหรอ นึกว่ามึงคบกับน้องมัดหมี่อะไรนั้น”

“คบเชี้ยอะไร กูเป็นได้แค่คนคุย”

ตุลาส่ายหน้าไปมาไม่อยากนึกถึงเรื่องแผลสดที่ยังเจ็บจิ๊ดๆ เขาจริงจังกับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น แต่อีกฝ่ายกลับมองเขาเป็นแค่ตัวเลือก และเมื่อมีตัวเลือกที่ดีกว่า เธอก็โบกมือลาเขาในทันที ชายหนุ่มแล้วเก็บโทรศัพท์มือถือใส่กระเป๋าเสื้อ สายตามองไปยังหอพักนักศึกษา บริเวณชั้นล่างแทบกลายเป็นทะเลสาบ มีนักศึกษาอยู่สามคนที่ชั้นสอง เรือของพวกเขาไปใกล้แล้ว ทุกคนก็โบกมือไปมาส่งสัญญาณให้กัน ตุลามองหญิงสาวคนเดียวในกลุ่ม เขาหรี่ตามองอย่างไม่มั่นใจ

“ข้าวจี่?” เขาตะโกนเรียก แล้วหญิงสาวผอมบางเจ้าของชื่อก็ชูมือขึ้นอย่างขลาดๆ

“คนนี้นะเหรอ ที่จะมารับ” อาร์มหันมาถาม ดวงตาวิบวับ “น่ารักวะ”

“เชี้ย! ช่วยคนก่อน” ตุลาหันมาดุเพื่อน แล้วค่อยหันไปดุคนที่จะมารับ น้ำท่วมระดับนี้แล้วทำไมเพิ่งอพยพนะ! นี่จะรอให้น้ำท่วมถึงชั้นสองเลยหรือไงถึงจะยอมออกมา

“น้องครับ ลงมารอที่บันได้นะ พวกพี่จะเข้าไปรับ มีของอะไรโดนน้ำไม่ได้ไหม” อาร์มตะโกนถามน้องๆ สามคนที่รอลงเรือ เขาชี้นิ้วไปยังทางบันไดทางขึ้นตึกซึ่งพอจะเอาเรือเข้าไปเทียบให้น้องๆ

ขึ้นเรือมาได้

“มีค่ะ” หญิงสาวรีบพูดแล้วยกตะกร้าสีเขียวสดขึ้น

“นั่นอะไร” ตุลาขมวดคิ้ว ลำพังขนคนก็เยอะแล้ว ยัยเด็กนี้ขนอะไรมาอีก

“แมวค่ะ”

“แมว!”

“พี่จะทำเสียงตกใจทำไมคะ แค่แมวเอง” หญิงสาวทำหน้ามุ่ย

“ครับๆ มันก็แค่แมว” อาร์มหันมาหัวเราะให้เพื่อนซี้ที่ทำหน้ายุ่ง สมองเริ่มคำนวณน้ำหนัก เรือท้องแบนที่พวกเขาใช้อยู่ น่าจะรับน้ำหนักได้หมดนะ นักศึกษาสามคน เจ้าหน้าที่สามคน แมวหนึ่งตัว

“ไม่ต้องห่วง ยังมีเรืออีกสองลำแยกไปรับคนอีกตึก พวกเรารับกลุ่มนี้แล้วออกได้เลย” อาร์มตบไหล่เพื่อนแล้วหันไปบอกเจ้าหน้าที่อีกคน “ผมจะลงไปจูงเรือไปที่บันไดนะ อยู่บนเรือระวังหัวด้วย”

อาร์มค่อยๆ ลงจากเรือลงไปยืนในน้ำแล้วจูงเชือกลากเรือเข้าไปใกล้ นักศึกษาชายสองคนดูอิดโรยไม่น้อย ส่วนนักศึกษาสาวสีหน้าเป็นกังวลอยู่บ้านแต่ก็เห็นว่ายิ้มออกมา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel