ตอนที่ 1 ท่านประธานคนใหม่
ตึก ตึก ตึก
เสียงสับรองเท้าส้นสูงกำลังเดินตรงมา ทำให้เลขาสาวหน้าห้องต้องรีบวางงานตรงหน้าแล้วลุกขึ้นยืนขึ้นมาต้อนรับ
เธอ ปุณณิศา นพรัตน์มณีทรัพย์ สาวสวยพราวเสน่ห์ประธานบริษัทคนใหม่ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งไปวันนี้
สวัสดีค่ะคุณปุณณิสา เลขาสาวหน้าห้องรีบกล่าวทักทายหญิงสาวอย่างทันที
"สวัสดีค่ะเรียกนิสาเฉยๆ ก็ได้ค่ะ"
"ค่ะคุณนิสา" เลขาสาวรับคำ
"เออแล้วจะให้นิสาเรียกพี่ว่าอะไรคะ?"
"อ๋อ ขอโทษค่ะดิฉันชื่อพรนับดาวเรียกนับดาวเฉยๆ ก็ได้ค่ะ"
"อ๋อค่ะ พี่นับดาวเป็นเลขาของนิสาถูกต้องไหมคะ"
"ใช่ค่ะ"
"แล้ววันนี้นิสามีอะไรที่ต้องทำบ้างคะ"
"วันนี้คุณนิสาต้องเข้าประชุมเพื่อเป็นการแนะนำตัวกับผู้ถือหุ้นประมาณ 11 โมงค่ะ"
หญิงสาวพลิกข้อมือเพื่อดูเวลาที่นาฬิกาเรือนหรู
"อีกตั้ง 2 ชั่วโมง"
ปุณณิศาพึงทำกับตนเอง
"คุณนิสาเข้าไปรอในห้องก่อนก็ได้ค่ะ อยากทานอะไรเพิ่มไหมคะเดี๋ยวนับดาวไปทำมาให้"
"งั้นนิสาเอาเป็นน้ำผลไม้กับคุกกี้ก็ได้ค่ะ"
"ได้ค่ะ เดี๋ยวนับดาวไปจัดการให้นะคะเชิญคุณนิสานั่งรอด้านในก่อนได้เลยค่ะ"
หลังจากสนทนากับเลขาสาวหน้าห้องแล้วนิสาหญิงสาวก็ได้เดินเข้าไปในห้อง ส่วนเลขาสาวก็รีบไปจัดการเตรียมของตามที่เจ้านายของตนต้องการ
"พี่นับดาวคะ มีงานอะไรที่พอจะให้นิสาได้เรียนรู้ก่อนบ้างไหมคะเอามาให้นิสาได้เลยนะคะระหว่างรอเข้าแนะนำตัวกับผู้ถือหุ้นนิสาอยากมีอะไรทำบ้างค่ะ"
"งั้นเดี๋ยวนับดาวจะไปเอางานปีก่อนๆมาให้คุณนิสาศึกษาดูนะคะ"
"ได้ค่ะ"
หลังจากเลขาสาวเดินออกจากห้องไป ปุณณิศาได้แต่คิดว่าทำไมบิดาของตนถึงไม่ให้ตนได้เข้ามาเรียนรู้งานก่อนแต่กลับให้ตนเข้ามาบริหารงานเลย อีกทั้งตนไม่ได้จบสาขาการบริหารงานมาเลยด้วยซ้ำ เธอออกแบบดีไซน์มา เธอชอบอยู่กับเสื้อผ้าสวยๆมากกว่ามาอยู่กับเอกสารแบบนี้ หญิงสาวเคยบอกกับบิดาของตนหลายครั้งแล้วว่าตนสามารถเข้ามาช่วยงานที่บริษัทได้ แต่ไม่ใช่การเป็นประธานบริหารแบบนี้ ถึงตนจะมีบิดาคอยซัพพอร์ต และให้คำปรึกษาอยู่เบื้องหลังแต่การต้องมาเผชิญหน้ากับผู้ถือหุ้นที่ล้วนดูแต่จากเขี้ยวลากดินนั้นนับว่าเป็นเรื่องยากมากทีเดียว
"มาแล้วค่ะคุณนิสา อันนี้เป็นสรุปผลกำไรเมื่อปีก่อนๆนะคะ"
หญิงสาวนั่งฟังเลขาอธิบายแฟ้มเอกสารที่กองพะเนินอยู่ตรงหน้า
"ทำไมมันเยอะจังคะพี่นับดาว"
"ไม่เยอะหรอกค่ะคุณนิสา อันนี้เป็นรายงานสำคัญๆทั้งนั้นนับดาวคัดมาให้คุณนิสาเรียบร้อยแล้วค่ะ"
"นิสาต้องอ่านหมดนี่เลยหรอคะ"
"ค่อยๆเรียนรู้ไปก็ได้ค่ะตรงไหนไม่เข้าใจให้ถามนับดาวได้เลยนะคะเดี๋ยวนับดาวจะมาอธิบายให้ฟัง"
"พี่นับดาวนี่เก่งสมกับเป็นเลขาคุณพ่อจริงๆนะคะ"
"คุณนิสาก็ชมเกินไปค่ะ"
"ไม่เกินไปหรอกค่ะไม่แปลกใจเลยที่คุณพ่อฝากนิสาให้พี่นับดาวดูแล ถ้าอย่างนั้นนิสาขออ่านข้อมูลพวกนี้คร่าวๆก่อนนะคะหากตรงไหนสงสัยนิสาจะถามพี่นับดาวอีกครั้งค่ะ"
"ได้ค่ะอย่างนั้นนับดาวขอตัวออกไปด้านนอกก่อนนะคะ"
เอกสารรายงานต่างๆที่กองตรงหน้าไม่ใช่เรื่องยากมากนักสำหรับปุณณิศา แต่มันก็ไม่ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจตรงกันข้ามกับสร้างความน่าเบื่อให้แก่หญิงสาวเป็นอย่างมาก
"ขอพ่อเปลี่ยนตำแหน่งได้ไหมเนี่ยทำไมต้องให้มันเป็นประธานบริหารนะ งานง่ายๆกว่านี้ไม่มีหรือไงกันนะ"
หญิงสาวบ่นอุบ
บ้านของเธอเปิดบริษัทนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศมีรถหรูหลายคันแถมเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศไทยอีกต่างหาก แต่เพราะที่บ้านเธอมีลูกสาวคนเดียวไม่มีลูกชาย เธอไม่มีพี่น้อง พ่อของเธอมักจะพาเธอมาคลุกคลีกับช่างประจำบริษัท เธอจึงซึมซับความรู้จากพี่ช่างมามากมาย และเป็นเหตุผลที่เธอพอจะมีความรู้เกี่ยวกับเครื่องยนต์อยู่บ้าง แต่เธอก็เลือกจะเรียนต่มแบบที่คนสวยๆเขาเรียนกันมากกว่าการเรียนบริหารอย่างที่พ่อของเธอคาดหวังไว้ แต่ก็นั่นแหละในเมื่อบริษัทเป็นของครอบครัวเธอไม่ว่าเธอจะเลือกเรียนอะไรสุดท้ายเธอก็ต้องมานั่งเป็นประธานบริหารอยู่ดี
ก๊อกๆๆ
"เชิญค่ะ ปุณณิศาขานรับเสียงเคาะประตู"
"อีก 10 นาทีจะได้ให้เวลาเข้าประชุมแล้วนะคะคุณนิสา"
"โอเคค่ะพี่นับดาว งั้นเราไปกันเลยนะ คนอื่นจะได้ไม่ต้องมานั่งรอเรา"
หญิงสาวรับคำของเลขาก่อนจะลุกขึ้น สร้างบิดขี้เกียจ ก่อนจะเดินนพาเลขาสาวของตนออกไปนอกห้อง ระหว่างทางมีสาวก็อดคิดไม่ได้ว่าวันนี้ตนจะต้องเจอกับเหตุการณ์แบบไหนเจอคนแบบไหนบ้างนะถึงแม้ตอนที่เธอยังไม่ได้เข้ามาเป็นประธานบริหารนั้นทุกคนจะดูใจดีมีเมตตากับเธอมากก็ตามแต่ตอนนี้ตำแหน่งเปลี่ยนหน้าที่เปลี่ยนคนอาจจะเปลี่ยนตามไปด้วยก็ได้
ระยะเวลาในการประชุมคณะบริหารและผู้ถือหุ้นใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้นนั่นเท่ากับว่าเธอออกจากห้องประชุมตอนเที่ยงพอดี ตลอดระยะเวลาการประชุมนั้นมันทำให้เธออึดอัดคนที่เคยใจดีมีเมตตากับเธอบางคนกลับไม่เป็นเช่นนั้นบางคนเคี่ยวเข็ญพูดกระแนะกระแหนเธอไม่ว่างเว้น บางคนก็มองว่าการเข้ามารับตำแหน่งของเธอในตอนนี้ยังไม่เหมาะสมมากนักซึ่งเธอก็ไม่ได้โต้เถียงกันใดแต่เพราะการเข้ารับตำแหน่งของเธอนั้นเป็นคำสั่งของบิดาของเธอทำให้ผู้ถือหุ้นไม่สามารถทำอะไรได้ การเข้าประชุมในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการแนะนำตัวแล้วยังเป็นการรับฟังความคิดเห็นของผู้ถือหุ้น ซึ่งเธอเป็นประธานแต่เธอกลับรู้สึกว่าตัวเธอเองนั้นตัวเล็กตัวน้อยมาก ทั้งในเรื่องของประสบการณ์ ความรู้และสิ่งต่างๆ แต่ไม่เป็นไรหรอกสบประมาทกันไปเถอะ อีกไม่นานเธอจะเป็นคนที่เก่งที่สุดเก่งให้เหมือนพ่อของเธอเลยด้วยซ้ำ
เธอเดินออกจากห้องประชุมด้วยท่าทางอิดโรยทำให้เลขาสาวอดเป็นห่วงไม่ได้
"เป็นยังไงบ้างคะคุณนิสา"
ทำไมพรนับดาวจะไม่รู้ว่าเจ้านายของตนโดนอะไรบ้างในห้องแต่ก็อดถามไม่ได้เมื่อเห็นอาการของหญิงสาวแล้ว
"หิวค่ะพี่นับดาว" เจอเครื่องเครียดขนาดนี้ กระเพาะของเธอก็ทำงานหนักทันที
"งั้นคุณนิสาจะทานอะไรคะเดี๋ยวนับดาวไปจัดการซื้อมาให้คุณนิสาเองค่ะ"
"ไม่เอาอ่ะค่ะ นิสาเบื่อที่จะอยู่ห้องแล้ว เราไปหาอะไรกินกันข้างนอกดีกว่าไหมคะ"
"มาวันแรกจะเกเรเลยไม่ได้นะคะคุณนิสา"
พรนับดาวสัพยอกคุณนิสาด้วยเอ็นดูเหมือนเธอเป็นน้องสาวคนนึง ด้วยอายุที่น่าจะไล่เลี่ยกับน้องชายเธอ และบุคคลิกและนิสัยเป็นกันเองของหญิงสาว
"นิสาไม่ได้จะเกเรนะคะเราไปกินข้างนอกกันเถอะไปแป๊บเดียวยังไงเราก็กลับมาทัน ไม่อย่างนั้นเราไปกินร้านข้างบริษัทก็ได้ค่ะ"
"งั้นก็ได้ค่ะ"
"ถ้าอย่างนั้นเรากลับเข้าไปเอากระเป๋าแล้วเราออกไปหาข้าวกินกันเลยนะคะ"
พรนับดาวพยักหน้าก่อนจะเดินตามเจ้านายสาวของตนออกไปหาอาหารกลางวันทาน
