ตั้งใจรัก

60.0K · จบแล้ว
พอลอที่แปลว่าไพลิน
40
บท
819
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เธอเป็นถึงเจ้าของบริษัทสวยสง่าดูดีแต่เขาเป็นเพียงช่างยนต์ที่ทำงานในบริษัทของเธอเท่านั้น การตกหลุมรักเธอจึงเป็นเรื่องที่เกินจากไขว่คว้า แต่แล้วโชคชะตามักจะเล่นตลกเสมอ

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันรักหวานๆโรแมนติกผู้ชายอบอุ่นฟินๆแฮปปี้เอนดิ้งความอยากเป็นเจ้าของรักแท้

ตอนที่ 1 ท่านประธานคนใหม่

ตึก ตึก ตึก

เสียงสับรองเท้าส้นสูงกำลังเดินตรงมา ทำให้เลขาสาวหน้าห้องต้องรีบวางงานตรงหน้าแล้วลุกขึ้นยืนขึ้นมาต้อนรับ

เธอ ปุณณิศา นพรัตน์มณีทรัพย์ สาวสวยพราวเสน่ห์ประธานบริษัทคนใหม่ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งไปวันนี้

สวัสดีค่ะคุณปุณณิสา เลขาสาวหน้าห้องรีบกล่าวทักทายหญิงสาวอย่างทันที

"สวัสดีค่ะเรียกนิสาเฉยๆ ก็ได้ค่ะ"

"ค่ะคุณนิสา" เลขาสาวรับคำ

"เออแล้วจะให้นิสาเรียกพี่ว่าอะไรคะ?"

"อ๋อ ขอโทษค่ะดิฉันชื่อพรนับดาวเรียกนับดาวเฉยๆ ก็ได้ค่ะ"

"อ๋อค่ะ พี่นับดาวเป็นเลขาของนิสาถูกต้องไหมคะ"

"ใช่ค่ะ"

"แล้ววันนี้นิสามีอะไรที่ต้องทำบ้างคะ"

"วันนี้คุณนิสาต้องเข้าประชุมเพื่อเป็นการแนะนำตัวกับผู้ถือหุ้นประมาณ 11 โมงค่ะ"

หญิงสาวพลิกข้อมือเพื่อดูเวลาที่นาฬิกาเรือนหรู

"อีกตั้ง 2 ชั่วโมง"

ปุณณิศาพึงทำกับตนเอง

"คุณนิสาเข้าไปรอในห้องก่อนก็ได้ค่ะ อยากทานอะไรเพิ่มไหมคะเดี๋ยวนับดาวไปทำมาให้"

"งั้นนิสาเอาเป็นน้ำผลไม้กับคุกกี้ก็ได้ค่ะ"

"ได้ค่ะ เดี๋ยวนับดาวไปจัดการให้นะคะเชิญคุณนิสานั่งรอด้านในก่อนได้เลยค่ะ"

หลังจากสนทนากับเลขาสาวหน้าห้องแล้วนิสาหญิงสาวก็ได้เดินเข้าไปในห้อง ส่วนเลขาสาวก็รีบไปจัดการเตรียมของตามที่เจ้านายของตนต้องการ

"พี่นับดาวคะ มีงานอะไรที่พอจะให้นิสาได้เรียนรู้ก่อนบ้างไหมคะเอามาให้นิสาได้เลยนะคะระหว่างรอเข้าแนะนำตัวกับผู้ถือหุ้นนิสาอยากมีอะไรทำบ้างค่ะ"

"งั้นเดี๋ยวนับดาวจะไปเอางานปีก่อนๆมาให้คุณนิสาศึกษาดูนะคะ"

"ได้ค่ะ"

หลังจากเลขาสาวเดินออกจากห้องไป ปุณณิศาได้แต่คิดว่าทำไมบิดาของตนถึงไม่ให้ตนได้เข้ามาเรียนรู้งานก่อนแต่กลับให้ตนเข้ามาบริหารงานเลย อีกทั้งตนไม่ได้จบสาขาการบริหารงานมาเลยด้วยซ้ำ เธอออกแบบดีไซน์มา เธอชอบอยู่กับเสื้อผ้าสวยๆมากกว่ามาอยู่กับเอกสารแบบนี้ หญิงสาวเคยบอกกับบิดาของตนหลายครั้งแล้วว่าตนสามารถเข้ามาช่วยงานที่บริษัทได้ แต่ไม่ใช่การเป็นประธานบริหารแบบนี้ ถึงตนจะมีบิดาคอยซัพพอร์ต และให้คำปรึกษาอยู่เบื้องหลังแต่การต้องมาเผชิญหน้ากับผู้ถือหุ้นที่ล้วนดูแต่จากเขี้ยวลากดินนั้นนับว่าเป็นเรื่องยากมากทีเดียว

"มาแล้วค่ะคุณนิสา อันนี้เป็นสรุปผลกำไรเมื่อปีก่อนๆนะคะ"

หญิงสาวนั่งฟังเลขาอธิบายแฟ้มเอกสารที่กองพะเนินอยู่ตรงหน้า

"ทำไมมันเยอะจังคะพี่นับดาว"

"ไม่เยอะหรอกค่ะคุณนิสา อันนี้เป็นรายงานสำคัญๆทั้งนั้นนับดาวคัดมาให้คุณนิสาเรียบร้อยแล้วค่ะ"

"นิสาต้องอ่านหมดนี่เลยหรอคะ"

"ค่อยๆเรียนรู้ไปก็ได้ค่ะตรงไหนไม่เข้าใจให้ถามนับดาวได้เลยนะคะเดี๋ยวนับดาวจะมาอธิบายให้ฟัง"

"พี่นับดาวนี่เก่งสมกับเป็นเลขาคุณพ่อจริงๆนะคะ"

"คุณนิสาก็ชมเกินไปค่ะ"

"ไม่เกินไปหรอกค่ะไม่แปลกใจเลยที่คุณพ่อฝากนิสาให้พี่นับดาวดูแล ถ้าอย่างนั้นนิสาขออ่านข้อมูลพวกนี้คร่าวๆก่อนนะคะหากตรงไหนสงสัยนิสาจะถามพี่นับดาวอีกครั้งค่ะ"

"ได้ค่ะอย่างนั้นนับดาวขอตัวออกไปด้านนอกก่อนนะคะ"

เอกสารรายงานต่างๆที่กองตรงหน้าไม่ใช่เรื่องยากมากนักสำหรับปุณณิศา แต่มันก็ไม่ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจตรงกันข้ามกับสร้างความน่าเบื่อให้แก่หญิงสาวเป็นอย่างมาก

"ขอพ่อเปลี่ยนตำแหน่งได้ไหมเนี่ยทำไมต้องให้มันเป็นประธานบริหารนะ งานง่ายๆกว่านี้ไม่มีหรือไงกันนะ"

หญิงสาวบ่นอุบ

บ้านของเธอเปิดบริษัทนำเข้ารถยนต์จากต่างประเทศมีรถหรูหลายคันแถมเป็นบริษัทชั้นนำของประเทศไทยอีกต่างหาก แต่เพราะที่บ้านเธอมีลูกสาวคนเดียวไม่มีลูกชาย เธอไม่มีพี่น้อง พ่อของเธอมักจะพาเธอมาคลุกคลีกับช่างประจำบริษัท เธอจึงซึมซับความรู้จากพี่ช่างมามากมาย และเป็นเหตุผลที่เธอพอจะมีความรู้เกี่ยวกับเครื่องยนต์อยู่บ้าง แต่เธอก็เลือกจะเรียนต่มแบบที่คนสวยๆเขาเรียนกันมากกว่าการเรียนบริหารอย่างที่พ่อของเธอคาดหวังไว้ แต่ก็นั่นแหละในเมื่อบริษัทเป็นของครอบครัวเธอไม่ว่าเธอจะเลือกเรียนอะไรสุดท้ายเธอก็ต้องมานั่งเป็นประธานบริหารอยู่ดี 

ก๊อกๆๆ

"เชิญค่ะ ปุณณิศาขานรับเสียงเคาะประตู"

"อีก 10 นาทีจะได้ให้เวลาเข้าประชุมแล้วนะคะคุณนิสา"

"โอเคค่ะพี่นับดาว งั้นเราไปกันเลยนะ คนอื่นจะได้ไม่ต้องมานั่งรอเรา"

หญิงสาวรับคำของเลขาก่อนจะลุกขึ้น สร้างบิดขี้เกียจ ก่อนจะเดินนพาเลขาสาวของตนออกไปนอกห้อง ระหว่างทางมีสาวก็อดคิดไม่ได้ว่าวันนี้ตนจะต้องเจอกับเหตุการณ์แบบไหนเจอคนแบบไหนบ้างนะถึงแม้ตอนที่เธอยังไม่ได้เข้ามาเป็นประธานบริหารนั้นทุกคนจะดูใจดีมีเมตตากับเธอมากก็ตามแต่ตอนนี้ตำแหน่งเปลี่ยนหน้าที่เปลี่ยนคนอาจจะเปลี่ยนตามไปด้วยก็ได้

ระยะเวลาในการประชุมคณะบริหารและผู้ถือหุ้นใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้นนั่นเท่ากับว่าเธอออกจากห้องประชุมตอนเที่ยงพอดี ตลอดระยะเวลาการประชุมนั้นมันทำให้เธออึดอัดคนที่เคยใจดีมีเมตตากับเธอบางคนกลับไม่เป็นเช่นนั้นบางคนเคี่ยวเข็ญพูดกระแนะกระแหนเธอไม่ว่างเว้น บางคนก็มองว่าการเข้ามารับตำแหน่งของเธอในตอนนี้ยังไม่เหมาะสมมากนักซึ่งเธอก็ไม่ได้โต้เถียงกันใดแต่เพราะการเข้ารับตำแหน่งของเธอนั้นเป็นคำสั่งของบิดาของเธอทำให้ผู้ถือหุ้นไม่สามารถทำอะไรได้ การเข้าประชุมในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการแนะนำตัวแล้วยังเป็นการรับฟังความคิดเห็นของผู้ถือหุ้น ซึ่งเธอเป็นประธานแต่เธอกลับรู้สึกว่าตัวเธอเองนั้นตัวเล็กตัวน้อยมาก ทั้งในเรื่องของประสบการณ์ ความรู้และสิ่งต่างๆ แต่ไม่เป็นไรหรอกสบประมาทกันไปเถอะ อีกไม่นานเธอจะเป็นคนที่เก่งที่สุดเก่งให้เหมือนพ่อของเธอเลยด้วยซ้ำ

เธอเดินออกจากห้องประชุมด้วยท่าทางอิดโรยทำให้เลขาสาวอดเป็นห่วงไม่ได้

"เป็นยังไงบ้างคะคุณนิสา"

ทำไมพรนับดาวจะไม่รู้ว่าเจ้านายของตนโดนอะไรบ้างในห้องแต่ก็อดถามไม่ได้เมื่อเห็นอาการของหญิงสาวแล้ว

"หิวค่ะพี่นับดาว" เจอเครื่องเครียดขนาดนี้ กระเพาะของเธอก็ทำงานหนักทันที

"งั้นคุณนิสาจะทานอะไรคะเดี๋ยวนับดาวไปจัดการซื้อมาให้คุณนิสาเองค่ะ"

"ไม่เอาอ่ะค่ะ นิสาเบื่อที่จะอยู่ห้องแล้ว เราไปหาอะไรกินกันข้างนอกดีกว่าไหมคะ"

"มาวันแรกจะเกเรเลยไม่ได้นะคะคุณนิสา"

พรนับดาวสัพยอกคุณนิสาด้วยเอ็นดูเหมือนเธอเป็นน้องสาวคนนึง ด้วยอายุที่น่าจะไล่เลี่ยกับน้องชายเธอ และบุคคลิกและนิสัยเป็นกันเองของหญิงสาว

"นิสาไม่ได้จะเกเรนะคะเราไปกินข้างนอกกันเถอะไปแป๊บเดียวยังไงเราก็กลับมาทัน ไม่อย่างนั้นเราไปกินร้านข้างบริษัทก็ได้ค่ะ"

"งั้นก็ได้ค่ะ"

"ถ้าอย่างนั้นเรากลับเข้าไปเอากระเป๋าแล้วเราออกไปหาข้าวกินกันเลยนะคะ"

พรนับดาวพยักหน้าก่อนจะเดินตามเจ้านายสาวของตนออกไปหาอาหารกลางวันทาน