๕ เปลี่ยนตัว (๔)
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นลูกสาวผู้เชื่อฟังจึงได้หนีไปไม่บอกกล่าวหรือมีสัญญาณมาก่อน
“ทันอะไรครับ อีกแค่สามสิบนาทีก็ต้องแห่ขันหมากแล้ว คุณจะไปตามหาลูกสาวได้ที่ไหน มันเกิดอะไรขึ้นเนี่ย” ร่างหนาถึงกับนั่งไม่ติดเก้าอี้ โวยวายเสียงดังแล้วกวาดตามองรอบห้อง ก่อนพบว่าน้องชายต่างสายเลือดก็หายไปเช่นเดียวกัน
“คุณอาทิตย์ผมเสียใจที่ลูกสาวทำเรื่องสิ้นคิดแบบนี้ แต่เชื่อเถอะว่าผมจะต้องตามตัววิกานดากลับมาได้แน่นอน” คุณโกศลหันไปหาเพื่อนสนิทแล้วรีบเอ่ยเสียงร้อนรน
ว่าที่เจ้าบ่าวอยู่ในชุดราชประแตนสำหรับงานเช้า ขันหมากพร้อมและทุกอย่างถูกเตรียมเอาไว้หมด เหลือเพียงเจ้าสาวที่หายไปไร้ร่องรอยไม่รู้ตอนนี้เธออยู่ที่ไหนหรือเป็นตายร้ายดีอย่างไร ทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบกระทั่งประตูถูกเปิดออก
“พบคุณวิแล้วค่ะ” เลขานุการของคุณโกศลเอ่ยขึ้น ทุกคนต่างยิ้มกว้างด้วยความยินดี
ตะวันฉายโล่งอกที่งานไม่ล่มแล้วค่อยผินไปวรรณวิสาที่ไม่กล้ากระทั่งจะสบตาเขาด้วยซ้ำ ตั้งแต่เรื่องเมื่อคืนหล่อนก็พยายามหลีกเลี่ยงคนร่วมชายคาตลอด ทว่าเขาไม่ใคร่จะสนใจเท่าไหร่ กำลังกังวลกับสถานการณ์ตรงหน้า
“รีบพาเข้ามาในห้องสิ”
“แต่...คุณวิยื่นข้อเสนอให้เปลี่ยนตัวเจ้าบ่าวค่ะ” คนพูดมีสีหน้าปั้นยากแล้วพยายามเป็นคนกลางให้ได้มากที่สุด อยากลดแรงกระแทกจากทั้งสองฝั่งเพราะฝ่ายวิกานดาก็ร้องไห้จะขอเปลี่ยนตัวเจ้าบ่าวท่าเดียว พร้อมทั้งอ้อนวอนให้ช่วยพูดกับบุพการี ตนจึงต้องเป็นคนเกริ่นนำเรื่องทั้งหมดเอง
“เปลี่ยนเจ้าบ่าวได้ยังไง เล่นตลกอะไรกันครับ ผมเป็นเจ้าบ่าวแล้วก็พร้อมเข้าพิธีอยู่แล้วยังต้องเปลี่ยนอะไรอีก ผมไม่ยอมนะครับ...ยังไงผมก็จะต้องได้แต่งงานกับวิ” เอ่ยค้านไม่เห็นด้วย
ขณะที่คุณทัศนียาแอบยกยิ้มมุมปากสมใจ ยิ่งเห็นลูกเลี้ยงดิ้นพล่านเท่าไหร่ก็สาแก่ใจมากเท่านั้น ลูกชายของนางช่างทำดีเสียจริง เล่นเอาตะวันฉายตกจากวิมานที่สร้างไว้บนอากาศ
“คุณวิบอกว่าถ้าไม่ยอมทำตามคำขอร้องของเธอ จะหนีไปแล้วไม่กลับมาอีกค่ะ”
“ไม่ได้นะ ไม่ได้เด็ดขาด ฉันมีลูกวิคนเดียวจะหนีไปได้ยังไง...ลูกวิต้องการแต่งงานกับใคร” คนเป็นแม่ถึงกับผวาบอกเมื่อได้ยินเช่นนั้น ยินยอมหมดทุกอย่างแล้วขอเพียงแค่ลูกสาวยอมกลับมาก็พอ
เลขานุการลอบกลืนน้ำลายลงคอ ค่อยมองไปยังเจ้าบ่าวที่ทำหน้าเคร่งขรึม ก่อนบอกชื่อของคนที่เจ้าสาวต้องการแต่งด้วย ใกล้ตัวเสียจนไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าหักหลังพี่ชายตัวเองด้วยการแย่งเจ้าสาว
“คุณสิรภัทร ไกรวรวงศ์ค่ะ”
เพียงแค่เอ่ยชื่อก็ทำให้ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ ก่อนตะวันฉายจะตะโกนเรียกชื่อน้องชายต่างสายเลือดเสียงดังอย่างเคียดแค้น
“ไอ้ภัทร!”
“พี่ภัทร...ไม่ ไม่จริง” ต่างจากวรรณวิสาที่พึมพำเรียกชื่อชายในดวงใจเสียงเบา ส่ายหน้าไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน
ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!
