บท
ตั้งค่า

บทที่ 13

เขาตวัดร่างเธอขึ้นไว้ในวงแขน และลิซ่าก็กกกอดอยู่กับร่างเขา ขณะที่แซมเดินตรงไปยังเตียงคอกที่ตั้งอยู่ด้านหนึ่งของเต็นท์ ขณะนี้ ความปรารถนาในตัวเขารุนแรงพอที่จะละลายกระดูกในตัวให้แหลกสลายลงได้ เธอคิดว่าตัวเองกำลังจะตายลงด้วยความปรารถนานั้น ร่างกายร้อนผ่าวไปสิ้น

และแล้วเขาก็หยุดเดินลง ทั้งที่ยังอุ้มร่างเธอไว้แนบอก ลิซ่ารอเวลาที่เขาจะวางร่างเธอลงในเตียงนั้น แต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย หลังจากที่เวลาผ่านไปเป็นครู่ เธอก็เผยอเปลือกตาขึ้น และพบว่าเขากำลังจ้องหน้าเธออยู่ แววในดวงตานั้นฉายแสงแปลกๆ เพียงแต่เธอไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะครุ่นคิดพิจารณาสิ่งที่กำลังอยู่ในความคิดของเขาเวลานี้เท่านั้น เธอเบียดอกเข้าไปหาเขาอย่างไร้ความอับอาย จูบลงตรงซอกคอของเขาอย่างจะเร่งเร้า

แต่กระนั้นเขาก็ยังมิได้เคลื่อนไหวอยู่ดี ความหงุดหงิดใจที่เกิดขึ้น ทำให้เธอเหลือบตาขึ้นมองหน้าเขาอย่างเป็นเชิงถาม เขาประสานสายตาอยู่กับเธอ และแล้วก็เปล่งเสียงหัวเราะออกมา

ลิซ่านอนตัวแข็งไปในทันที สายตายังจ้องจับอยู่กับใบหน้าของแซม อ้าปากค้าง และแล้วเขาก็ทิ้งร่างเธอลงบนเตียงในสภาพที่ตกใจ ทำให้เธอมองหน้าเขาอย่างตกตะลึงคาดไม่ถึงว่าเขาจะทำกับเธอเช่นนั้น เธอต้องกะพริบตาถี่ๆ ด้วยความแปลกใจที่เพิ่มมากขึ้น เมื่อเห็นเขาหันหลังหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาสวมใส่อย่างไม่เร่งร้อน

“แซม...”

เขาสอดขาเข้าไปในกางเกง ดึงขอบกางเกงนั้นขึ้นมาแล้วก็รูดซิป จากนั้นก็เอื้อมไปหยิบเข็มขัดขึ้นมาคาด จนเมื่อเรียบร้อยแล้วเขาจึงได้หันมามองหน้า ประสานอยู่กับสายตาที่เต็มไปด้วยแววแห่งคำถามนั้น ลิซ่าถึงกับผงะไปเมื่อเห็นแววแห่งความมุ่งร้ายฉายชัดอยู่ในดวงตาคู่สีฟ้าเข้ม

“คนสวย สำหรับผู้หญิงอย่างคุณน่ะนะ ไม่จำเป็นต้องใช้คำว่าข่มขืนยังได้เลย” เขาพูดอย่างโหดเหี้ยม คว้าเสื้อขึ้นมาสวม ก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากเต็นท์

ลิซ่ามีความรู้สึกเหมือนตัวเองถูกตบหน้าอย่างแรงที่สุดหลังจากที่เขาออกจากเต็นท์ไปครู่ใหญ่แล้ว เธอก็ยังนอนขดตัวอยู่ในเตียงคอกนั้น สมองที่ชาด้านไปชั่วระยะเวลาหนึ่งเพิ่งจะทำงานตามหน้าที่ของมัน ซึ่งเตือนให้เธอสำนึกขึ้นมาได้ว่า การกระทำทั้งหมดของแซมที่ผ่านไปนั้นเขาเพียงแต่ต้องการจะทดลองเธอเท่านั้น และเพื่อจะหยันเยาะ ดูหมิ่นเธอในเวลาต่อมา ซึ่งเขาก็ทำได้สำเร็จด้วย ลิซ่าอยากจะตายไปให้พ้นๆ เสียในนาทีนั้น เขาได้แสดงออกถึงความต้องการในตัวเธอ ซึ่งเธอรู้อยู่แก่ใจว่าเขามีความรู้สึกเช่นนั้นกับเธอจริงๆ เธอไม่ใช่คนปัญญาอ่อนเสียจนไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาแสดงออกมาทั้งหมดนั้นหมายถึงอะไร ในขณะที่เขาโลมเร้าเพื่อให้เธอเกิดความต้องการในตัวเขานั้น ซึ่งเธอก็เต็มใจแล้วที่จะเสียสละทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งศักดิ์ศรีของตนเอง ความเคารพในตนเอง เพื่อที่จะให้ร่างกายของตนได้รับความสำราญจากสิ่งที่มันโหยหามาโดยตลอด แต่เขาก็ทำลายลงในเวลาเพียงแค่ไม่ถึงนาที

เขาทำให้เธอต้องร่ำร้อง อ้อนวอนให้เขาร่วมรักด้วยจากนั้นเขาก็หัวเราะใส่หน้าและเดินจากไป...ลิซ่ายอแสยงในใจยิ่งนัก เธอกลิ้งร่างคว่ำหน้าลงกับที่นอน พยายามจะลบภาพแห่งความทรงจำทั้งหลายที่กำลังตามล่าตามผลาญเธออยู่ในขณะนี้ให้หมดสิ้นไป

เขาเป็นมนุษย์เลือดเย็นที่สุด ทั้งหมดนี้มันคือแผนการที่เขาสร้างขึ้นอย่างเลือดเย็นจริงๆ ลิซ่าสาบานกับตัวเองว่าเธอจะต้องเป็นศัตรูกับเขาไปจนชั่วชีวิต ถ้าเพียงแต่เธอจะสลัดภาพยามที่ตัวเองนอนเปลือยกายอยู่ในวงแขนของเขาออกไปให้พ้นจากสมองได้ และยามที่เธอได้จูบเขาตรงซอกคออย่างบ้าคลั่ง ด้วยถูกโหมอยู่ด้วยไฟพิศวาสจนไม่สามารถจะควบคุมตัวเองได้

แต่ขณะนี้เธอก็ยังอยู่ในเต็นท์ของเขา นอนอยู่ในเตียงที่เขาเคยนอน และแน่นอนที่สุด อีกไม่นานเขาจะต้องกลับเข้ามาในเต็นท์นี้ จากการกระทำของเขาที่เพิ่งผ่านพ้นไปได้ไม่นานทำให้ลิซ่าอยากจะกลับออกไปที่เต็นท์ของตัวเองอย่างที่สุด เธอผลุดลุกขึ้นนั่ง ตั้งใจอย่างเต็มที่ว่าเธอจะต้องกลับไปที่เต็นท์ของตัวเองก่อนที่เขาจะกลับมา...เพราะถ้าเขากลับมาอีกครั้งและเห็นเธอยังนอนเปลือยกายอยู่ในเตียงเช่นนี้ แซมจะต้องคิดว่าเธอนอนรอเขาอย่างไร้ความอาย

เมื่อความคิดเช่นนั้นแล่นเข้าสู่สมอง ลิซ่าก็เหวี่ยงขาลงจากเตียงทันที บอกกับตัวเองว่าเธอจะต้องออกไปจากที่นี่เธอกวาดสายตามองหาอะไรสักอย่างที่จะใช้ปิดบังเรือนกาย แต่ก็ดูเหมือนมันจะไม่มีอะไรเลยนอกจากผ้าห่มผืนเดิม เธอมองเห็นภาพตัวเองที่เดินผ่านออกไปในท่ามกลางสายตาของผู้ชายที่หิวกระหายเหล่านั้น ด้วยร่างกายที่พันไว้ด้วยผ้าห่มผืนเดียวแต่ว่ามันไม่มีทางเลือกจริงๆ และเธอก็จะชักช้ารอเวลาที่แซมจะกลับมาไม่ได้ด้วย

เธอคว้าผ้าห่มขึ้นมาจากพื้นห้อง เอาขึ้นกระโจมอกไว้แบบที่เคยทำ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น...สิ่งที่เธอทนไม่ได้ก็คือสายตาหยันเยาะคู่นั้น ลิซ่าเดินตรงไปยังประตูเต็นท์ทันที

แต่ขณะเดียวกัน เธอก็ต้องชะงักอยู่ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าที่ดังใกล้เข้ามา ลิซ่ายืนตัวแข็ง หน้าแดงจัดอยู่กับที่ ใครคนนั้นจะเป็นคนอื่นไปไม่ได้นอกจากแซม และเมื่อประตูเต็นท์ถูกตวัดให้เปิดขึ้น ความหวาดหวั่นก็ได้รับการยืนยัน เพราะผู้ที่ก้มตัวเข้ามาคือแซมนั่นเอง

เขายืดร่างขึ้น กวาดสายตาไปทั่วตัวเธอแวบหนึ่งก่อนที่จะเดินไปเปิดตะเกียงโคมที่ใช้แบตเตอรี่ ลิซ่าอยากจะตายลงไปเสียนัก เมื่อคิดว่าจะต้องได้เห็นรอยยิ้มหยันเยาะนั้นอีก

“เอ้า...” เขาโยนเสื้อผ้ามาให้ พร้อมกับยิ้มอย่างเข้าใจในความคิดของเธออยู่

มันเป็นรอยยิ้มที่ลิซ่าต้องบังคับใจตัวเองไว้อย่างมากที่จะไม่ทำอะไรตามอารมณ์ลงไป ทั้งสีหน้าแววตาและรอยยิ้มนั้น มันบอกให้รู้ว่าเขาตีราคาเธอต่ำเพียงไร

“ขอบใจ” ลิซ่าตอบด้วยน้ำเสียงสงบทั้งที่ใจร้อนราวเพลิงผลาญ ดวงตาของแซมที่กำลังจับจ้องอยู่กับใบหน้าเธอในยามนี้เครียดเขม็งลง เธอรู้ว่าเขากำลังแปลกใจที่เธอต้อนรับเขาอย่างใจเย็นเช่นนี้

“แต่งตัวเสียสิ” เขาสั่งสั้นๆ

“แน่นอน” ลิซ่ามองเขาอย่างเหยียดหยามไม่แพ้กัน “แต่ถ้าคุณจะไปจากเต็นท์นี้เสียก่อนได้ก็จะทำให้ฉันสะดวกใจขึ้นนะ”

“นี่...คุณจะกลับมาแสดงบทบาทสุภาพสตรีอีกแล้วหรือไง ผมคิดว่า เราได้พูดจากันจนเป็นที่เข้าใจแล้วนะ ว่าขณะนี้มันสายเกินกว่าที่คุณจะมาแสดงท่าทางอย่างนั้นแล้ว”

ลิซ่าบังคับใจตัวเองไว้อย่างมาดมั่นที่จะไม่ปราดเข้าตบหน้าเขาให้เต็มเหนี่ยว ขณะเดียวกันก็เตือนตัวเองว่า เวลานี้เขากำลังสนุกมากกับการที่จะเห็นเธอโกรธ เมื่อเขาแสดงอาการหยันเยาะออกมา

“นั่นสิ ฉันว่าที่คุณพูดมามันก็ถูกแล้วละ” เธอตอบด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นเช่นเดิม หวังแต่เพียงว่า เขาจะมองไม่เห็นแววอาฆาตที่ปรากฏอยู่ในดวงตายามนี้เท่านั้น

แซมมิได้พูดอะไรออกมา เพียงแต่มีแววบางอย่างปรากฏขึ้นในดวงตาแวบหนึ่งเท่านั้น และมันก็กลับเลือนหายไป ลิซ่าไม่ยอมใช้ความคิดว่า สิ่งที่กำลังเกิดอยู่ในความรู้สึกขณะนี้คืออะไร เธอเพียงแต่โน้มร่างลงหยิบเสื้อผ้าที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นรอบตัวขึ้นมา และเห็นว่ามันเป็นชุดเดียวกับที่เธอแต่งอยู่ก่อนหน้านี้นั่นเอง ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่า แซมได้เดินย้อนกลับไปที่ลำธารอีกครั้ง และรวบรวมเสื้อผ้าทุกชิ้นของเธอกลับมาให้

เธอลงมือแต่งตัวช้าๆ ด้วยเจตนาที่ยั่วยุอารมณ์ของเขาให้กำเริบขึ้น และอดที่จะยิ้มออกมาอย่างพอใจมิได้ ในทุกครั้งที่เธอสามารถจะอ่านความรู้สึกทั้งสีหน้าและแววตาของเขายามที่จ้องมองดูเธอแต่งตัวอยู่ไม่วางตา

จนเมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอจึงได้เอ่ยถามเขาขึ้นว่า

“เอาละ ตอนนี้คุณจะอนุญาตให้ฉันกลับไปที่เต็นท์เสียทีได้หรือยังล่ะ” เธอพยายามแต่งน้ำเสียงให้สุภาพเข้าไว้

“ไม่” เขาตอบออกมา ขณะที่เธอทำท่าจะก้าวไปยังประตูเต็นท์ และคำตอบคำเดียวสั้นๆ นั้น ที่เหมือนน้ำมันซึ่งราดลงบนกองเพลิง โทสะของลิซ่าระเบิดออกมาทันที

“คุณหมายความว่ายังไง ที่ตอบว่าไม่นะ” เธอพยายามเลือกใช้คำพูดอย่างระมัดระวังอยู่

“ก็อย่างที่ผมบอกคุณแล้วไงล่ะ” เขาเอี้ยวหน้ามามอง “มันก็หมายความว่าคุณจะไม่กลับไปที่เต็นท์นั้นอีกน่ะสิ”

“ทำไมล่ะ”

“ก็เพราะว่าผมสั่งอย่างนั้น” คราวนี้เขาหันมาเผชิญหน้าเธอเต็มที่

“คุณจะรังเกียจไหม ถ้าจะช่วยอธิบายให้ฉันเข้าใจมากกว่านี้อีกสักหน่อย”

“อ๋อ...ไม่รังเกียจหรอก” น้ำเสียงของเขาเหมือนจะแฝงความขบขันอยู่ ซึ่งทำให้ลิซ่าต้องเม้มริมฝีปากแน่น

“การที่คุณจะให้มันเกิดเหตุการณ์อย่างที่มันเกิดขึ้นข้างลำธารนั่นอีกไงล่ะ ความต้องการของผู้ชายที่จะได้สมสู่กับผู้หญิงอย่างคุณน่ะ มันสามารถจะก่อให้เกิดกลียุคขึ้นในแค้มป์นี่ได้ ผมจำเป็นต้องลงโทษทางวินัยกับคนของผมถึงสองคน เพราะการกระทำของคุณมาแล้ว และเวลานี้ทั้งสองคนนั้นเขาก็คงจะไม่มีเจตนาดีต่อคุณเท่าไหร่นักหรอก หรือเขาอาจจะอาฆาตเลยมาถึงผมด้วยก็ได้ เพราะฉะนั้นผมจึงจำเป็นต้องตัดไฟแต่ต้นลม”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel