บทที่ 6 ยื่นเรื่องลาออก
กระท้อนออกไปทำงานหลังจากรับประทานมื้อเช้าที่ชายหนุ่มตั้งใจทำให้ หน้าคอนโดของเขาติดกับสถานีรถไฟฟ้าทำให้เดินทางไปทำงานสะดวกมากขึ้น เธอไม่ต้องนั่งวินหรือรถเมล์โดยสารที่แออัดไม่มีที่นั่งว่างเผื่อเธอสักครั้ง เมื่อมาถึงเธอก็เจอกับพี่ปุ๊กพี่ที่ทำงานมาด้วยกันตั้งแต่แรกเริ่ม
"อ้าวยัยกระท้อนวันนี้ทำไมมาเร็ว" ปุ๊กอดแปลกใจไม่ได้ที่เห็นรุ่นน้องสาวมาทำงานเช้ากว่าทุกวันแถมวันนี้ยังดูไม่วุ่นวายเหมือนทุกวันที่ผ่านมา
"วันนี้รถไม่ติดค่ะเพราะมาบนฟ้า" เธอตอบกลับรุ่นพี่สาวกวนๆ
"ห่ะ"
"คิกๆ กระท้อนนั่งรถไฟฟ้ามาค่า"
"มาแปลกนะวันนี้ปกติผมยุ่งมาเลย"
“นั่งวินก็จะเป็นแบบนั้นค่ะ” คำว่าวินคือซิ่งสุดใจ ผมที่เธอตั้งใจจัดมาอย่างดีก็พังไม่เป็นท่าเสมอ
“ที่พักกระท้อนไม่ได้ติดกับรถไฟฟ้านี่แล้วทำไมขึ้นรถไฟฟ้าได้ล่ะ”
“พอดีเมื่อคืนเกิดเรื่องกระท้อนเลยย้ายที่พักชั่วคราวก่อนค่ะ”
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น”
“คนเมาจะข่มขืนกระท้อนค่ะแต่เพื่อนของกระท้อนช่วยเอาไว้ได้ทันเวลาพอดี”
“ตายจริง คุณพระคุณเจ้ากระท้อนแจ้งตำรวจหรือยัง”
“คนร้ายมันหนีไปแล้วค่ะ ตอนนั้นมันมืดด้วยจำหน้าคนร้ายไม่ได้”
“บ้าจริงๆเกิดเรื่องแบบนี้กับกระท้อนได้ยังไงนะ บุญแค่ไหนแล้วที่รอดมาได้ โชคดีจริงๆที่เพื่อนช่วยเอาไว้ได้ทันถ้าไม่อย่างนั้นพี่ไม่อยากจะคิดเลย” ปุ๊กรู้สึกโล่งอกเป็นอย่างมาก กระท้อนเป็นคนดีไม่น่าต้องมาเจอเหตุการณ์ร้ายๆแบบนี้
“นั่นสิคะ ว่าแต่พี่ปุ๊กคะ"
"ว่าไง"
"กระท้อนจะมาขอลาออกค่ะ"
"ลาออก! อะไรกันลาออกแล้วแกจะเอาอะไรกิน หรือว่ามีที่ทำงานใหม่แล้ว" ปุ๊กถามกลับด้วยความไม่เข้าใจ สมัยนี้งานมันหายากจะตายไป
"ไม่ใช่หรอกค่ะ"
"พี่ขอให้หัวหน้าเพิ่มเงินเดือนให้ดีไหม กระท้อนไม่พอใช้ใช่หรือเปล่าพี่ได้ข่าวว่าส่งให้ทางบ้านด้วย"
"ไม่เป็นไรเลยค่ะ กระท้อนจำเป็นต้องลาออกจริงๆแต่ยังบอกเหตุผลกับใครไม่ได้เท่านั้นเองค่ะ"
"เฮ้อ เรานี่น้าทำให้พี่ใจหาย พี่จะไปหาใครมาแทนกระท้อนได้ล่ะเนี่ย"
"เอาไว้วันไหนว่างๆก็นัดกันออกมาทานข้าวได้ค่ะ กระท้อนยังอยู่ในกรุงเทพนี่แหละค่ะยังไม่ได้กลับต่างจังหวัด"
"อืมๆเอาอย่างนั้นก็ได้ แต่พี่ก็ขอให้กระท้อนโชคดีนะ ยังไงก็ช่วยทำต่อถึงสิ้นเดือนได้ไหมอีกอาทิตย์เดียวเอง ขอเวลาให้พี่หาคนใหม่มาช่วยงานก่อนไม่งั้นพี่ทำงานคนเดียวหัวหมุนแน่ กระท้อนก็รู้ขนาดมีกระท้อนพี่ยังจะแย่ให้พี่ทำคนเดียวพี่ตายดีกว่า" นางอดจะบ่นไม่ได้ที่นางต้องทำงานถวายชีวิตเพื่อเงินเดือนอันน้อยนิด แม้หล่อนจะไม่มีภาระแต่ก็ไม่ได้ใช้ชีวิตสะดวกสบายเท่าที่ควร
"ได้เลยค่ะ"
"ขอบใจนะ" เธอทำงานเป็นคนออกแบบการ์ตูนให้หนังสือการ์ตูนฉบับหนึ่ง ความจริงเงินเดือนเธอจะเยอะกว่านี้ถ้าย้ายไปทำงานกับบริษัทใหญ่ๆ แต่เธอก็มักจะนึกถึงวันแรกที่เข้ามาทำงานเสมอเลยตัดสินใจเปลี่ยนที่ทำงานไม่ได้สักที
"วันนี้เป็นไงบ้างล่ะกระท้อน ไปลาออกแล้วหรือยัง" ชายหนุ่มถามออกไปน้ำเสียงราบเรียบ
"อืม กระท้อนไปลาออกมาแล้วแต่พี่เขาให้ช่วยงานต่อถึงสิ้นเดือนภามโอเคไหม"
"โอเคๆ กระท้อนออกปุ๊บบั๊บเขาคงยังคงหาคนมาแทนไม่ได้ใช่ไหมล่ะ ภามเข้าใจพวกเขานะเพราะถ้าบริษัทของภามจู่ๆพนักงานมาขอลาออกก็ต้องเตรียมหาคนใหม่มาทำงานแทนจะได้ไม่ขาดตอน"
"ใช่เลย วันนี้เราแวะซื้อของสดมาด้วยนะจะทำอะไรให้ทาน"
"จริงหรอ ทำเลยได้ไหมหิวแล้ว" ชายหนุ่มทำงานจนลืมเวลาเขาจึงไม่ได้ทานมื้อกลางวัน
"ได้เลย วันนี้ขอเป็นแกงส้มชะอมแล้วกันสูตรยายกระจ่างรับรองอร่อยที่สุด"
"แค่ชื่อเมนูก็กินขาดแล้ว ฮ่าๆ ให้ภามช่วยอะไรไหม"
"ไปนั่งหล่อๆตรงนู้นก็พอ" เธอพยักพเยิดให้เขาไปนั่ง ภรัณยูยิ้มออกมาเต็มใบหน้าอยากช่วยคนตัวเล็กแต่เธอก็ไม่ยอม รอไม่นานอาหารทุกอย่างที่เธอทำก็พร้อมทาน
"หอมจัง"
"ไม่ใช่แค่หอมนะแต่อร่อยมากจะบอกให้"
"ตักข้าวมาเร็วจะชิมหน่อยว่าขี้โม้หรือเปล่า"
"ฮ่าๆ ท้าให้พิสูจน์เลย" หญิงสาวลุกขึ้นจัดแจงตักข้าวสวยร้อนให้ชายหนุ่ม เขาตักน้ำซุบคำแรกเข้าปากแล้วก็อุทานกับตัวเองในใจว่ามันอร่อยมาก
"ใส่ผงชูรสแน่ๆ"
"ไม่จำเป็นต้องใส่ค่าเพราะวัตถุดิบต่างๆมันเริศอยู่แล้ว"
"โอเคๆยอมรับก็ได้ กระท้อนก็ทานบ้างเถอะ"
“โอเค” ชายหนุ่มขอเติมข้าวจานที่สองเพราะมันติดใจในรสชาติสุดๆ
“อิ่มมาก”
“วันหลังอยากทานอะไรบอกนะ”
“โอเค ใครโทรมานะ” เขายกโทรศัพท์ชึ้นมาดูก็พบว่าเป็นสายของมารดา
“ขอตัวไปธุระข้างนอกนะคุณหญิงแม่โทรตาม”
“อาการแบบนี้ไม่ค่อยกลับบ้านน่ะสิ”
“อย่ารู้ทันกันสิ ไปก่อนนะ”
“อืม ขับรถดีๆ” หลังจากทานอาหารจนอิ่มชายหนุ่มก็ขอตัวออกไปทำธุระข้างนอก ส่วนหญิงสาวก็คว้ากระดาษออกมานั่งขีดเขียนการ์ตูน หญิงสาวหันมองไปทางสระว่ายน้ำก็รู้สึกอยากว่ายน้ำมากแต่ชายหนุ่มเองก็ยังไม่ค่อยมีเวลาอันดับแรกที่เธอทำได้คือเตรียมมองหาชุดว่ายน้ำดีๆสักชุดแล้วล่ะ
