บท
ตั้งค่า

ตอนที่5.คู่รักของเธอไม่เคยมีตัวตน

“อย่าบอกนะว่า มันทิ้งเธอไปแล้ว”

หญิงสาวนิ่ง...ช่างเถอะ...ถ้าการนิ่งของเธอจะยิ่งทำให้เขาเชื่อเช่นนั้น

“จริงสินะ ก็เธอมันไม่เหลืออะไรแล้ว ใครจะยอมมากัดก้อนเกลือกิน ได้ข่าวว่า เป็นหนี้จนบ้านจะโดนยึดอยู่แล้วนี่ ที่ซุกหัวนอนก็จะไม่มี”

“พอได้แล้ว”เธอตวาดเขากลับ หันมองเขาด้วยแววตาขอร้อง “ปล่อยฉันไปเถอะ อย่ามายุ่งกับฉัน ชานน”

“เสียใจ”

ชายหนุ่มบีบแขนเธอให้แน่นเข้า

“ฉันกลับมาแล้ว และสาบานได้ เธอไม่มีทางมีความสุข ปัถว์”.

หญิงสาวก้าวเข้ามาในบ้านช้าๆ อย่างคนไร้เรี่ยวแรง แค่เห็นโซฟาที่วางอยู่ในห้องนั่งเล่น เธอก็ทิ้งตัวลงนอนเหยียดยาว เหนื่อยล้าทั้งกาย แต่ใจสิมากกว่าหลายเท่า ไม่ใช่แค่รถที่ติดวินาศสันตะโรในเย็นวันศุกร์ เพราะจะว่าไป เดี๋ยวนี้ทุกเย็นรถก็ติดบรม ไม่ต้องสนว่าเป็นช่วงไหน

ปัถว์เคยชินเสียแล้ว กับการต้องโหนรถเมล์ที่ผู้คนเบียดเสียดยัดเยียดแน่นยิ่งกว่าปลากระป๋อง วันไหนโชคดีได้นั่งรถปรับอากาศก็สบายขึ้นมานิดหนึ่งนิดเดียว ตรงที่ไม่ต้องได้กลิ่นเหงื่อของบรรดามนุษย์งานที่ฝ่าเปลวแดดมาขึ้นรถเมล์กลับบ้าน ปัถว์หลับตาลงช้าๆ วันนี้ ไม่เพียงเหนื่อยเพราะงาน เพราะการเดินทาง แต่..

ชานน... ผู้ชายคนนั้นต่างหากที่ทำให้หัวใจเธอไม่เหลือเรี่ยวแรงใดอีก เขากลับมาแล้ว มาเพื่อข่มขู่ให้เธอรู้ว่า ชีวิตของเธอจะไม่มีวันหนีเขาพ้น

นี่...มันอะไรกัน

เมื่อไหร่เรื่องบ้าๆพวกนี้จะจบสิ้นไปเสียที หรือว่ามันจะจบไปก็ต่อเมื่อชีวิตเธอหาไม่แล้วกันหนอ เสียงฝีเท้าของใครสักคนเดินลงบันไดบ้านมา ปัถว์ไม่ทันหันไปมอง เพราะเจ้าของฝีเท้าส่งเสียงทักเธอขึ้นก่อน

“อ้า กลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่ให้สุ้มให้เสียง”

มารดาของเธอ อดีตคุณนายปภาวีที่เคยร่ำรวยที่สุดในซอยนี้ เจ้าของบ้านหลังโตตรงหัวมุมเกือบท้ายซอยที่ใครๆก็รู้จัก ทุกอย่างเป็นอดีตไปแล้ว ตอนนี้ บ้านหลังโตหลังนี้ เหลือเพียงตัวบ้าน ข้าวของมีค่าหลายอย่างโดยเฉพาะเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ถูกยกขายตั้งแต่ประมุขของบ้านตายจาก อีกไม่นาน บ้านหลังนี้ก็อาจต้องขายทอดตลาด เช่นกัน

ปภาวีเยื้องย่างลงบันไดมา ทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามลูกสาว

“แม่จะออกไปข้างนอกหรือคะ”

ปัถว์หันมามอง มารดาของเธอเป็นคนสวย สวยกว่าเธอด้วยซ้ำ

ตัวเลขที่กำลังเฉียดกรายเลขห้าไม่ได้ทำให้ปภาวีอนาทรร้อนใจ เพราะเธอดูอ่อนวัยกว่านั้นโข แน่ล่ะ ต่อให้สถานการณ์ของครอบครัวจะเป็นอย่างไร ปภาวีก็ยังเป็นคนเดิม แต่งตัวสวย แต่งหน้าจัด ทรงผมทันสมัย เสื้อผ้าฉูดฉาดทั้งสีสรรรูปแบบแต่ก็เข้ากับเธอที่มีดีกรีเป็นถึงอดีตนางงาม ผู้หญิงที่เกือบจะทำให้เพื่อนรักสองคนห้ำหั่น ถึงอย่างนั้น ปภาวีก็ยังไม่เห็นแคร์ที่จะต้องทำตัวทรุดโทรมไปกับชะตากรรมของชีวิต เธอยังคงความสาวได้ราวกับแม่มด ลูกสาวเสียอีก ที่นับวันมีแต่ดูทรุดโทรมลง

โชคดีที่ปัถว์เองก็เป็นคนสวย หน้าตาที่มีเครื่องสำอางแต่งแต้มเพียงอ่อนบางกลับดูเป็นธรรมชาติ รวมทั้งเสื้อผ้าในแบบเก๋ๆกับทรงผมยาวๆที่เกล้ามวยสูงๆรัดด้วยที่มัดผมถักโครเชต์ที่เธอทำเองเวลาว่างๆ ซึ่งน้อยครั้งที่ปัถว์จะมีเวลา ปภาวีเองก็ไม่มีเวลาเหมือนกัน เพราะเวลาส่วนใหญ่ นอกจากจะหมดไปกับการบำรุงตัวเอง ยังเสียไปกับเรื่องที่เธอชอบ

“เข้าบ่อนอีกแล้วสินะคะ” ปัถว์เปรยแกมบ่น ไม่เต็มเสียงนัก

“เอ๊ะ ลูกคนนี้นี่ คิดจะแช่งแม่หรือไง เรื่องพรรค์นี้เขาไม่ให้ทักกันก่อนก้าวเท้าออกจากบ้าน พักนี้ยิ่งดวงไม่ขึ้นอยู่ด้วย”

ปภาวีตำหนิไม่จริงจังนัก ปัถว์แค่นหัวเราะ เธอเพิ่งรู้ว่า มีข้อห้ามพรรค์นี้อยู่ด้วย ทั้งที่การพนันไม่ใช่สิ่งที่ดีแม้แต่นิดเดียว ปภาวียังอุตส่าห์ถือโชคลาง ทั้งที่เธอเล่นได้น้อยกว่าเสียคราวละมากๆ คราวไหนเสียหมดหน้าตัก หล่อนก็จะเก็บตัวอยู่บ้าน ไม่ออกไปไหนระยะหนึ่ง ก่อนที่จะไถเงินลูกสาวออกไปเสี่ยงโชคได้ในคราวต่อๆ ไป

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel