ตอนที่2.
“ขอบคุณค่ะ” หล่อนยิ้มรับ
“อืม ว่าแต่ผมอยากจะเดินดูรถรุ่นต่างๆเสียหน่อย”
“อ๋อ ได้สิ”
ภูวิศพยักหน้ารับ ทั้งที่จริงก็นึกแปลกใจ เพราะปกติผู้จัดการบริษัทที่เป็นลูกน้องของชานนจะมาจัดการเรื่องพวกนี้ แต่คราวนี้ชานนกลับมาพบเขาด้วยตัวเอง แล้วยังต้องการเดินดูรถในโชว์รูมของเขา รถที่ชานนสั่งไปใช้งาน ส่วนใหญ่เป็นรถยนต์ญี่ปุ่นทั่วไป ราคาและแบบตามมาตรฐาน ไม่ใช่รถที่ชานนจะนำไปใช้ส่วนตัวถึงจะต้องมาเลือกดูด้วยตัวเอง
“ว่าแต่ ผมได้ข่าวว่า อาภูเพิ่งรับพนักงานใหม่” ภูวิศขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ จนชานนขยายความ “ได้ข่าวว่า เป็นลูกสาวเพื่อนเก่าของคุณพ่อ”
ภูวิศถึงได้เข้าใจ ที่แท้ ชานนก็อยากมาพบหน้าคู่ปรับเก่า เขาแอบถอนหายใจด้วยความหนักหน่วง เพราะรู้ดีว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างนายสันติภพพ่อของชานนกับนายเกริกเกียรติพ่อของปัถว์ยิ่งกว่าเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด เกริกเกียรติต้องคดีฉ้อโกงติดคุก ชีวิตดิ่งลงอย่างรวดเร็ว
โชคดีที่ลูกชายของเขาเป็นคนเก่ง ชานนไปทำงานเมืองนอก นอกจากเรียนจบกลับมา เขายังทำงานส่งเงินกลับมาให้พ่อทำธุรกิจเมื่อพ้นคดี
บัดนี้ สองพ่อลูกกลับมาผงาดในแวดวงธุรกิจ กลายเป็นนักธุรกิจพันล้านในเวลาอันรวดเร็ว อย่างไม่น่าเชื่อ
แต่ทางฝ่ายหญิงสาวโชคร้ายกระหน่ำซ้ำเติม นอกจากตอนนี้พ่อตัวเองจะล้มป่วยตายไปหลายปียังทิ้งหนี้สินไว้จำนวนหนึ่ง แล้วยังมารดาของปัถว์ที่ได้ข่าวว่า ทั้งติดเหล้าติดการพนันงอมแงม เพราะรับไม่ได้กับ
ชีวิตที่พลิกผันของตัวเอง ภูวิศมองหน้าชานน
“ปัถว์น่ะหรือ” เขาเอ่ยถาม
“ครับ” ชานนพยักหน้ารับ “คุณอารับเขาเข้าทำงาน”
ประโยคนั้น ดูเหมือนถ้าภูวิศไม่รู้จักชายหนุ่มมานานจนพอรู้นิสัยกันแล้วล่ะก็ เขาคงนึกว่า ชานนช่างเป็นคนที่หยุมหยิม เอ่ยถามราวกับกำลังต่อว่าเขากลายๆ แต่เพราะชานนรู้จักเขาในฐานะเพื่อนบิดา ชานนจึงควรจะแปลกใจที่ภูวิศรับลูกสาวของอดีตศัตรูเพื่อนเข้ามาทำงาน
“อืม เขากำลังตกงาน” ภูวิศไม่ได้เอ่ยเล่าหรอกว่า หญิงสาวกำลังแย่ เพราะบ้านกำลังจะโดนยึด เขาไม่อยากเล่า มันคงไม่มีประโยชน์ นอกจากสร้างความสาแก่ใจให้อีกฝ่ายเปล่าๆ เท่านี้ปัถว์ก็บอบช้ำมากพอแล้ว
“อย่าบอกนะคะ นน ที่คุณพาเมมาดูรถที่จะซื้อเข้าบริษัท เพราะอยากมาเห็นหน้าพนักงานของคุณภูวิศ” เมวีถามเสียงสะบัด
“ใครกันคะ ปัถว์”หล่อนได้ยินชื่อที่หลุดจากปากภูวิศ “อย่าบอกนะว่าคนเดียวกับที่เคยเป็นคู่คดีของพวกคุณ”
เมวีพอจะรู้เรื่องอยู่บ้าง เธอเคยเห็นข่าว ตอนนั้นยังไม่ได้คบหากับชานน แล้วยังที่ชานนเล่าให้ฟังคร่าวๆ ชานนไม่ตอบ เขายังไม่ได้คบหาเมวีในฐานะคู่รัก บางอย่างก็ไม่จำเป็นต้องให้หญิงสาวรู้ทั้งหมด
ชานนหันมาบอกเมวี “คุณนั่งเล่นรออยู่ที่นี่ล่ะ”
เขาบอกแกมสั่ง แล้วเมวีก็ต้องทำตาม ทั้งที่ใจอยากจะให้เขาพาเธอควงออกไปเดินข้างนอกด้วย แต่เมื่อเขาต้องการอย่างนั้น เมวีก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง หล่อนแคร์เขา
“ไปดูรถกันดีกว่าครับ คุณอา” เขาเอ่ยบอกภูวิศ
อีกฝ่ายพอจะรู้ว่า ประโยคที่เอ่ยชวนนั้น ที่จริงคงอยากไปเจอปัถว์มากกว่า แต่ต่อหน้าเขา ชานนคงไม่กล้าทำอะไรบุ่มบ่ามเพราะเกรงใจภูวิศ
“ไปสิ” ภูวิศตอบรับคำชานน ก่อนเดินนำชายหนุ่มเปิดประตูออกมาบริเวณโชว์รูมรถทางด้านนอก และชานนจึงได้เห็นผู้หญิงคนนั้น
‘ปัถว์ เดชโอลาน’
เธอกำลังยืนคุยกับลูกค้า ชานนมองด้วยความงุนงงไปชั่วครู่เพราะความเปลี่ยนแปลงไปมากของหญิงสาว จากเด็กสาวเพิ่งแรกรุ่นในวันนั้น ผู้หญิงตรงหน้าเขาในเวลานี้เติบโตขึ้นมาก สวยทีเดียว ชานนรีบปัดความคิดนั่นออกจากสมองอย่างรวดเร็ว เขารีบปรับสีหน้าให้เป็นปกติ
ปัถว์ไม่ใช่สาวน้อยที่เป็นลูกคุณหนูอย่างวันที่คบหากับเขา เด็กสาวที่ดูบอบบางจนเขาต้องเฝ้าคอยทนุถนอม ถึงวันนี้...เธอดูคล่องแคล่วกลายเป็นผู้หญิงทำงานเต็มตัว
จริงสินะ...ชานนเหยียดยิ้มที่ริมฝีปากอย่างเยาะหยัน
ได้ข่าวว่า เธอต้องทำงานหนักหาเลี้ยงแม่กับน้องชายแทนพ่อ ปัถว์หันมา หลังจากภูวิศกับชานนเดินเข้าไปใกล้ เธอเบิกตากว้าง ราวกับ
เห็นผีหลอก ริมฝีปากหลุดชื่อชายหนุ่ม ‘ชานน’
ปัถว์ตัวชา
