บทที่ 1 ลูกนอกสมรส (1)
กลับมาถึงบ้าน นาตาชาจึงรีบจัดการอาบน้ำสระผมเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที พอเสร็จเรียบร้อยเธอจึงมานั่งพักผ่อนที่โซฟาหน้าทีวี แต่ความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทั้งวันก็ยังไม่หายไป เธอแหงนคอพิงพนักโซฟาแล้วปิดเปลือกตาลง บางทีการได้อยู่กับความเงียบก็ช่วยผ่อนคลายได้เหมือนกัน
ระหว่างนั้นเสียงฝีเท้าของใครบางคนก็ดังขึ้น พอลืมตาเธอจึงได้รับรอยยิ้มหวาน ๆ จากมารดา
“วันนี้กลับบ้านเร็วนี่ลูก เลิกงานเร็วเหรอ?”
“ไม่ดีเหรอคะ เราจะได้ทานมื้อค่ำด้วยกัน” นาตาชาตอบไม่ตรงคำถามซ้ำยังทำหน้าทะเล้น
นางมัลลิกานิ่วหน้ามองลูกสาวที่ร่าเริงผิดปกติ ก็นี่ไม่ใช่นิสัยของนาตาชาเลย อีกอย่างเมื่อครู่นางยังเห็นนาตาชามีท่าทางเหนื่อย ๆ และดูเครียด ๆ
“ดีสิลูก แม่จะได้ไม่เหงา ว่าแต่หนูมีเรื่องไม่สบายใจหรือเปล่า?”
“หน้าหนูมันฟ้องเหรอคะ?” หญิงสาวย่นคิ้วถาม
“ก็ใช่น่ะสิ ดูซิทำคิ้วย่นเชียว”
พอถูกมารดาถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง รอยยิ้มที่ตั้งใจปั้นแต่งขึ้นมาจึงอันตรธานหาย นาตาชาถอนหายใจออกมา พลางขยับตัวนั่งตัวตรง
“พอดีหนูมีเรื่องกับสามีของผู้จัดการน่ะค่ะ ก็เลยถูกไล่ออก”
นางมัลลิกามองหน้าลูกสาว ก่อนเดินมาทิ้งตัวนั่งข้าง ๆ “หนูโอเคใช่มั้ย?”
“โอเคค่ะแม่ ได้ชกหน้าตาแก่หัวงูนั่นหนูโอเคมากเลย”
ถึงนาตาชาพยายามแสดงออกว่าไม่มีเรื่องหนักใจใด ๆ แต่มีหรือที่นางมัลลิกาจะดูลูกตัวเองไม่ออก นางเลี้ยงนาตาชามากับมือ และลูกสาวของนางก็เป็นประเภทปิดบังความรู้สึกไม่เก่งซะด้วยสิ
“แม่ว่าบางทีหนูอาจไม่เหมาะกับงานบริการ”
“ก็คงงั้น” นาตาชายอมรับหน้าตาย แล้วถอนหายใจออกมา “เครียดเหมือนกัน เฮ้อ... เพิ่งเข้าใจอารมณ์คนตกงาน”
“หนูกังวลเรื่องเงินค่าเทอมล่ะสิ”
หญิงสาวเม้มปากอวบอิ่มเป็นเส้นตรง สบตากับมารดาแล้วพยักหน้ายอมรับ “ก็นิดหน่อยค่ะ”
“แม่บอกแล้วไงว่าแม่ยังมีเงินสำรองเก็บอยู่ ตอนนี้เรายังอยู่ได้อย่างสบายไปอีกหลายเดือน ส่วนเรื่องค่าเทอม เดี๋ยวแม่จัดการให้เอง”
“ไม่ค่ะ หนูโตแล้ว หนูควรรับผิดชอบตัวเองมากกว่า” หญิงสาวรีบปฏิเสธ
นางมัลลิกาได้รับฟัง ถึงลูกสาวของนางจะได้รับการยกย่องให้เป็นคุณหนูของตระกูลคาเตอร์ แต่ชีวิตของนาตาชาก็ไม่ได้สุขสบายเหมือนลูกสาวคนอื่น ๆ ของมิสเตอร์จอห์น คาเตอร์เลย จริงอยู่ว่าจอห์น คาเตอร์ดูแลรับผิดชอบเรื่องที่อยู่ และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นให้กับนางและลูก แต่นาตาชาก็ต้องทำงานพิเศษตลอด จนร้านขายไอศกรีมเลิกกิจการ นาตาชาจึงต้องเปลี่ยนงานใหม่
“เอาเท่าที่ไหวก็พอยาหยี เทอมสุดท้ายแล้วแม่อยากให้หนูตั้งใจเรียนมากกว่า”
“ค่ะแม่” หญิงสาวรับคำเสียงแผ่ว
ถึงแม่จะยื่นมือเข้ามาช่วย แต่เธอก็ไม่อยากรับความช่วยเหลือตรงนี้ อีกอย่างเงินสำรองก็เป็นเงินที่ได้จากน้ำพักน้ำแรงของแม่ เธอจึงไม่อยากแตะต้องมันโดยไม่จำเป็น ไม่ใช่หยิ่งนะ แต่เงินน่ะเวลาใช้จะรวดเร็วมาก แต่เวลาหากว่าจะได้มาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และเธอก็รู้คุณค่าของมันเป็นอย่างดี
“ถ้าไม่ไหวก็เอาที่แม่ไปก่อน”
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูว่าพรุ่งนี้หนูจะไปหางานใหม่”
“เฮ้อ ดื้อจริงลูกคนนี้ พักให้หายเหนื่อยก่อนดีมั้ย แม่ดูว่าพักนี้เราเครียด ๆ นะ”
“ก็นิดหน่อยค่ะ คิดว่าได้นอนสักตื่นก็คงหาย” หญิงสาวยอมรับไปตรง ๆ พลางซบหน้ากับไหล่มารดา “แม่คะ ถ้าหนูเรียนจบแล้ว เรากลับไปอยู่เมืองไทยกันนะคะ”
นางมัลลิกาลูบศีรษะของบุตรสาวเบา ๆ ด้วยความรักและเอ็นดู “ทำไมถึงอยากอยู่เมืองไทยล่ะ?”
“ก็เมืองไทยเป็นบ้านของแม่ อีกอย่างหนูอยากไปให้พ้น ๆ มาเฟีย” น้ำเสียงของนาตาชากร้าวขึ้นเมื่อเอ่ยถึงมาเฟีย
“แม่เข้าใจความรู้สึกของลูกนะ แต่ถ้าพ่อไม่ยอมปล่อยพวกเรา ยังไงเราก็กลับเมืองไทยไม่ได้” นางมัลลิกาบอกด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ อย่างปลงตกกับชีวิตและการเป็นผู้หญิงนอกสมรสของมาเฟีย
