บท
ตั้งค่า

Chapter 3 ยัยเพิ้ง

คชา คือบุคคลที่มีบุญคุณท่วมหัว เขาคือเพื่อนรักของบิดา หากไม่มีเขาสักคนเธอก็คงนำพาโรงงานเล็กๆ ของเธอก้าวผ่านอุปสรรคมาไม่ได้

“คุณลิน งานชุดนี้ทำต่อได้เลยไหมครับ”

เทิดศักด์ หนุ่มใหญ่วัยรุ่นพ่อเดินถือแบบเข้ามาถาม ลลินวางดินสอในมือลงบนกระดานร่างแบบก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นมองคนมาใหม่

“น้าเทิดทำต่อไปได้เลยค่ะ ลินฝากดูแลความเรียบร้อยในโรงงานแทนลินด้วย” เทิดศักดิ์พยักหน้าหงึกๆ อย่างเข้าใจ

ลลินทุ่มเททำงานหามรุ่งหามค่ำอย่างนี้มาร่วมเดือน แก้แบบงานไม่รู้กี่หน ชุดเครื่องเพชรที่อยู่ในมือของเธอก็เป็นชุดสุดท้ายที่เธอจะส่งเข้าโชว์ในงานที่จะมีขึ้นกลางเดือนหน้า

“พักบ้างเถอะครับ”

“ลินขอตรวจรายละเอียดรอบสุดท้าย พรุ่งนี้จะได้ส่งให้ช่างทำ ดูให้ละเอียดและเผื่อเวลาเอาไว้สักนิดดีกว่า หลังจากที่ทุกอย่างออกมาดีแล้วค่อยพักก็ได้”

“แต่ถ้าทรุดก่อนกลางทาง มันก็จะยิ่งแย่หนักไปกว่าเดิมนะ”

“ลินรู้ว่าลินยังไหว”

“น้าก็รู้ว่าลินไหว เพราะลินก็ได้พิสูจน์ให้ทุกคนเห็นแล้วว่าสามารถผ่านเรื่องราวหนักๆ มาได้ แต่น้าก็ยังห่วงอยู่ดี บางทีถ้าเราได้พักสมองบ้าง ให้สมองปลอดโปร่ง ร่างกายพร้อมทำงาน งานอาจจะออกมาดีกว่าที่ทนทู่ซี้ทำอย่างนี้นะ”

“ขอบคุณค่ะน้าเทิด แต่ลินอยากให้แน่ใจว่าทุกอย่างจะออกมาดีที่สุดตามความสามารถของลิน ถึงตอนนี้ลินจะพัก แต่ก็คงฝืนข่มตาให้หลับลงไม่ได้ ในเมื่อในหัวมีแต่ลายพวกนี้” หญิงสาวบอกเสียงเรียบ เหลือบสายตาไปมองกระดาษแผ่นที่วางอยู่บนโต๊ะประกอบคำพูด

“ถ้าลินว่าอย่างนั้น น้าก็คงห้ามไม่ได้ ได้แต่คอยเป็นห่วงเท่านั้น”

“เจ๊...กินข้าว” เสียงเรียกมาพร้อมกับจานข้าวราดหมูผัดพริกอ่อนง่ายๆ ไอร้อนเบาๆ จากอาหารที่เพิ่งปรุงสุกกับกลิ่นหอมฉุยยั่วน้ำลาย

“น้าไปทำงานต่อนะลิน” เทิดศักดิ์ขอตัวแล้วเดินเลี่ยงออกไป

ลลินหันมาให้ความสนใจกับชิ้นงานของเธอเหมือนเดิม เพียงแค่ปรายตามองคนมาใหม่เท่านั้น

ตำแหน่ง “เจ๊เพิ้ง” ที่ลลินถูกยัดเยียดตำแหน่งนี้มาหลายปี ไม่เพียงเท่านี้ ลลินยังมีหลายฉายาให้เลือกใช้ ทั้งงก เขี้ยว เค็ม มารวมตัวกันในตัวเธอหมดอย่างไม่ได้นัดหมาย แถมรสนิยมการแต่งตัวยังเชยฉ่ำติดลบมหาศาล

เพราะต้องแบกภาระ เธอจึงเลือกตัดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นออก และหนึ่งในนั้นคือเครื่องประทินความงามและเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแบรนด์เนม เพราะอย่างนี้เธอจึงคงรักษาตำแหน่งสาวโสดที่ไม่เคยมีแฟนมาได้ตลอดทั้งชีวิต

แต่ก็เป็นความโชคดีของเธออีกอย่าง “ลลิน” มีผิวขาวเนียนละเอียด ดวงตากลมโตดำขลับ คิ้วหนาโก่งอย่างไม่ต้องเขียนเพิ่มให้ยุ่งยาก แพขนตาเด้งงอนแบบไม่ต้องพึ่งพามาสคาราเหมือนหญิงสาวหลายคน หากแต่ผู้คนกลับมองข้ามสิ่งเหล่านั้นไป มองเห็นแต่รูปภายนอกเฉิ่มเชยเท่านั้น

ปานดาววางจานลงตรงหน้า เธอคือหนึ่งในลูกน้องลูกเสี้ยวที่ลลินแอบแจกฉายา ลูกเสี้ยวของเธอไม่ได้หมายถึงเชื้อสายทางสายเลือด แต่ปานดาวเป็นสาวหล่อมาดทอมบอยด์ เคยมีแฟนเป็นผู้หญิงเป็นตัวเป็นตน แต่กลับดูแลการแต่งตัวดีเสียกว่าเจ้านายสาว

ลลินละสายตาจากแบบร่าง ปรายตามองปานดาวสักครู่ แล้วหันกลับไปเหมือนเดิม

“วางไว้ก่อน” ลลินบอกสาวผมสั้นใจมาดแมน

“รับตักเข้าปากสักสิบนาที จ้องยังกะแฟน แนบแน่นยิ่งกว่าสามี เพราะอย่างนี้ไงถึงอยู่มาได้จนป่านนี้ ไม่มีใครจีบ”

“ปากอย่างนี้น่าไล่ออก” ลลินบ่นเบาๆ มือยังขยับยิกๆ

“ออกไปแล้วใครจะหาข้าวหาน้ำให้เจ๊กิน ผู้หญิงที่ช่วยตัวเองยังไม่ได้อย่างเจ๊น่ะ”

“ไม่เห็นต้องพึ่งใคร”

“นึกถึงความห่วงใยของคนอื่นบ้าง เจ๊เกิดเป็นอะไรไปตอนนี้ ปานจะเอาเงินที่ไหนเลี้ยงดูครอบครัว ส่งน้องเรียนพาหญิงเที่ยว” ผู้หญิงที่เปิดตัวว่ารักหญิงอย่างเป็นทางการตอบกลับ แม้ว่าหน้าตาของเธอจะสวยกว่าผู้หญิงหลายคนเสียอีก

“ที่แท้ก็ห่วงตัวเอง” ลลินเย้าต่อ

“เป็นซะอย่างนั้น มองโลกในแง่ร้าย ไม่เข้าใจความรู้สึกคนอื่น ทำมึนต่อการเอาใจใส่ อันนี้ก็เป็นคุณสมบัติของผู้หญิงโสด เตรียมขึ้นคาน”

ลลินพยักหน้าหงึกอย่างจำยอม “อืม...ถ้าปากมันหูรูดตาย ฉันก็จะไม่ว่าแกหรอกปาน” ลลินเหน็บ เธอวางมือจากงานตรงหน้าแล้วหมุนเก้าอี้ออกมา ยอมตักข้าวเข้าปาก พร้อมกับหาเรื่องคุยกับลูกน้องสาวหล่อไปด้วย

“ถามจริงๆ เถอะ หน้าตาฉันดูแย่มากขนาดนั้นเลยหรือ”

“ก็ไม่แย่มากมายอะไรหรอก หากเจ๊รู้จักแต่งเนื้อแต่งตัวเสียบ้าง”

“ถ้าจะมีใครมองฉันแค่รูปลักษณ์ภายนอก และต้องอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต ฉันขออยู่คนเดียวไปจนตายเลยดีกว่า ฉันไม่อยากต้องฝืนความรู้สึกตัวเองเอาใจใคร รั้งผู้ชายที่ไม่เห็นคุณค่าในตัวด้วยเปลือกนอกที่ห่อหุ้ม เสียเวลาทำมาหากินเปล่าๆ”

“แต่เจ๊ก็ต้องเข้าใจ เฟิร์สอิมเพสชั่นนะ รู้จักมั๊ย”

“เออ...ถ้ามันยุ่งยากขนาดนั้น ฉันก็ขอเกาะคานไปต่อก็แล้วกัน”

“คงได้เกาะจริงๆ” ปานดาวบ่นงึมงำ รำพึงเสียงเบา แต่ก็แว่วเข้าหูอีกคนจนได้

“แช่งกันเลยหรือไง”

“เปล่าแช่งสักหน่อย แต่มันเป็นเรื่องจริง”

“เอาเป็นว่า...ฉันหาเลี้ยงตัวเองได้ก็พอ โอเคหรือเปล่า”

“ปานก็ว่าอย่างนั้นแหละ ผู้ชายมาอยู่กับเจ๊ไม่ได้หรอก ทั้งงก ทั้งเค็ม ทั้งเขี้ยวลากดิน”

“ปานดาว!” ลลินขึ้นเสียงปราม เธอรู้ว่าลูกน้องให้ฉายาว่าอย่างไรบ้าง แต่ก็ไม่อยากฟังแบบเต็มๆ หู ต่อหน้าอย่างนี้

“โอเค...ปานไปก่อนแล้วกัน” ปานดาวบอกพร้อมกับขยับตัวลุกขึ้นยืน

“เดี๋ยวปาน!” ปานดาวหันกลับมาตามเสียงเรียก ลลินหยิบเอกสารอีกปึกยื่นให้สาวหล่อปากจิ้มลิ้ม

“เอาแบบชุดนี้ไปทำก่อนได้เลย พี่ขอดูรายละเอียดอีกชุดก่อนสักรอบ ไม่เกินสองวันเราคงได้เริ่มทำกันแล้ว”

ปานดาวพยักหน้าเข้าใจ รับเอกสารในมือเจ้านายสาวก่อนจะเดินออกไป

โรงงานมีพนักงานที่เป็นช่างทองเก่าแก่อยู่ไม่ถึงสิบคน ช่างทำทองส่งร้านแถวเยาวราชที่เป็นโรงงานดั้งเดิม อีกส่วนหนึ่งเป็นพนักงานหนุ่มสาวไฟยังแรง ลลินรับมาออกแบบจิวเวลลี่รับทำด้านนี้โดยตรงอีกหลายคนเปิดโดยแยกบริษัทเล็กๆ บริษัทออกแบบของเธอกำลังจะไปได้สวย ด้วยลวดลายที่โดดเด่นไม่ซ้ำใครพลอยทำให้ราคางานถีบตัวขึ้นสูงตามตลาดคู่แข่งไปด้วย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel